WI : ค้าส่ง-โครงการ

WI-WS-001 การจัดทำใบเสนอราคา

1.วัตถุประสงค์

เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อควบคุมมาตรฐานในการปฏิบัติงานของ แผนกค้าส่ง-โครงการ ในเรื่องของ “การจัดทำใบเสนอราคา” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเสนอราคา P-WS-3 เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในด้านการเสนอราคาที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ในการพิจารณาสั่งซื้อสินค้า 

2.ขอบเขต

3. หน้าที่และความรับผิดชอบ 

3.1 ผู้อำนวยการฝ่ายขาย

3.2 ผู้จัดการส่วนค้าส่งโครงการ

3.3 พนักงานขาย (พนักงานขายนอกสำนักงาน / พนักงานขายในสำนักงาน)

3.4 ธุรการขาย

  4.คำจำกัดความ

  1. เอกสารที่เกี่ยวข้อง

-

  1. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน

image-1656826018649.png

7.รายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงาน

7.1 กรณีโทรศัพท์สั่งซื้อสินค้า หรือโทรศัพท์ขอราคา

  1. ให้บันทึกข้อมูลการรับคำสั่งจากการโทรศัพท์ลงใน ใบแบบฟอร์มบันทึกข้อตกลงกับลูกค้า (RT3-F01)
  2. จัดทำใบเสนอราคา (WS3-F01) ในระบบ BC ดังนี้

7.2 กรณีมีการส่งโทรสารใบสั่งซื้อ 

มีการทราบราคาแล้วในเบื้องต้น หรือมีการสั่งซื้อมาแล้วระยะหนึ่ง ให้จัดทำใบเสนอราคาในระบบ BC ประกบกับใบสั่งซื้อ ก่อนออกเอกสารการสั่งขายทุกครั้ง 

ให้นำข้อมูลจาก ใบสั่งซื้อของลูกค้า จัดทำเป็นใบเสนอราคา (WS3-F01) ในระบบ BC ดังนี้

7.3 กรณีส่งโทรสารด้วยใบขอราคา 

เพื่อขอทราบราคาเบื้องในการพิจารณาซื้อ ให้จัดทำใบเสนอราคา (WS3-F01) ด้วยระบบ BC ดังนี้ 

หมายเหตุ 

  1. กรณีเป็นการจัดทำใบเสนอราคา (WS3-F01) เพื่อแก้ไข จากการต่อรองจากลูกค้าให้ระบุการ REVICE ครั้งใหม่ทุกครั้ง
  2. พนักงานขายนำเสนอเพื่อขออนุมัติ โดยผ่านหัวหน้าแผนก, ผู้จัดการส่วนค้าส่ง และผู้อำนวยการฝ่าย 
  1. แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง

WI-WS-002 การรับคำสั่งขาย Sale Order

1.วัตถุประสงค์

เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อควบคุมมาตรฐานในการปฏิบัติงานของ แผนกค้าส่ง-โครงการ ในเรื่องของ “การรับคำสั่งซื้อ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปิดการขาย (WS4-P01) เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในด้านการรับคำสั่งซื้อที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ในการปิดการขาย 

2.ขอบเขตของระเบียบการปฏิบัติงาน

    -

3. หน้าที่และความรับผิดชอบ

3.1 ผู้อำนวยการฝ่ายขาย

พิจารณาให้ส่วนลดสูงสุด และตัดสินใจจัดลำดับความสำคัญลูกค้า

3.2 ผู้จัดการส่วนค้าส่งโครงการ

พิจารณาตัดสินใจจัดลำดับความสำคัญลูกค้า

3.3 พนักงานขาย (พนักงานขายนอกสำนักงาน / พนักงานขายในสำนักงาน)

3.4 ธุรการขาย

3.5 ฝ่ายการเงินและสินเชื่อ

พิจารณาอนุมัติวงเงิน และแจ้งผลการอนุมัติให้ทางลูกค้าทราบ

4.คำจำกัดความ

  1. เอกสารที่เกี่ยวข้อง

-

  1. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน

image-1656826184572.png

7.รายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงาน

7.1 การรับคำสั่งซื้อ กรณีลูกค้าส่งเอกสารการสั่งซื้อ มาถึงพนักงานขาย 

  1. นำใบสั่งซื้อ แนบใบเสนอราคา (WS3-F01) ที่ได้เสนอราคาไว้แล้ว
  2. อนุมัติใบเสนอราคา เพื่อดึงข้อมูล จัดทำใบสั่งขายด้วยระบบ BC ดังนี้
    1. เข้าระบบ BC ด้วย รหัสผ่านของพนักงานขาย
    2. เลือกคำสั่ง “ อนุมัติใบเสนอราคาสินค้า “
    3. ระบุ “ เลขที่ใบเสนอราคา “ ที่ต้องการอนุมัติ
    4. เลือกคำสั่ง “ ประมวลผลเงื่อนไข “ 
    5. เลือก “ ใบเสนอราคา “ ที่ต้องการอนุมัติ หรือ เลือกคำสั่ง “ Select All “
    6. กด “ F11 “ หรือ เลือกคำสั่ง “ อนุมัติรายการ “
    7. เลือกคำสั่ง “ ตกลง “
    8. เข้าเมนู “ จัดขาย ”
    9. เลือกคำสั่ง “ ใบสั่งขายสินค้า ”

SCV คือ ขายเชื่อ รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
SHV คือ ขายสด รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
SCN คือ ขายเชื่อ ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
ROV คือ ใบจองสินค้า ส่งสินค้าให้

  1. เลือกคำสั่ง “ เลขที่ใบสั่งขาย/สั่งจอง ”
  2. เลือกคำสั่ง “ รหัสลูกค้า “ เพื่อระบุลูกค้าที่สั่งซื้อ
  3. เลือกคำสั่ง “ Ctrl + F3 หรือ เลือกใบเสนอราคา “
  4. เลือกใบเสนอราคาที่ต้องการดึงข้อมูลมาทำรายการในใบสั่งขาย
  5. เลือก “ ตกลง “
  6. ตรวจสอบจำนวนสินค้าตามที่ลูกค้าต้องการว่ามีครบจำนวนหรือไม่

7.2 การรับคำสั่งซื้อ กรณีลูกค้าโทรศัพท์สั่งซื้อ หรือเข้ามาที่สำนักงาน โดยสั่งซื้อกับพนักงานขาย 

  1. ให้พนักงานขายบันทึกรายละเอียดการสั่งซื้อ ในใบบันทึกข้อตกลงกับลูกค้า (RT3-F01)
  2. นำใบบันทึกข้อตกลงกับลูกค้า (F-RT-301) แนบใบเสนอราคา (WS3-F01) ที่ได้จัดทำขึ้นเพื่ออนุมัติใบเสนอราคา แล้วดึงข้อมูล สำหรับจัดทำใบสั่งขายด้วยระบบ BC ดังนี้
    1. เข้าระบบ BC ด้วย รหัสผ่านของพนักงานขาย
    2. เลือกคำสั่ง “ อนุมัติใบเสนอราคาสินค้า “
    3. ระบุ “ เลขที่ใบเสนอราคา “ ที่ต้องการอนุมัติ
    4. เลือกคำสั่ง “ ประมวลผลเงื่อนไข “ 
    5. เลือก “ ใบเสนอราคา “ ที่ต้องการอนุมัติ หรือ เลือกคำสั่ง “ Select All “
    6. กด “ F11 “ หรือ เลือกคำสั่ง “ อนุมัติรายการ “
    7. เลือกคำสั่ง “ ตกลง “
  3. เข้าเมนู “ จัดขาย ”
  4. เลือกคำสั่ง “ ใบสั่งขายสินค้า ”

เงื่อนไขการขาย 

SCV คือ ขายเชื่อ รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
SHV คือ ขายสด รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
SCN คือ ขายเชื่อ ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
ROV คือ ใบจองสินค้า ส่งสินค้าให้

  1. เลือกคำสั่ง “ เลขที่ใบสั่งขาย/สั่งจอง ”
  2. เลือกคำสั่ง “ รหัสลูกค้า “ เพื่อระบุลูกค้าที่สั่งซื้อ
  3. เลือกคำสั่ง “ Ctrl + F3 หรือ เลือกใบเสนอราคา “
  4. เลือกใบเสนอราคาที่ต้องการดึงข้อมูลมาทำรายการในใบสั่งขาย
  5. เลือก “ ตกลง “
  6. ตรวจสอบจำนวนสินค้าตามที่ลูกค้าต้องการว่ามีครบจำนวนหรือไม่
  1. สั่งพิมพ์ใบสั่งขายด้วยโปรแกรมการพิมพ์

7.3 กรณีเอกสารการสั่งขาย มีการแจ้งให้ทราบว่า ลูกค้าเกินวงเงินการอนุมัติขาย ให้พนักงานขายปฏิบัติดังนี้ 

พนักงานขายจัดทำใบขออนุมัติการขายเกินวงเงิน (F-WS-401) เสนอหัวหน้าแผนกสินเชื่อ เพื่อพิจารณาอนุมัติ

กรณีไม่อนุมัติให้พนักงานขายแจ้งลูกค้า และอาจแนะนำการซื้อด้วยเงินสดแทน การบันทึกรับข้อตกลง 

7.4 การจัดทำใบ BACK ORDER 

กรณีที่สินค้าไม่เพียงพอต่อการจัดส่ง หรือ สินค้าที่สั่งเป็นสินค้าสั่งพิเศษ ให้พนักงานธุรการขายจัดทำใบ BACK ORDER (F-WS-402) และแนบสำเนาใบสั่งซื้อจากลูกค้า (ถ้ามี) เพื่อส่งมอบไปแผนกบริหารสินค้า เพื่อดำเนินการสั่งซื้อสินค้ามาให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ตามระเบียบปฎิบัติการจัดทำใบ BACK ORDER (P-GR-2)

   การจัดทำใบ BACK ORDER (P-GR-2) ด้วยระบบ BC ดังนี้ 

BCV คือ ขายเชื่อ รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

BCN คือ ขายเชื่อ ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

BHV คือ ขายสด รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

  1. แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง

WI-WS-003 การวางเป้าหมายการขายส่ง แผนกขายส่ง-โครงการ

1.วัตถุประสงค์

   ระเบียบปฏิบัติฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ส่วนค้าส่งโครงการ ถือเป็นแนวปฏิบัติ ในวางแผนการขาย ของส่วนค้าส่งโครงการ เพื่อให้กระบวนการขายมีเป้าหมายในการขายที่ชัดเจน และเป็นแนวทางในการติดตามให้เป็นไปตามเป้าหมาย

2.ขอบเขตของระเบียบการปฏิบัติงาน

   ครอบคลุมเป้าหมายการขาย สำหรับลูกค้า ของส่วนค้าส่งโครงการ เท่านั้น

  1. หน้าที่และความรับผิดชอบ

ผู้อำนวยการฝ่ายขาย

ผู้จัดการส่วน

หัวหน้าแผนก

4.คำจำกัดความ

  1. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน

image-1656826413215.png

6.รายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงาน

6.1 การแจ้งแผนการขาย

6.2 การกระจายเป้าหมายการขาย

6.3 การอนุมัติแผนการขายรวมค้าส่ง

6.4 การแจกจ่ายเป้าหมายการขาย

6.5 การจัดทำแผนการขายประจำแผนก

6.6 การอนุมัติแผนการขายประจำแผนก

6.7 กระบวนการติดตามการขาย

6.8 การปรับปรุงแผนการขาย

  1. บันทึกคุณภาพ

WI-WS-004 การติดต่อลูกค้า แผนกขายส่ง-โครงการ

1.วัตถุประสงค์

ระเบียบปฏิบัติฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ส่วนค้าส่งโครงการ ถือเป็นแนวปฏิบัติ ในการติดต่อลูกค้า เพื่อขอข้อมูลเบื้องต้นในการขออนุมัติการเปิดบัญชีลูกค้าใหม่ หรือโครงการใหม่ที่ต้องขออนุมัติวงเงิน ของส่วนค้าส่ง เท่านั้น 

2.ขอบเขตของระเบียบการปฏิบัติงาน

ครอบคลุมการติดต่อลูกค้าในกรณีที่เป็นลูกค้าใหม่ หรือโครงการใหม่ ที่ต้องขออนุมัติการเปิดบัญชี หรือวงเงินโครงการสำหรับลูกค้า ของส่วนค้าส่งเท่านั้น 

3.หน้าที่และความรับผิดชอบ

ผู้จัดการส่วน

หัวหน้าแผนกสินเชื่อ

หัวหน้าแผนก

คณะกรรมการสินเชื่อ

พนักงานขาย

พนักงานสินเชื่อ

ธุรการขาย

4.คำจำกัดความ

   บริษัทฯ หมายถึง บริษัท นพดลพานิช จำกัด         

5. เอกสารที่เกี่ยวข้อง 
   - 

6. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน

image-1656826575064.png

    รายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงาน

6.1 การรับเป้าหมายการขาย

     พนักงานขายรับแผนการขายส่งประจำแผนก ( WS1-F02 ) จากหัวหน้าแผนก 

6.2 การเข้าพบเพื่อนำเสนอและขอข้อมูลอื่น ๆ

     พนักงานขายติดต่อลูกค้าเพื่อนำเสนอและขอข้อมูลอื่น ๆ มีแนวทางในการปฏิบัติดังนี้ 

6.3 การขอเปิดบัญชีสินเชื่อ

6.4 การพิจารณาและลงความเห็นเบื้องต้น

6.5 การพิจารณาอนุมัติเปิดบัญชีสินเชื่อ

6.6 การลงบันทึกข้อมูลลูกค้า

6.7 การสรุปรายงานโครงการใหม่

  1. แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง

WI-WS-005 เทคนิคการขายวัสดุก่อสร้างให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำNew Page

image-1662171021839.png

1. ก่อนขาย


ในการเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้าง ก่อนจะนำเสนอขายสินค้าให้ลูกค้า คุณจะต้องเตรียมตัวและเตรียมข้อมูลทุกอย่างให้พร้อมก่อน ซึ่งก็จะมี 6 สิ่งที่ต้องเตรียมด้วยกัน นั่นก็คือ

1.1) เตรียมตัว


ก่อนจะไปขายสินค้าให้ลูกค้า คุณต้องดูมีความน่าเชื่อถือ มีข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับสินค้า และรอบรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ก่อสร้าง มีข้อมูลที่ถูกต้องและตรงกับสิ่งที่ลูกค้าอยากรู้ มีสื่อประกอบเพิ่มความเข้าใจให้ลูกค้า โดยสิ่งที่คุณจะต้องทำหลัก ๆ คือ 

เรียนรู้เกี่ยวสินค้าทั้งหมด ทั้งวิธีการใช้งาน จุดแข็งของสินค้า ความโดดเด่นของมัน เรียนรู้ว่าสิ่งไหนสามารถใช้ร่วมกันได้ เพื่อที่จะส่งเสริมการขายร่วมกัน 
Tip : นอกจากจะฝึกเรียนรู้สินค้าแล้ว ก็ควรท่องจำไว้ และฝึกพูดกับกระจกก็จะดีมาก เพื่อที่จะได้เห็นว่าตัวเองควรแก้ไขตรงจุดไหน เมื่อลงสนามจริงจะได้ไม่เกร็งด้วยยังไงล่ะคะ

1.2) เตรียมข้อมูลลูกค้า 


ในช่วงเริ่มต้น หากคุณได้ลูกค้าใหม่เข้ามาที่ร้าน คุณจะต้องบันทึกข้อมูลของลูกค้าใน 2 องค์ประกอบหลักเลย ก็คือ 

ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ลูกค้ามักจะซื้อ สินค้าที่ลูกค้ามักจะขาด คำถามที่ลูกค้ามักจะถาม เป็นต้น 
ข้อมูลเกี่ยวกับตัวลูกค้า ควรบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับบ้านหรือสถานที่ที่เขากำลังจะไปก่อสร้าง ที่อยู่ เบอร์โทร ประวัติการซื้อ เพื่อจะได้ให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่องในการขายครั้งต่อไป และจะได้ไม่แนะนำซ้ำในสิ่งที่ลูกค้าซื้อไปแล้ว เพื่อความเป็นมืออาชีพของคุณเอง 
เตรียมตัวศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างในร้าน
พนักงานเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าในร้านวัสดุก่อสร้าง

image-1662171477504.png

1.3) เตรียมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง 


ข้อมูลที่เกี่ยวข้องควรเป็นสิ่งที่ลูกค้าจะต้องทราบ เพื่อให้เกิดความชัดเจนกับลูกค้ามากที่สุด และจะไม่ทำให้เกิดปัญหาหรือความเข้าใจผิดกันในภายหลังได้ข้อมูลที่ต้องเตรียม ก็อย่างเช่น

ค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง 
ขอบเขตในการให้บริการ 
โปรโมชั่น 


เงื่อนไขและข้อมูลที่ลูกค้าต้องทราบ 


1.4) เตรียมข้อมูล ถาม-ตอบ


ลองลิสต์คำถามที่ลูกค้าจะถามเอาไว้ และเตรียมคำตอบให้ลูกค้า เพื่อตอนขายจริงคุณจะได้ไม่มีช่องว่างที่ลดความเชื่อมั่นของลูกค้าหากคุณ “ไม่รู้ว่าจะตอบอะไร” ตัวอย่างคำถามเช่น 

ทาสีบ้านแบบนี้ ควรจะเลือกกระเบื้องแบบไหน? 
โถสุขภัณฑ์แบบนั้น แตกต่างจากแบบนี้ยังไง? 
ก๊อกน้ำยี่ห้อไหนดีกว่ากัน?


1.5) เตรียมตอบข้อโต้แย้งกับลูกค้า


อาจฟังดูคล้ายกับการตอบคำถามข้อมูลสินค้า แต่จริง ๆ แล้วมันต่างกันค่ะ เพราะการโต้แย้งส่วนใหญ่จะมาในเชิง Negative เช่น 

ทำไมสินค้าร้านคุณแพงกว่าร้านอื่น? 
ทำไมถึงไม่มีของแถม? 
ทำไมลดราคาไม่ได้? 
ทำไมถึงไม่ส่งฟรี? 
ทำไมสินค้ามีไม่ครบ?


ซึ่งคุณควรจะต้องเตรียมคำถามเหล่านี้ เพื่อที่จะตอบลูกค้าพวกเขาเข้าใจ เพราะเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับคุณอย่างแน่นอน ฉะนั้นลองหาจุดบกพร่องของร้านคุณที่ลูกค้ามีโอกาสจะถามได้ หลังจากนั้นหาคำตอบที่สมเหตุสมผลมากที่สุด

1.6) เตรียมอุปกรณ์ประกอบการสื่อสาร


การมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้เพื่อประกอบการขาย จะช่วยให้ลูกค้าเห็นภาพได้ง่ายมากขึ้นนะคะ พอถึงตอนที่คุณอธิบายสินค้า มันจะเพิ่มความน่าสนใจให้คุณมากเลยทีเดียว อีกทั้งยังกระตุ้นความอยากซื้อของลูกค้าด้วยค่ะ เช่น

โบร์ชัวร์โปรโมชั่น
แคตตาล็อกสินค้า
โปสเตอร์แนะนำสินค้า


2. ระหว่างที่ขาย


 มาถึงขั้นตอนของการลงมือจริงแล้วค่ะ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มขายเป็นครั้งแรกก็อาจจะตื่นเต้นหน่อย ๆ นะ แต่ถ้าคุณฝึกมาจนพร้อมแล้ว ก็ลุยตามขั้นตอนนี้กันเลย! 

2.1) โชว์เสน่ห์ในการขายของคุณ


คุณจะต้องดูดีทั้งบุคลิก เสื้อผ้าหน้าผม การแต่งกายควรจะสุภาพเรียบร้อย ดูน่าเชื่อถือ สิ่งที่สำคัญเลยคือรอยยิ้มที่เป็นมิตร การพูดจาด้วยน้ำเสียงที่น่าฟัง  จะเพิ่มโอกาสทางการขายได้มากขึ้นแทบจะ 80% เลยค่ะ 


2.2) ตรวจสอบความต้องการของลูกค้า 


สอบถามข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับความต้องการของพวกเขา เช่น

สิ่งที่จะก่อสร้างนั้นเป็น บ้านหรือตึก? 
มีขนาดใหญ่แค่ไหน? 
ต้องการสินค้ามากเท่าไหร่? 
อยากทำออกมาเป็นสไตล์ไหน มินิมอล, ลอฟท์, หรือโมเดิร์น?
ต้องการโทนเป็นสีเข้มหรือสีอ่อน?
ต้องการเครื่องมือช่างอะไรเพิ่มเติมไหม? 
งบประมาณที่ลูกค้าตั้งไว้ (เพื่อจะได้จัดสินค้าในราคาที่ลูกค้าต้องการได้) 
สิ่งเหล่านี้ คุณควรจะสอบถามลูกค้าให้ครบถ้วน เพื่อคุณจะได้นำเสนอสินค้าที่ตรงโจทย์ความต้องการของพวกเขาได้มากที่สุด 

2.3) การกระตุ้นและโน้มน้าว 


เมื่อคุณศึกษาสินค้ามาอย่างดีแล้ว คุณจะทราบถึงจุดเด่นของสินค้าแต่ละอัน เมื่อถึงเวลาที่ลูกค้ามีความสนใจแล้ว คุณก็กระตุ้นพวกเขาโดยการนำจุดเด่นของสินค้านั้น ๆ ออกมาพูด พูดถึงคุณสมบัติของมัน ว่ามันทำอะไรได้บ้าง มีฟังก์ชั่นอย่างไร เรื่องที่ควรหยิบยกมาพูด เช่น 

คุณภาพของสินค้า
ความสวยงามของสินค้า 
ความทนทาน 
แบรนด์ที่น่าเชื่อถือ 
การรับประกัน 
นอกจากพูดข้อดีของมันไปแล้ว คุณก็ควรหาสื่อมาประกอบการนำเสนอ อย่างที่เราได้บอกให้คุณเตรียมไว้ในเทคนิคก่อนหน้านี้ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นภาพตัวอย่างที่ชัดเจน 

image-1662171575597.png

พนักงานนำเสนอสินค้าให้กับลูกค้าในร้านวัสดุก่อสร้าง
นำเสนอการขายสินค้าในร้านวัสดุก่อสร้าง

ตัวอย่างเช่น “ซิงค์ล้างจานตัวนี้ผลิตจากหินเกรนิตสังเคราะห์ มีสวยงามและทนทานมากครับลูกค้า ทนต่อการกระแทกของกระทะหรือหม้อ ทนต่อกรดของอาหาร  ทนความร้อนได้มากถึง 180 องศา สิ่งที่พิเศษสุดๆของมัน คือ การเคลือบ Hygienic Plus ที่ช่วยป้องกันสิ่งสกปรกและการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ลูกค้ามั่นใจได้เลยว่า ถ้าใช้ตัวนี้สุขภาพของลูกค้าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน” 

ลองคิดภาพตามว่า ถ้าคุณถูกโน้มน้าวด้วยข้อดีหลายอย่างแบบนี้ ในใจของคุณมีเปอร์เซนต์ที่จะซื้อซิงค์ล้างจานตัวนี้อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่? สำหรับคนเขียนเองแล้ว เจอแบบนี้เข้าไป มีโอกาสได้ซิงค์ล้างจานกลับบ้านแน่นอนค่ะ ^^

2.4) จัดการกับข้อโต้แย้ง 


อย่างที่เราบอกตั้งแต่ข้อแรก ๆ ว่า คุณควรลิสต์คำถามต่าง ๆ เชิง Negative ที่ลูกค้ามีโอกาสจะถามคุณ และเมื่อเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นจริง ๆ ในช่วงที่จะตอบข้อโต้แย้ง คุณควรตอบในลักษณะที่ให้ลูกค้ารู้สึกว่าเรากำลังชี้แจง ให้เหตุผล ให้คำตอบพวกเขาด้วยความเป็นมิตร

ตัวอย่างเช่น

ถ้าลูกค้าบอกถามว่า ทำไมถึงลดราคาไม่ได้ เราควรก็บอกว่าสินค้านี้มีคุณภาพอย่างไร มีคุณภาพมากแค่ไหน ทำจากวัสดุชั้นดีทำให้ลดราคาไม่ได้ เป็นต้น หาเหตุผลที่แท้จริงและมีความเหมาะสมเพื่อมาตอบให้ลูกค้ารู้สึกว่า “อื้ม มันก็จริงของคุณ” และเข้าใจคุณไปในที่สุด 

Tip : ไม่ควรแสดงอาการไม่พอใจกับลูกค้า ควรพยายามโน้มน้าวลูกค้าต่อไปให้ดีที่สุด เพื่อจะได้ไม่เสียโอกาสในการขาย รวมถึงป้องกันการนำไปพูดต่อถึงร้านของคุณในทางที่เสียหายค่ะ

2.5) ปิดการขาย 


การจะปิดการขายได้ ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติในตอนต้นที่เรากล่าวมาทั้งหมดนะคะ ถ้าคุณทำตามทุกขั้นตอนที่เราแนะนำแล้ว หากลูกค้าเกิดความสนใจ และตัดสินใจว่าจะซื้อ คุณอาจจะลองทางนำเสนอสินค้าต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกันหรือใช้ร่วมกันได้ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การขายสินค้าแบบ cross-selling ( หากอยากรู้ว่า Cross selling คืออะไร อ่านเรื่องนี้ : Cross selling คืออะไร? พร้อม 7 ตัวอย่างที่อ่านแล้วเข้าใจทันที! )

ตัวอย่างเช่น 

ถ้าลูกค้าซื้อสีทาบ้าน คุณอาจแนะนำลูกกลิ้งทาสี หรือแปรงทาสีให้ลูกค้าเพิ่ม 
ถ้าลูกค้าตัดสินใจซื้อกระเบื้องพื้น คุณอาจจะแนะนำกาวยาแนวที่เหมาะกับกระเบื้องนั้นเพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้ลูกค้าได้ค่ะ 
3. หลังการขาย 
ข้อนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะหลังจากที่คุณขายสินค้าไปแล้ว หน้าที่ของคุณก็ยังไม่จบนะคะ คุณจะต้องมี “บริการหลังการขาย” เพื่อสร้างฐานลูกค้า สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ร้าน เพื่อให้เกิดการบอกต่อ และกลับมาซื้อซ้ำ 

ติดตามผล
หลังจากที่ลูกค้าซื้อไปได้ซัก 2-3 วัน อาจทำได้ด้วยการโทรไปถามว่า “สินค้าใช้งานได้ไหมครับ? มีติดปัญหาตรงไหนแจ้งได้เลยนะครับ” 

เช็คและติดตามผลการขาย
เช็คและติดตามผลการขาย

รีบแก้ไขเมื่อเกิดความผิดพลาด 


     เมื่อสินค้ามีปัญหาแล้วลูกค้ามาร้องเรียนกับคุณ คุณควรจะขอโทษและรีบแก้ไขให้พวกเขาอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นคอยรายงานความคืบหน้าให้ลูกค้าทราบ ในส่วนนี้คุณจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นไว้ด้วยเช่นกันว่า ถ้าเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น คุณจะแก้ไขยังไง เพื่อที่จะได้ให้บริการลูกค้าได้อย่างทันท่วงที 

หลังจากที่แก้ไขได้เรียบร้อยแล้ว คุณควรพูดกับพวกเขาด้วยถ้อยคำที่น่าฟัง ตัวอย่างประโยค “ขอโทษอีกครั้งนะครับ สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นอีก เราจะพยายามปรับปรุงไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก โอกาสหน้าเชิญใช้บริการที่ร้านเราอีกนะครับ” 

WI-WS-006 การเสนอราคา-แผนกขายส่ง-โครงการ

1.วัตถุประสงค์

ระเบียบปฏิบัติฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ฝ่ายเพื่อให้ส่วนค้าส่ง-โครงการ ถือเป็นแนวทางการปฏิบัติ ในการเสนอราคาให้กับลูกค้าส่วนค้าส่ง-โครงการ ในการพิจารณาสั่งซื้อสินค้า                                                  

2.ขอบเขต

ครอบคลุมการเสนอราคาสำหรับลูกค้า ของส่วนค้าส่งเท่านั้น  

  1. หน้าที่และความรับผิดชอบ

ผู้อำนวยการฝ่ายขาย

ผู้จัดการส่วนค้าส่งโครงการ

พนักงานขาย (พนักงานขายนอกสำนักงาน / พนักงานขายในสำนักงาน)

ธุรการขาย

4.คำจำกัดความ

  1. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน

image-1656826779581.png

รายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงาน

5.1 แผนการขายค้าส่งประจำแผนก

5.2 พนักงานขายเข้าพบเพื่อนำเสนอและขอข้อมูลอื่น ๆ จากลูกค้า

   พนักงานขายติดต่อลูกค้าเพื่อนำเสนอและขอข้อมูลอื่น ๆ มีแนวทางในการปฏิบัติดังนี้ 

5.3 พนักงานขายจัดทำใบเสนอราคา

   การจัดทำใบเสนอราคาตามที่ลูกค้าแจ้งรายละเอียดไว้ ด้วยระบบ BC ดังนี้ 

  5.4 พนักงานขายนำเสนอเพื่อขออนุมัติ โดยผ่านหัวหน้าแผนก, ผู้จัดการส่วนค้าส่ง และผู้อำนวยการฝ่าย

   พนักงานธุรการขาย บันทึกใบเสนอราคา ในทะเบียนบันทึกใบเสนอราคา (WS3-F02) พร้อมทั้งกำหนดสถานะของใบเสนอราคา ในกรณีที่ลูกค้าตอบรับการเสนอราคาให้ดึงไปทำใบสั่งขาย (FM-WS-002) 

5.5 บันทึกทะเบียนใบเสนอราคา

  1. แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง

WI-WS-007 การปิดการขาย แผนกขายส่ง-โครงการ

1.วัตถุประสงค์

   ระเบียบปฏิบัติฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ส่วนค้าส่ง-โครงการ ถือเป็นแนวทางการปฏิบัติ ในการปิดการขาย ของส่วนค้าส่ง                               

2.ขอบเขตของระเบียบการปฏิบัติงาน

   ครอบคลุมกระบวนการปิดการขายสำหรับลูกค้า ของส่วนค้าส่งเท่านั้น 

3.หน้าที่และความรับผิดชอบ

ผู้อำนวยการฝ่ายขาย

ผู้จัดการส่วนค้าส่งโครงการ

พนักงานขาย (พนักงานขายนอกสำนักงาน / พนักงานขายในสำนักงาน)

ธุรการขาย

ฝ่ายการเงินและสินเชื่อ

4.คำจำกัดความ

  1. เอกสารที่เกี่ยวข้อง 
  1. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน

image-1656827021565.png

รายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงาน

6.1 การส่งใบเสนอราคา

6.2 การติดตามผลการสั่งซื้อ

6.3 การนำเสนอข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม

6.4 การต่อรองราคา และเงื่อนไขพิเศษ

    กรณีที่ลูกค้า มีการต่อรอง ด้านราคา หรือเงื่อนไขพิเศษ ให้พนักงานขายบันทึกข้อมูลการต่อรองราคาหรือเงื่อนไขพิเศษใน ใบบันทึกข้อตกลงกับลูกค้า (RT3-F01)

    เมื่อมีการสรุปราคาและเงื่อนไขแล้ว ให้ดำเนินการจัดทำใบเสนอราคา (WS3-F01) เพื่อแก้ไข จากการต่อรองของลูกค้าให้ระบุการ REVICE ครั้งใหม่ทุกครั้ง 

หมายเหตุ กรณีการต่อรองด้านราคา ให้ดำเนินการขออนุมัติการลดราคาตามลำดับอำนาจการตัดสินใจภายในฝ่ายขาย 

6.5 การรับคำสั่งซื้อ

   เมื่อลูกค้าตกลงตัดสินใจซื้อ พนักงานขายรับคำสั่งซื้อจากลูกค้า โดยเป็นลักษณะเอกสารการสั่งซื้อ หรือกรณีที่มีการสั่งซื้อทางโทรศัพท์ ให้พนักงานขายบันทึกรายละเอียดในใบบันทึกข้อตกลงกับลูกค้า (RT3-F01) 

6.6 การตรวจสอบวงเงิน

   พนักงานขายตรวจสอบวงเงินสินเชื่อของลูกค้า ถ้าไม่เกินวงเงินให้ปฏิบัติตาม ข้อ 5 กรณีเกินวงเงินให้ปฏิบัติตามข้อ 7 

6.7 การขออนุมัติขายเกินวงเงิน

กรณีไม่อนุมัติให้พนักงานขายแจ้งลูกค้า และอาจแนะนำการซื้อด้วยเงินสดแทน 

6.8 การบันทึกรับข้อตกลง

   กรณีที่มีข้อตกลงอื่น ๆ เช่น จัดส่งสินค้ามากกว่า 1 จุด พนักงานขายจัดทำเอกสารในใบบันทึกข้อตกลงกับลูกค้า (RT3-F01) เพื่อส่งมอบให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป 

6.9 การจัดทำใบ BACK ORDER

การจัดทำใบ BACK ORDER ด้วยระบบ BC ดังนี้ 

6.10 การจัดลำดับความสำคัญของการสั่งซื้อ

ธุรการขายจัดทำใบสั่งขาย (F-WS-404) ตามเอกสารการสั่งซื้อจากลูกค้า ด้วยระบบ BC ดังนี้ 

6.11 การบันทึกใบสั่งขาย

6.12 การส่งมอบเอกสารให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

   ธุรการขายนำเอกสาร การสั่งขาย ให้แผนกคลังสินค้า ในกรณีดังนี้ 

   ธุรการขายนำเอกสาร การสั่งขาย ให้แผนกขนส่ง ในกรณีดังนี้ 

6.13 ติดตามการสั่งขายสินค้า

  1. แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง

WI-WS-008 คู่มือปฏิบัติงาน SCG Roof service 4.0

กระบวนการ 

1. ทาง SCG 4.0 จะเป็นคนดำเนินการเจรจากับลูกค้าเองเมื่อตกลงกับลูกค้าได้จะส่งต่องานมาให้กับทาง บริษัท นพดลพานิช จำกัด
2. ราคาเหมาเป็นราคาที่ทาง SCG ในตกลงกับลูกค้าซึ่งเป็นราคาสินค้ารวมค่าช่างเรียบร้อยแล้ว
3. ซึ่งทาง บริษัท นพดลพานิช จำกัด จะได้กำไร 5% ของราคาเหมาทั้งหมด
4. ทาง SCG จะออกเอกสารในส่วนของลูกค้า และ ส่วนของผู้แทนจำหน่าย ซึ่งลูกค้าจะได้เอกสารเป็นฉบับเดียว
5. เมื่อทาง SCG ได้ออกเอกสารมาให้ ทางพนักงานขายจะต้องนำเอกสารเพื่อทำการเปิด Back Order เพื่อรับมัดจำเข้าในระบบ
6. ส่วนสินค้าเอกสารส่วนผู้แทนจำหน่ายให้ผู้มีอำนาจเซ็นสั่งซื้อ แล้วส่งเอกสารให้ SCG เปิด PO ทำงาน
7. พนักงานตัวแทน Senter ร้านติดตามงานและประสานงานกับลูกค้าแจ้งความคืบหนิา ปัญหา และอุปสรรค เพื่อติดต่อ SCG ดำเนินการแก้ไข
   ปัญหา
8. เมื่องานเสร็จเรียบร้อยแล้วส่วนกลางจะส่งเอกสารมาเรียกเก็บกับทางร้านและการเงินทำการออกบิล

(Roof 4.0 คือการที่ SCG เข้าไปดูหน้างาน (Reroof ,Repaint ,Repair ,Renovate) และมีการตกลงกับลูกค้า โดยการตกลงกับลูกค้าคือการเหมาทั้งค่าของและค่าแรง โดยค่าของไม่ได้ซื้อผ่านร้านเราเอง จะเป็นการจัดการของทาง SCG ทั้งหมด ทางร้านจะได้ค่าดำเนินการ 5% ของราคาที่เสนอ)

หัวข้อการประชุมร่วมกับคุณกุ๊ก หลังคา 4.0

มาตรฐาน การตรวจรับมอบงาน 
: อ้างอิงตามหัวข้อ มาตรฐานงานติดตั้งของ SCG ในกระเบื้องแต่ละรุ่น ( ทีมงานกำลัง List หัวข้อให้)

สำหรับงาน Reno ระยะเวลาในการเข้าสำรวจ หลังจากได้ PO สำรวจจากทางร้าน ผทจ.แล้ว ภายในกี่วัน
: ตามภูมภาค จะอยู่ภายใน 7-10 วัน  หากเป็นนครหลวงตอนนี้จะอยู่ที่ประมาณ15 วัน 

ขอบเขตการรับประกัน รวมถึงถ้าเกิดความเสียหายเช่น น้ำรั้วจากการมุงหลังคาของเรา ลงฝ้าหรือพื้นบ้านเกิดความเสียหาย จะอยู่ในข้อ 3,4  หัวข้อขอบเขตการรับประกัน @wanwan  เพื่อขอคำอธิบายเพิ่มเติม


image-1658212329033.png



ขั้นตอนปฎิบัติงานของฝ่ายที่เกี่ยวช้อง


image-1657096118303.png

image-1657096140031.png

image-1657096156116.png

image-1657096168557.png

image-1657096183912.png

image-1657096197417.png

image-1657096212121.png

image-1657096231705.png

image-1657096246998.png

image-1657096262602.png

image-1657096285381.png

image-1657096305687.png

image-1657096327126.png

image-1657096347378.png

image-1657096362346.png

image-1657096384588.png

image-1657096398458.png

image-1657096412010.png

image-1657096425514.png

image-1657096447015.png

image-1657096461339.png

image-1657096477561.png

image-1657096498333.png

image-1657096513702.png

image-1657096528328.png

image-1657096543186.png


image-1658212107943.png

WI-WS-009 คู่มือการขายสินค้าสั่งพิเศษ(BACK ORDER) แผนกขายส่ง-โครงการ

1.วัตถุประสงค์

   ระเบียบปฏิบัติฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ส่วนค้าส่ง-โครงการ ถือเป็นแนวทางการปฏิบัติ ในการสั่งซื้อสินค้าสั่งพิเศษ(BACK ORDER) ของส่วนค้าส่ง         

2.ขอบเขตของระเบียบการปฏิบัติงาน

   ครอบคลุมกระบวนการปิดการขายสำหรับลูกค้า ของส่วนค้าส่งเท่านั้น 

3.หน้าที่และความรับผิดชอบ

ผู้อำนวยการฝ่ายขาย

ผู้จัดการส่วนค้าส่ง

พนักงานขาย (พนักงานขายนอกสำนักงาน / พนักงานขายในสำนักงาน)

ธุรการขาย

กระบวนการทำงาน สินค้าBACK ORDER.png

4.รายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงาน

4.1 การสั่งสินค้าBACK ORDER

4.2 ส่งใบBACK ORDER ให้จัดซื้อ

4.3 ติดตามจนจบกระบวนการ ลูกค้าได้รับสินค้าครบถ้วนและพึงพอใจ

4.4 กรณี Back Order ที่สั่งมาเพื่อทดแทนสินค้าคลัง A ให้ปฏิบัติ ดังนี้ 
     
 4.4.1 จัดทำเอกสารและรายละเอียดให้บริหารสินค้าเซ็นต์รับทราบว่ามีรายการสินค้าไหนบ้างที่เมื่อสินค้า Back Order ที่มาถึงแล้วต้องรับเข้าคลัง A เนื่องจากเป็นสินค้าที่สั่งมาทดแทนคลัง A ตามแบบฟอร์มที่กำหนดให้ Link แบบฟอร์ม

ตัวอย่างแบบฟอร์ม

image.png