WI : ค้าส่ง-โครงการ
- WI-WS-001 การจัดทำใบเสนอราคา
- WI-WS-002 การรับคำสั่งขาย Sale Order
- WI-WS-003 การวางเป้าหมายการขายส่ง แผนกขายส่ง-โครงการ
- WI-WS-004 การติดต่อลูกค้า แผนกขายส่ง-โครงการ
- WI-WS-005 เทคนิคการขายวัสดุก่อสร้างให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำNew Page
- WI-WS-006 การเสนอราคา-แผนกขายส่ง-โครงการ
- WI-WS-007 การปิดการขาย แผนกขายส่ง-โครงการ
- WI-WS-008 คู่มือปฏิบัติงาน SCG Roof service 4.0
- WI-WS-009 คู่มือการขายสินค้าสั่งพิเศษ(BACK ORDER) แผนกขายส่ง-โครงการ
WI-WS-001 การจัดทำใบเสนอราคา
1.วัตถุประสงค์
เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อควบคุมมาตรฐานในการปฏิบัติงานของ แผนกค้าส่ง-โครงการ ในเรื่องของ “การจัดทำใบเสนอราคา” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเสนอราคา P-WS-3 เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในด้านการเสนอราคาที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ในการพิจารณาสั่งซื้อสินค้า
2.ขอบเขต
3. หน้าที่และความรับผิดชอบ
3.1 ผู้อำนวยการฝ่ายขาย
- พิจารณาอนุมัติใบเสนอราคา
3.2 ผู้จัดการส่วนค้าส่งโครงการ
- รับผิดชอบเป้าการขาย
3.3 พนักงานขาย (พนักงานขายนอกสำนักงาน / พนักงานขายในสำนักงาน)
- นำเสนอขายต่อลูกค้า
- จัดทำรายงานการปฏิบัติงานประจำวัน
- จัดทำใบเสนอราคา
3.4 ธุรการขาย
- บันทึกทะเบียนใบเสนอราคา
- ประสานงานด้านการขาย
4.คำจำกัดความ
- บริษัทฯ หมายถึง บริษัท นพดลพานิช จำกัด
- ลูกค้าส่วนค้าส่งโครงการ หมายถึง ลูกค้าโครงการ, บ้านจัดสรร, ร้านค้า และหน่วยงานราชการ ที่มีการสั่งซื้อเป็นประจำ
- พนักงานขาย หมายถึง พนักงานที่ออกปฏิบัติงานนอกสถานที่ และพนักงานที่ปฏิบัติงานในสำนักงาน
- ธุรการขาย หมายถึง พนักงานที่ประจำในสำนักงานเพื่อประสานงานด้านการขายระหว่างภายในและภายนอกองค์กร และบันทึกทะเบียนข้อมูล ต่าง ๆ ของแผนก
- เอกสารที่เกี่ยวข้อง
-
- ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
7.รายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงาน
7.1 กรณีโทรศัพท์สั่งซื้อสินค้า หรือโทรศัพท์ขอราคา
- ให้บันทึกข้อมูลการรับคำสั่งจากการโทรศัพท์ลงใน ใบแบบฟอร์มบันทึกข้อตกลงกับลูกค้า (RT3-F01)
- จัดทำใบเสนอราคา (WS3-F01) ในระบบ BC ดังนี้
- เข้าระบบ BC ด้วย รหัสผ่านของพนักงานขาย
- เลือกคำสั่ง “ จัดขาย ”
- เลือกคำสั่ง “ บันทึกใบเสนอราคาสินค้า ”
- เลือกเงื่อนไขการขาย ดังนี้
- QCV คือ ขายเชื่อ รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- QHV คือ ขายสด รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- บันทึกข้อมูลการรับคำสั่งซื้อลงใน รายการใบเสนอราคา (WS3-F01)
- บันทึกข้อมูลใบเสนอราคา (F-WS-301) และสั่งพิมพ์
7.2 กรณีมีการส่งโทรสารใบสั่งซื้อ
มีการทราบราคาแล้วในเบื้องต้น หรือมีการสั่งซื้อมาแล้วระยะหนึ่ง ให้จัดทำใบเสนอราคาในระบบ BC ประกบกับใบสั่งซื้อ ก่อนออกเอกสารการสั่งขายทุกครั้ง
ให้นำข้อมูลจาก ใบสั่งซื้อของลูกค้า จัดทำเป็นใบเสนอราคา (WS3-F01) ในระบบ BC ดังนี้
- เข้าระบบ BC ด้วย รหัสผ่านของพนักงานขาย
- เลือกคำสั่ง “ จัดขาย ”
- เลือกคำสั่ง “ บันทึกใบเสนอราคาสินค้า ”
- เลือกเงื่อนไขการเสนอราคา ดังนี้
- QCV คือ ขายเชื่อ รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- QHV คือ ขายสด รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- QCN คือ ขายเชื่อ ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- บันทึกข้อมูลการรับคำสั่งซื้อลงใน รายการใบเสนอราคา
- บันทึกข้อมูลใบเสนอราคา และสั่งพิมพ์
7.3 กรณีส่งโทรสารด้วยใบขอราคา
เพื่อขอทราบราคาเบื้องในการพิจารณาซื้อ ให้จัดทำใบเสนอราคา (WS3-F01) ด้วยระบบ BC ดังนี้
- เข้าระบบ BC ด้วย รหัสผ่านของพนักงานขาย
- เลือกคำสั่ง “ จัดขาย ”
- เลือกคำสั่ง “ บันทึกใบเสนอราคาสินค้า ”
- เลือกเงื่อนไขการขาย ดังนี้
- QCV คือ ขายเชื่อ รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- QHV คือ ขายสด รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- QCN คือ ขายเชื่อ ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- บันทึกข้อมูลการรับคำสั่งซื้อลงใน รายการใบเสนอราคา (WS3-F01)
- บันทึกข้อมูลใบเสนอราคา (WS3-F01) และสั่งพิมพ์
หมายเหตุ
- กรณีเป็นการจัดทำใบเสนอราคา (WS3-F01) เพื่อแก้ไข จากการต่อรองจากลูกค้าให้ระบุการ REVICE ครั้งใหม่ทุกครั้ง
- พนักงานขายนำเสนอเพื่อขออนุมัติ โดยผ่านหัวหน้าแผนก, ผู้จัดการส่วนค้าส่ง และผู้อำนวยการฝ่าย
- กรณีที่ไม่ผ่านการพิจารณาอนุมัติให้ย้อนไปแก้ไขในขั้นตอนการจัดทำใบเสนอราคา (WS3-F01) เพื่อนำเสนอเพื่อขออนุมัติ
- กรณีที่ผ่านการพิจารณาอนุมัติให้นำใบเสนอราคา (WS3-F01) ลงบันทึกในทะเบียนบันทึกใบเสนอราคา (WS3-F02)
- กรณีผู้อำนวยการฝ่ายไม่อยู่ให้ ผู้จัดการส่วนค้าส่ง สามารถอนุมัติแทนได้
- พนักงานธุรการขาย บันทึกใบเสนอราคา (WS3-F01) ในทะเบียนบันทึกใบเสนอราคา (WS3-F02) พร้อมทั้งกำหนดสถานะของใบเสนอราคา (WS3-F01) ในกรณีที่ลูกค้าตอบรับการเสนอราคาให้ดึงไปทำใบสั่งขาย (F-WS-404)
- แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง
- ใบเสนอราคา
- ทะเบียนบันทึกใบเสนอราคา
WI-WS-002 การรับคำสั่งขาย Sale Order
1.วัตถุประสงค์
เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อควบคุมมาตรฐานในการปฏิบัติงานของ แผนกค้าส่ง-โครงการ ในเรื่องของ “การรับคำสั่งซื้อ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปิดการขาย (WS4-P01) เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในด้านการรับคำสั่งซื้อที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ในการปิดการขาย
2.ขอบเขตของระเบียบการปฏิบัติงาน
-
3. หน้าที่และความรับผิดชอบ
3.1 ผู้อำนวยการฝ่ายขาย
พิจารณาให้ส่วนลดสูงสุด และตัดสินใจจัดลำดับความสำคัญลูกค้า
3.2 ผู้จัดการส่วนค้าส่งโครงการ
พิจารณาตัดสินใจจัดลำดับความสำคัญลูกค้า
3.3 พนักงานขาย (พนักงานขายนอกสำนักงาน / พนักงานขายในสำนักงาน)
- ติดตามผลการเสนอราคา เพื่อพิจารณาปรับปรุง แก้ไข เพิ่มเติม และต่อรองราคา
- ติดตามผลการสรุปซื้อ
- นำเสนอการพิจารณาอนุมัติวงเงินเบื้องต้น
- ปิดการขายและบันทึกรับข้อตกลง
- ออกเอกสารการสั่งขาย
- ตรวจสอบความเพียงพอของสินค้าเพื่อแจ้งขอสั่งซื้อด้วย BACK ORDER
3.4 ธุรการขาย
- จัดลำดับความสำคัญของการสั่งซื้อ
- จัดทำบันทึกทะเบียนการสั่งซื้อจากลูกค้า
- จัดทำบันทึกทะเบียนการสั่งขาย
- จัดทำบันทึก BACK ORDER
- ส่งมอบเอกสารให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
- ติดตามการสั่งซื้อสินค้า และตัดบันทึกทะเบียนการสั่งซื้อ
- สรุปรายงานการสั่งซื้อ
3.5 ฝ่ายการเงินและสินเชื่อ
พิจารณาอนุมัติวงเงิน และแจ้งผลการอนุมัติให้ทางลูกค้าทราบ
4.คำจำกัดความ
- บริษัทฯ หมายถึง บริษัท นพดลพานิช จำกัด
- ลูกค้าส่วนค้าส่งโครงการ หมายถึง ลูกค้าโครงการ, บ้านจัดสรร, ร้านค้า และหน่วยงานราชการ ที่มีการสั่งซื้อเป็นประจำ
- พนักงานขาย หมายถึง พนักงานที่ออกปฏิบัติงานนอกสถานที่ และพนักงานที่ปฏิบัติงานในสำนักงาน
- ธุรการขาย หมายถึง พนักงานที่ประจำในสำนักงานเพื่อประสานงานด้านการขาย ระหว่างภายในและภายนอกองค์กร และบันทึกทะเบียนข้อมูลต่าง ๆ ของแผนก
- ลูกค้าส่วนงานค้าส่ง หมายถึง ลูกค้าโครงการ, บ้านจัดสรร, ร้านค้า, หน่วยงานราชการ และลูกค้าทั่วไปที่มีการสั่งซื้อเป็นประจำ
- เอกสารที่เกี่ยวข้อง
-
- ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
7.รายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงาน
7.1 การรับคำสั่งซื้อ กรณีลูกค้าส่งเอกสารการสั่งซื้อ มาถึงพนักงานขาย
- นำใบสั่งซื้อ แนบใบเสนอราคา (WS3-F01) ที่ได้เสนอราคาไว้แล้ว
- อนุมัติใบเสนอราคา เพื่อดึงข้อมูล จัดทำใบสั่งขายด้วยระบบ BC ดังนี้
- เข้าระบบ BC ด้วย รหัสผ่านของพนักงานขาย
- เลือกคำสั่ง “ อนุมัติใบเสนอราคาสินค้า “
- ระบุ “ เลขที่ใบเสนอราคา “ ที่ต้องการอนุมัติ
- เลือกคำสั่ง “ ประมวลผลเงื่อนไข “
- เลือก “ ใบเสนอราคา “ ที่ต้องการอนุมัติ หรือ เลือกคำสั่ง “ Select All “
- กด “ F11 “ หรือ เลือกคำสั่ง “ อนุมัติรายการ “
- เลือกคำสั่ง “ ตกลง “
- เข้าเมนู “ จัดขาย ”
- เลือกคำสั่ง “ ใบสั่งขายสินค้า ”
- เลือกเงื่อนไขการขาย ดังนี้
SCV คือ ขายเชื่อ รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
SHV คือ ขายสด รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
SCN คือ ขายเชื่อ ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
ROV คือ ใบจองสินค้า ส่งสินค้าให้
- เลือกคำสั่ง “ เลขที่ใบสั่งขาย/สั่งจอง ”
- เลือกคำสั่ง “ รหัสลูกค้า “ เพื่อระบุลูกค้าที่สั่งซื้อ
- เลือกคำสั่ง “ Ctrl + F3 หรือ เลือกใบเสนอราคา “
- เลือกใบเสนอราคาที่ต้องการดึงข้อมูลมาทำรายการในใบสั่งขาย
- เลือก “ ตกลง “
- ตรวจสอบจำนวนสินค้าตามที่ลูกค้าต้องการว่ามีครบจำนวนหรือไม่
- กรณีที่ครบแล้วให้ระบุ เลขที่ใบสั่งซื้อ และ วันที่ออกใบสั่งซื้อ ในใบสั่งขายให้ครบถ้วน
- กรณีที่สินค้าไม่ครบและลูกค้ามีความต้องการสินค้า ให้จัดทำ Back Order
- สั่งพิมพ์ใบสั่งขายตามลำดับ
7.2 การรับคำสั่งซื้อ กรณีลูกค้าโทรศัพท์สั่งซื้อ หรือเข้ามาที่สำนักงาน โดยสั่งซื้อกับพนักงานขาย
- ให้พนักงานขายบันทึกรายละเอียดการสั่งซื้อ ในใบบันทึกข้อตกลงกับลูกค้า (RT3-F01)
- นำใบบันทึกข้อตกลงกับลูกค้า (F-RT-301) แนบใบเสนอราคา (WS3-F01) ที่ได้จัดทำขึ้นเพื่ออนุมัติใบเสนอราคา แล้วดึงข้อมูล สำหรับจัดทำใบสั่งขายด้วยระบบ BC ดังนี้
- เข้าระบบ BC ด้วย รหัสผ่านของพนักงานขาย
- เลือกคำสั่ง “ อนุมัติใบเสนอราคาสินค้า “
- ระบุ “ เลขที่ใบเสนอราคา “ ที่ต้องการอนุมัติ
- เลือกคำสั่ง “ ประมวลผลเงื่อนไข “
- เลือก “ ใบเสนอราคา “ ที่ต้องการอนุมัติ หรือ เลือกคำสั่ง “ Select All “
- กด “ F11 “ หรือ เลือกคำสั่ง “ อนุมัติรายการ “
- เลือกคำสั่ง “ ตกลง “
- เข้าเมนู “ จัดขาย ”
- เลือกคำสั่ง “ ใบสั่งขายสินค้า ”
เงื่อนไขการขาย
SCV คือ ขายเชื่อ รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
SHV คือ ขายสด รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
SCN คือ ขายเชื่อ ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
ROV คือ ใบจองสินค้า ส่งสินค้าให้
- เลือกคำสั่ง “ เลขที่ใบสั่งขาย/สั่งจอง ”
- เลือกคำสั่ง “ รหัสลูกค้า “ เพื่อระบุลูกค้าที่สั่งซื้อ
- เลือกคำสั่ง “ Ctrl + F3 หรือ เลือกใบเสนอราคา “
- เลือกใบเสนอราคาที่ต้องการดึงข้อมูลมาทำรายการในใบสั่งขาย
- เลือก “ ตกลง “
- ตรวจสอบจำนวนสินค้าตามที่ลูกค้าต้องการว่ามีครบจำนวนหรือไม่
- กรณีที่ครบแล้วให้ระบุ เลขที่ใบสั่งซื้อ และ วันที่ออกใบสั่งซื้อ ในใบสั่งขายให้ครบถ้วน
- กรณีที่สินค้าไม่ครบและลูกค้ามีความต้องการสินค้า ให้จัดทำ Back Order
- สั่งพิมพ์ใบสั่งขายด้วยโปรแกรมการพิมพ์
7.3 กรณีเอกสารการสั่งขาย มีการแจ้งให้ทราบว่า ลูกค้าเกินวงเงินการอนุมัติขาย ให้พนักงานขายปฏิบัติดังนี้
พนักงานขายจัดทำใบขออนุมัติการขายเกินวงเงิน (F-WS-401) เสนอหัวหน้าแผนกสินเชื่อ เพื่อพิจารณาอนุมัติ
กรณีไม่อนุมัติให้พนักงานขายแจ้งลูกค้า และอาจแนะนำการซื้อด้วยเงินสดแทน การบันทึกรับข้อตกลง
- กรณีที่มีข้อตกลงอื่น ๆ เช่น จัดส่งสินค้ามากกว่า 1 จุด , เลื่อนระยะเวลาการส่งสินค้า , เปลี่ยนสถานที่ส่งสินค้า ให้พนักงานขายจัดทำเอกสารในใบบันทึกข้อตกลงกับลูกค้า (RT3-F01) เพื่อส่งมอบให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป 1 ชุด และแนบสำเนาไว้ในแฟ้มข้อมูลลูกค้ารายนั้น ๆ
7.4 การจัดทำใบ BACK ORDER
กรณีที่สินค้าไม่เพียงพอต่อการจัดส่ง หรือ สินค้าที่สั่งเป็นสินค้าสั่งพิเศษ ให้พนักงานธุรการขายจัดทำใบ BACK ORDER (F-WS-402) และแนบสำเนาใบสั่งซื้อจากลูกค้า (ถ้ามี) เพื่อส่งมอบไปแผนกบริหารสินค้า เพื่อดำเนินการสั่งซื้อสินค้ามาให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ตามระเบียบปฎิบัติการจัดทำใบ BACK ORDER (P-GR-2)
การจัดทำใบ BACK ORDER (P-GR-2) ด้วยระบบ BC ดังนี้
- เข้าระบบ BC ด้วย รหัสผ่านของพนักงานขาย
- เลือกคำสั่ง “ จัดขาย ”
- เลือกคำสั่ง “ บันทึกใบเสนอราคาสินค้า ”
- เลือกเงื่อนไขการขาย ดังนี้
BCV คือ ขายเชื่อ รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
BCN คือ ขายเชื่อ ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
BHV คือ ขายสด รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- สั่งพิมพ์ใบ BACK ORDER (P-GR-2) ด้วยโปรแกรมพิมพ์
- แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง
- ใบเสนอราคา
- ใบบันทึกข้อตกลงกับลูกค้า
- ใบขออนุมัติการขายเกินวงเงิน
- ใบ BACK ORDER
WI-WS-003 การวางเป้าหมายการขายส่ง แผนกขายส่ง-โครงการ
1.วัตถุประสงค์
ระเบียบปฏิบัติฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ส่วนค้าส่งโครงการ ถือเป็นแนวปฏิบัติ ในวางแผนการขาย ของส่วนค้าส่งโครงการ เพื่อให้กระบวนการขายมีเป้าหมายในการขายที่ชัดเจน และเป็นแนวทางในการติดตามให้เป็นไปตามเป้าหมาย
2.ขอบเขตของระเบียบการปฏิบัติงาน
ครอบคลุมเป้าหมายการขาย สำหรับลูกค้า ของส่วนค้าส่งโครงการ เท่านั้น
- หน้าที่และความรับผิดชอบ
ผู้อำนวยการฝ่ายขาย
- อนุมัติแผนการขายรวมค้าส่งโครงการ
ผู้จัดการส่วน
- วางแผนการขายรวมค้าส่ง
- แจกจ่ายแผนการขายให้แต่ละแผนกรับทราบ
- ติดตามการขายให้เป็นไปตามแผน
- พิจารณาปรับปรุงแผน
- พิจารณาแผนการขายส่งประจำแผนก
หัวหน้าแผนก
- จัดทำแผนการขายส่ง ประจำแผนก
- พิจารณาปรับปรุงแผนตำแหน่งงาน
4.คำจำกัดความ
- บริษัทฯ หมายถึง บริษัท นพดลพานิช จำกัด
- ส่วนค้าส่งโครงการ หมายถึง ส่วนการค้าที่ขายงานโครงการ, ลูกค้าร้านค้าช่วง และ ผู้รับเหมารายย่อย
- แผนกขายโครงการ1 หมายถึง แผนกที่ดูแลลูกค้าโครงการ ในกลุ่มเจ้าของโครงการ และกลุ่มผู้รับเหมารายใหญ่ที่มีมูลค่าโครงการตั้งแต่ 30 ล้าน บาทขึ้นไป
- แผนกขายโครงการ2 หมายถึง แผนกที่ดูแลลูกค้าโครงการ ในกลุ่มบ้านจัดสรร และหน่วยงานราชการที่มีมูลค่าโครงการไม่เกิน 30 ล้านบาท
- แผนกขายส่งร้านค้า หมายถึง แผนกที่ดูแลลูกค้า ในกลุ่มร้านค้าและผู้รับเหมารายย่อย
- ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
6.รายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงาน
6.1 การแจ้งแผนการขาย
- ผู้อำนวยการฝ่ายขาย มอบแผนการขายรวม (F-SL-01) ให้ผู้จัดการส่วน เพื่อปฏิบัติให้บรรลุตามวัตถุประสงค์
6.2 การกระจายเป้าหมายการขาย
- ผู้จัดการส่วน จัดทำแผนการขายรวมค้าส่ง (WS1-F01) เพื่อแจกแจงเป้าการขายตามแผนก เพื่อส่งให้ผู้อำนวยการฝ่ายขายพิจารณาอนุมัติแผนการขายรวมค้าส่ง (WS1-F01)
6.3 การอนุมัติแผนการขายรวมค้าส่ง
- ผู้อำนวยการฝ่ายขาย พิจารณาแผนการขาย รวมค้าส่ง (WS1-F01)
- กรณีไม่ผ่านการพิจารณา หรือมีการปรับแผนการขายรวมค้าส่ง (WS1-F01) จะส่งกลับให้ผู้จัดการส่วนค้าส่ง-โครงการ จัดทำแผนการขายรวมค้าส่ง (WS1-F01) ใหม่
- กรณีผ่านการพิจารณา ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ลงนามเพื่ออนุมัติ
6.4 การแจกจ่ายเป้าหมายการขาย
- ผู้จัดการส่วน แจกแผนการขายรวมค้าส่ง (WS1-F01) ให้แต่ละแผนกรับทราบเพื่อนำไปวางแผนการขายภายในแต่ละแผนก
6.5 การจัดทำแผนการขายประจำแผนก
- หัวหน้าแผนก จัดทำแผนการขายประจำแผนก (WS1-F02) โดยให้ลงรายละเอียดตามหมวดหมู่ของสินค้า
6.6 การอนุมัติแผนการขายประจำแผนก
- ผู้จัดการส่วนค้าส่ง-โครงการ พิจารณาแผนการขายประจำแผนก (WS1-F02)
- กรณีไม่ผ่านการพิจารณา หรือมีการปรับแผนการขายแผนก (WS1-F02) จะส่งกลับให้ หัวหน้าแผนกค้าส่ง ดำเนินการแก้ไขแผนการขายประจำแผนก (WS1-F02) ใหม่
- กรณีผ่านการพิจารณา ผู้จัดการส่วนค้าส่งโครงการ ลงนามเพื่ออนุมัติ แล้วสำเนาให้ผู้จัดการส่วนจัดซื้อ
6.7 กระบวนการติดตามการขาย
- ผู้จัดการส่วนค้าส่ง ติดตามผลการขายจากรายงานการประชุมประจำสัปดาห์ (WS1-F03) ของแผนก
6.8 การปรับปรุงแผนการขาย
- กรณีไม่เป็นไปตามแผนให้ผู้จัดการส่วนค้าส่งโครงการ และหัวหน้าแผนกขาย ร่วมกันพิจารณาทบทวนและปรับปรุงแผนการขายประจำแผนก (WS1-F02) และแผนการขายรวมค้าส่ง (WS1-F01) จึงนำเสนอผู้จัดการส่วนพิจารณาอนุมัติใหม่
- บันทึกคุณภาพ
- แผนการขายรวม
- แผนการขายรวมค้าส่ง
- แผนการขายประจำแผนก
- รายงานการประชุมประจำสัปดาห์
WI-WS-004 การติดต่อลูกค้า แผนกขายส่ง-โครงการ
1.วัตถุประสงค์
ระเบียบปฏิบัติฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ส่วนค้าส่งโครงการ ถือเป็นแนวปฏิบัติ ในการติดต่อลูกค้า เพื่อขอข้อมูลเบื้องต้นในการขออนุมัติการเปิดบัญชีลูกค้าใหม่ หรือโครงการใหม่ที่ต้องขออนุมัติวงเงิน ของส่วนค้าส่ง เท่านั้น
2.ขอบเขตของระเบียบการปฏิบัติงาน
ครอบคลุมการติดต่อลูกค้าในกรณีที่เป็นลูกค้าใหม่ หรือโครงการใหม่ ที่ต้องขออนุมัติการเปิดบัญชี หรือวงเงินโครงการสำหรับลูกค้า ของส่วนค้าส่งเท่านั้น
3.หน้าที่และความรับผิดชอบ
ผู้จัดการส่วน
- พิจารณาและลงความเห็นเบื้องต้นการขออนุมัติวงเงิน
- สรุปรายงานโครงการใหม่
หัวหน้าแผนกสินเชื่อ
- พิจารณาและลงความเห็นเบื้องต้นการขออนุมัติวงเงิน
หัวหน้าแผนก
- รับเป้าหมายการขาย
คณะกรรมการสินเชื่อ
- พิจารณาอนุมัติวงเงิน
พนักงานขาย
- เข้าพบเพื่อนำเสนอและขอข้อมูลอื่น ๆ
- ดำเนินการเอกสารเบื้องต้นเพื่อขอเปิดบัญชี
พนักงานสินเชื่อ
- ลงบันทึกข้อมูลลูกค้า
ธุรการขาย
- ลงบันทึกข้อมูลลูกค้า
4.คำจำกัดความ
บริษัทฯ หมายถึง บริษัท นพดลพานิช จำกัด
5. เอกสารที่เกี่ยวข้อง
-
6. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
รายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงาน
6.1 การรับเป้าหมายการขาย
พนักงานขายรับแผนการขายส่งประจำแผนก ( WS1-F02 ) จากหัวหน้าแผนก
6.2 การเข้าพบเพื่อนำเสนอและขอข้อมูลอื่น ๆ
พนักงานขายติดต่อลูกค้าเพื่อนำเสนอและขอข้อมูลอื่น ๆ มีแนวทางในการปฏิบัติดังนี้
- ติดต่อเพื่อขอพบอย่างเป็นทางการ ที่สำนักงานหรือหน่วยงานก่อสร้าง
- เข้าพบโดยมิได้นัดหมาย ที่สำนักงานหรือหน่วยงานก่อสร้าง
- นำเสนอสินค้าและบริการ พร้อมขอข้อมูลเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า
- ภายหลังการติดต่อนำเสนอด้วยการเข้าพบนอกสถานที่ ให้ลงบันทึกในรายงานการปฏิบัติงานนอกสถานที่ (WS2-F01) และนำส่งให้หัวหน้าแผนกทุกวัน
- ภายหลังการติดต่อนำเสนอด้วยการโทรศัพท์ติดต่อหรือลูกค้ามาพบในบริษัทฯ ให้ลงบันทึกในรายงานการปฏิบัติงานในสำนักงาน(WS2-F02) และนำส่งให้หัวหน้าแผนกทุกวัน
6.3 การขอเปิดบัญชีสินเชื่อ
- กรณีลูกค้ามีความสนใจต้องการเปิดบัญชีสินเชื่อ พนักงานขายรวบรวมเอกสารจากลูกค้าเพื่อขออนุมัติเปิดบัญชีลูกค้า โดยแนบเอกสารใบคำขอเปิดบัญชีเงินเชื่อเพื่อซื้อสินค้า (WS2-F03) และแบบฟอร์มขอเอกสารประกอบการเปิดบัญชีเงินเชื่อ (F-WS-204) เอกสารการขออนุมัติเปิดบัญชีลูกค้า ให้จัดเตรียมตามที่ระบุในแบบฟอร์มขอเอกสารการเปิดบัญชีเงินเชื่อ (F-WS-204) โดยต้องรวบรวมเอกสารทั้งหมดให้ครบจึงสามารถส่งให้พิจารณาอนุมัติเครดิต
6.4 การพิจารณาและลงความเห็นเบื้องต้น
- ผู้จัดการส่วนค้าส่งโครงการ และหัวหน้าแผนกสินเชื่อ ลงความเห็นเบื้องต้น จากเอกสารที่ได้รับจากพนักงานขาย
6.5 การพิจารณาอนุมัติเปิดบัญชีสินเชื่อ
- คณะกรรมการสินเชื่อ พิจารณาอนุมัติการเปิดบัญชีลูกค้าใหม่ ผลการอนุมัติหรือไม่อนุมัติ ต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบทุกครั้ง และหาช่องทางการขายด้วยวิธีอื่น เช่น ชำระเงินสด
6.6 การลงบันทึกข้อมูลลูกค้า
- พนักงานสินเชื่อ และธุรการขาย ลงบันทึกข้อมูลลูกค้า ในทะเบียนข้อมูลลูกค้า-ค้าส่ง (WS2-F05)
6.7 การสรุปรายงานโครงการใหม่
- ผู้จัดการส่วนค้าส่งโครงการ รวบรวมข้อมูลจากทะเบียนข้อมูลลูกค้า-ค้าส่ง เพื่อจัดทำรายงานสรุปลูกค้าโครงการใหม่ (WS2-F06 )
- แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง
- แผนการขายส่งประจำแผนก
- รายงานการปฏิบัติงานนอกสถานที่
- รายงานการปฏิบัติงานในสำนักงาน
- ใบคำขอเปิดบัญชีเงินเชื่อเพื่อซื้อสินค้า
- แบบฟอร์มขอเอกสารประกอบการเปิดบัญชีเงินเชื่อ
- ทะเบียนข้อมูลลูกค้า-ค้าส่ง
- รายงานสรุปลูกค้าโครงการใหม่
WI-WS-005 เทคนิคการขายวัสดุก่อสร้างให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำNew Page
1. ก่อนขาย
ในการเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้าง ก่อนจะนำเสนอขายสินค้าให้ลูกค้า คุณจะต้องเตรียมตัวและเตรียมข้อมูลทุกอย่างให้พร้อมก่อน ซึ่งก็จะมี 6 สิ่งที่ต้องเตรียมด้วยกัน นั่นก็คือ
1.1) เตรียมตัว
ก่อนจะไปขายสินค้าให้ลูกค้า คุณต้องดูมีความน่าเชื่อถือ มีข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับสินค้า และรอบรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ก่อสร้าง มีข้อมูลที่ถูกต้องและตรงกับสิ่งที่ลูกค้าอยากรู้ มีสื่อประกอบเพิ่มความเข้าใจให้ลูกค้า โดยสิ่งที่คุณจะต้องทำหลัก ๆ คือ
เรียนรู้เกี่ยวสินค้าทั้งหมด ทั้งวิธีการใช้งาน จุดแข็งของสินค้า ความโดดเด่นของมัน เรียนรู้ว่าสิ่งไหนสามารถใช้ร่วมกันได้ เพื่อที่จะส่งเสริมการขายร่วมกัน
Tip : นอกจากจะฝึกเรียนรู้สินค้าแล้ว ก็ควรท่องจำไว้ และฝึกพูดกับกระจกก็จะดีมาก เพื่อที่จะได้เห็นว่าตัวเองควรแก้ไขตรงจุดไหน เมื่อลงสนามจริงจะได้ไม่เกร็งด้วยยังไงล่ะคะ
1.2) เตรียมข้อมูลลูกค้า
ในช่วงเริ่มต้น หากคุณได้ลูกค้าใหม่เข้ามาที่ร้าน คุณจะต้องบันทึกข้อมูลของลูกค้าใน 2 องค์ประกอบหลักเลย ก็คือ
ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ลูกค้ามักจะซื้อ สินค้าที่ลูกค้ามักจะขาด คำถามที่ลูกค้ามักจะถาม เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับตัวลูกค้า ควรบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับบ้านหรือสถานที่ที่เขากำลังจะไปก่อสร้าง ที่อยู่ เบอร์โทร ประวัติการซื้อ เพื่อจะได้ให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่องในการขายครั้งต่อไป และจะได้ไม่แนะนำซ้ำในสิ่งที่ลูกค้าซื้อไปแล้ว เพื่อความเป็นมืออาชีพของคุณเอง
เตรียมตัวศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างในร้าน
พนักงานเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าในร้านวัสดุก่อสร้าง
1.3) เตรียมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องควรเป็นสิ่งที่ลูกค้าจะต้องทราบ เพื่อให้เกิดความชัดเจนกับลูกค้ามากที่สุด และจะไม่ทำให้เกิดปัญหาหรือความเข้าใจผิดกันในภายหลังได้ข้อมูลที่ต้องเตรียม ก็อย่างเช่น
ค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง
ขอบเขตในการให้บริการ
โปรโมชั่น
เงื่อนไขและข้อมูลที่ลูกค้าต้องทราบ
1.4) เตรียมข้อมูล ถาม-ตอบ
ลองลิสต์คำถามที่ลูกค้าจะถามเอาไว้ และเตรียมคำตอบให้ลูกค้า เพื่อตอนขายจริงคุณจะได้ไม่มีช่องว่างที่ลดความเชื่อมั่นของลูกค้าหากคุณ “ไม่รู้ว่าจะตอบอะไร” ตัวอย่างคำถามเช่น
ทาสีบ้านแบบนี้ ควรจะเลือกกระเบื้องแบบไหน?
โถสุขภัณฑ์แบบนั้น แตกต่างจากแบบนี้ยังไง?
ก๊อกน้ำยี่ห้อไหนดีกว่ากัน?
1.5) เตรียมตอบข้อโต้แย้งกับลูกค้า
อาจฟังดูคล้ายกับการตอบคำถามข้อมูลสินค้า แต่จริง ๆ แล้วมันต่างกันค่ะ เพราะการโต้แย้งส่วนใหญ่จะมาในเชิง Negative เช่น
ทำไมสินค้าร้านคุณแพงกว่าร้านอื่น?
ทำไมถึงไม่มีของแถม?
ทำไมลดราคาไม่ได้?
ทำไมถึงไม่ส่งฟรี?
ทำไมสินค้ามีไม่ครบ?
ซึ่งคุณควรจะต้องเตรียมคำถามเหล่านี้ เพื่อที่จะตอบลูกค้าพวกเขาเข้าใจ เพราะเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับคุณอย่างแน่นอน ฉะนั้นลองหาจุดบกพร่องของร้านคุณที่ลูกค้ามีโอกาสจะถามได้ หลังจากนั้นหาคำตอบที่สมเหตุสมผลมากที่สุด
1.6) เตรียมอุปกรณ์ประกอบการสื่อสาร
การมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้เพื่อประกอบการขาย จะช่วยให้ลูกค้าเห็นภาพได้ง่ายมากขึ้นนะคะ พอถึงตอนที่คุณอธิบายสินค้า มันจะเพิ่มความน่าสนใจให้คุณมากเลยทีเดียว อีกทั้งยังกระตุ้นความอยากซื้อของลูกค้าด้วยค่ะ เช่น
โบร์ชัวร์โปรโมชั่น
แคตตาล็อกสินค้า
โปสเตอร์แนะนำสินค้า
2. ระหว่างที่ขาย
มาถึงขั้นตอนของการลงมือจริงแล้วค่ะ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มขายเป็นครั้งแรกก็อาจจะตื่นเต้นหน่อย ๆ นะ แต่ถ้าคุณฝึกมาจนพร้อมแล้ว ก็ลุยตามขั้นตอนนี้กันเลย!
2.1) โชว์เสน่ห์ในการขายของคุณ
คุณจะต้องดูดีทั้งบุคลิก เสื้อผ้าหน้าผม การแต่งกายควรจะสุภาพเรียบร้อย ดูน่าเชื่อถือ สิ่งที่สำคัญเลยคือรอยยิ้มที่เป็นมิตร การพูดจาด้วยน้ำเสียงที่น่าฟัง จะเพิ่มโอกาสทางการขายได้มากขึ้นแทบจะ 80% เลยค่ะ
2.2) ตรวจสอบความต้องการของลูกค้า
สอบถามข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับความต้องการของพวกเขา เช่น
สิ่งที่จะก่อสร้างนั้นเป็น บ้านหรือตึก?
มีขนาดใหญ่แค่ไหน?
ต้องการสินค้ามากเท่าไหร่?
อยากทำออกมาเป็นสไตล์ไหน มินิมอล, ลอฟท์, หรือโมเดิร์น?
ต้องการโทนเป็นสีเข้มหรือสีอ่อน?
ต้องการเครื่องมือช่างอะไรเพิ่มเติมไหม?
งบประมาณที่ลูกค้าตั้งไว้ (เพื่อจะได้จัดสินค้าในราคาที่ลูกค้าต้องการได้)
สิ่งเหล่านี้ คุณควรจะสอบถามลูกค้าให้ครบถ้วน เพื่อคุณจะได้นำเสนอสินค้าที่ตรงโจทย์ความต้องการของพวกเขาได้มากที่สุด
2.3) การกระตุ้นและโน้มน้าว
เมื่อคุณศึกษาสินค้ามาอย่างดีแล้ว คุณจะทราบถึงจุดเด่นของสินค้าแต่ละอัน เมื่อถึงเวลาที่ลูกค้ามีความสนใจแล้ว คุณก็กระตุ้นพวกเขาโดยการนำจุดเด่นของสินค้านั้น ๆ ออกมาพูด พูดถึงคุณสมบัติของมัน ว่ามันทำอะไรได้บ้าง มีฟังก์ชั่นอย่างไร เรื่องที่ควรหยิบยกมาพูด เช่น
คุณภาพของสินค้า
ความสวยงามของสินค้า
ความทนทาน
แบรนด์ที่น่าเชื่อถือ
การรับประกัน
นอกจากพูดข้อดีของมันไปแล้ว คุณก็ควรหาสื่อมาประกอบการนำเสนอ อย่างที่เราได้บอกให้คุณเตรียมไว้ในเทคนิคก่อนหน้านี้ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นภาพตัวอย่างที่ชัดเจน
พนักงานนำเสนอสินค้าให้กับลูกค้าในร้านวัสดุก่อสร้าง
นำเสนอการขายสินค้าในร้านวัสดุก่อสร้าง
ตัวอย่างเช่น “ซิงค์ล้างจานตัวนี้ผลิตจากหินเกรนิตสังเคราะห์ มีสวยงามและทนทานมากครับลูกค้า ทนต่อการกระแทกของกระทะหรือหม้อ ทนต่อกรดของอาหาร ทนความร้อนได้มากถึง 180 องศา สิ่งที่พิเศษสุดๆของมัน คือ การเคลือบ Hygienic Plus ที่ช่วยป้องกันสิ่งสกปรกและการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ลูกค้ามั่นใจได้เลยว่า ถ้าใช้ตัวนี้สุขภาพของลูกค้าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน”
ลองคิดภาพตามว่า ถ้าคุณถูกโน้มน้าวด้วยข้อดีหลายอย่างแบบนี้ ในใจของคุณมีเปอร์เซนต์ที่จะซื้อซิงค์ล้างจานตัวนี้อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่? สำหรับคนเขียนเองแล้ว เจอแบบนี้เข้าไป มีโอกาสได้ซิงค์ล้างจานกลับบ้านแน่นอนค่ะ ^^
2.4) จัดการกับข้อโต้แย้ง
อย่างที่เราบอกตั้งแต่ข้อแรก ๆ ว่า คุณควรลิสต์คำถามต่าง ๆ เชิง Negative ที่ลูกค้ามีโอกาสจะถามคุณ และเมื่อเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นจริง ๆ ในช่วงที่จะตอบข้อโต้แย้ง คุณควรตอบในลักษณะที่ให้ลูกค้ารู้สึกว่าเรากำลังชี้แจง ให้เหตุผล ให้คำตอบพวกเขาด้วยความเป็นมิตร
ตัวอย่างเช่น
ถ้าลูกค้าบอกถามว่า ทำไมถึงลดราคาไม่ได้ เราควรก็บอกว่าสินค้านี้มีคุณภาพอย่างไร มีคุณภาพมากแค่ไหน ทำจากวัสดุชั้นดีทำให้ลดราคาไม่ได้ เป็นต้น หาเหตุผลที่แท้จริงและมีความเหมาะสมเพื่อมาตอบให้ลูกค้ารู้สึกว่า “อื้ม มันก็จริงของคุณ” และเข้าใจคุณไปในที่สุด
Tip : ไม่ควรแสดงอาการไม่พอใจกับลูกค้า ควรพยายามโน้มน้าวลูกค้าต่อไปให้ดีที่สุด เพื่อจะได้ไม่เสียโอกาสในการขาย รวมถึงป้องกันการนำไปพูดต่อถึงร้านของคุณในทางที่เสียหายค่ะ
2.5) ปิดการขาย
การจะปิดการขายได้ ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติในตอนต้นที่เรากล่าวมาทั้งหมดนะคะ ถ้าคุณทำตามทุกขั้นตอนที่เราแนะนำแล้ว หากลูกค้าเกิดความสนใจ และตัดสินใจว่าจะซื้อ คุณอาจจะลองทางนำเสนอสินค้าต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกันหรือใช้ร่วมกันได้ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การขายสินค้าแบบ cross-selling ( หากอยากรู้ว่า Cross selling คืออะไร อ่านเรื่องนี้ : Cross selling คืออะไร? พร้อม 7 ตัวอย่างที่อ่านแล้วเข้าใจทันที! )
ตัวอย่างเช่น
ถ้าลูกค้าซื้อสีทาบ้าน คุณอาจแนะนำลูกกลิ้งทาสี หรือแปรงทาสีให้ลูกค้าเพิ่ม
ถ้าลูกค้าตัดสินใจซื้อกระเบื้องพื้น คุณอาจจะแนะนำกาวยาแนวที่เหมาะกับกระเบื้องนั้นเพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้ลูกค้าได้ค่ะ
3. หลังการขาย
ข้อนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะหลังจากที่คุณขายสินค้าไปแล้ว หน้าที่ของคุณก็ยังไม่จบนะคะ คุณจะต้องมี “บริการหลังการขาย” เพื่อสร้างฐานลูกค้า สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ร้าน เพื่อให้เกิดการบอกต่อ และกลับมาซื้อซ้ำ
ติดตามผล
หลังจากที่ลูกค้าซื้อไปได้ซัก 2-3 วัน อาจทำได้ด้วยการโทรไปถามว่า “สินค้าใช้งานได้ไหมครับ? มีติดปัญหาตรงไหนแจ้งได้เลยนะครับ”
เช็คและติดตามผลการขาย
เช็คและติดตามผลการขาย
รีบแก้ไขเมื่อเกิดความผิดพลาด
เมื่อสินค้ามีปัญหาแล้วลูกค้ามาร้องเรียนกับคุณ คุณควรจะขอโทษและรีบแก้ไขให้พวกเขาอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นคอยรายงานความคืบหน้าให้ลูกค้าทราบ ในส่วนนี้คุณจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นไว้ด้วยเช่นกันว่า ถ้าเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น คุณจะแก้ไขยังไง เพื่อที่จะได้ให้บริการลูกค้าได้อย่างทันท่วงที
หลังจากที่แก้ไขได้เรียบร้อยแล้ว คุณควรพูดกับพวกเขาด้วยถ้อยคำที่น่าฟัง ตัวอย่างประโยค “ขอโทษอีกครั้งนะครับ สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นอีก เราจะพยายามปรับปรุงไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก โอกาสหน้าเชิญใช้บริการที่ร้านเราอีกนะครับ”
WI-WS-006 การเสนอราคา-แผนกขายส่ง-โครงการ
1.วัตถุประสงค์
ระเบียบปฏิบัติฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ฝ่ายเพื่อให้ส่วนค้าส่ง-โครงการ ถือเป็นแนวทางการปฏิบัติ ในการเสนอราคาให้กับลูกค้าส่วนค้าส่ง-โครงการ ในการพิจารณาสั่งซื้อสินค้า
2.ขอบเขต
ครอบคลุมการเสนอราคาสำหรับลูกค้า ของส่วนค้าส่งเท่านั้น
- หน้าที่และความรับผิดชอบ
ผู้อำนวยการฝ่ายขาย
- พิจารณาอนุมัติใบเสนอราคา
ผู้จัดการส่วนค้าส่งโครงการ
- รับผิดชอบเป้าการขาย
พนักงานขาย (พนักงานขายนอกสำนักงาน / พนักงานขายในสำนักงาน)
- นำเสนอขายต่อลูกค้า
- จัดทำรายงานการปฏิบัติงานประจำวัน
- จัดทำใบเสนอราคา
ธุรการขาย
- บันทึกทะเบียนใบเสนอราคา
- ประสานงานด้านการขาย
4.คำจำกัดความ
- บริษัทฯ หมายถึง บริษัท นพดลพานิช จำกัด
- ลูกค้าส่วนค้าส่งโครงการหมายถึง ลูกค้าโครงการ, บ้านจัดสรร, ร้านค้าและหน่วยงานราชการ ที่มีการสั่งซื้อ เป็นประจำ
- พนักงานขาย หมายถึง พนักงานที่ออกปฏิบัติงานนอกสถานที่ และพนักงานที่ปฏิบัติงานในสำนักงาน
- ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
รายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงาน
5.1 แผนการขายค้าส่งประจำแผนก
- พนักงานขายรับแผนการขายส่งประจำแผนก (FM-WS-009) จากหัวหน้าแผนกขาย
5.2 พนักงานขายเข้าพบเพื่อนำเสนอและขอข้อมูลอื่น ๆ จากลูกค้า
พนักงานขายติดต่อลูกค้าเพื่อนำเสนอและขอข้อมูลอื่น ๆ มีแนวทางในการปฏิบัติดังนี้
- ติดต่อเพื่อขอพบอย่างเป็นทางการ ที่สำนักงานหรือหน่วยงานก่อสร้าง
- เข้าพบโดยมิได้นัดหมาย ที่สำนักงานหรือหน่วยงานก่อสร้าง
- นำเสนอสินค้าและบริการ พร้อมขอข้อมูลเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าด้วยเครื่องมือสื่อสาร
- ภายหลังการติดต่อนำเสนอด้วยการเข้าพบนอกสถานที่ ให้ลงบันทึกในรางานการปฏิบัติงานนอกสถานที่ (FM-WS-010) และนำส่งให้หัวหน้าแผนกทุกวัน
- ภายหลังการติดต่อนำเสนอด้วยการโทรศัพท์ติดต่อหรือลูกค้ามาพบในบริษัทฯ ให้ลงบันทึกในรางานการปฏิบัติงานในสำนักงาน (FM-WS-006) และนำส่งให้หัวหน้าแผนกทุกวัน
5.3 พนักงานขายจัดทำใบเสนอราคา
การจัดทำใบเสนอราคาตามที่ลูกค้าแจ้งรายละเอียดไว้ ด้วยระบบ BC ดังนี้
- เข้าระบบ BC ด้วย รหัสผ่านของพนักงานขาย
- เลือกคำสั่ง “ จัดขาย ”
- เลือกคำสั่ง “ บันทึกใบเสนอราคาสินค้า ”
- เลือกเงื่อนไขการขาย ดังนี้
- QCV คือ ขายเชื่อ รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- QHV คือ ขายสด รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- บันทึกเงื่อนไขใบเสนอราคา พร้อมสั่งพิมพ์
- หมายเหตุ กรณีเป็นการจัดทำใบเสนอราคาเพื่อแก้ไข จากการต่อรองจากลูกค้าให้ระบุการ REVICE ครั้งใหม่ทุกครั้ง
5.4 พนักงานขายนำเสนอเพื่อขออนุมัติ โดยผ่านหัวหน้าแผนก, ผู้จัดการส่วนค้าส่ง และผู้อำนวยการฝ่าย
- กรณีที่ไม่ผ่านการพิจารณาอนุมัติให้ย้อนไปแก้ไขในขั้นตอนการจัดทำใบเสนอราคา เพื่อนำเสนอเพื่อขออนุมัติ
- กรณีที่ผ่านการพิจารณาอนุมัติให้นำใบเสนอราคาลงบันทึกในทะเบียนบันทึกใบเสนอราคา
- หมายเหตุ กรณีผู้อำนวยการฝ่ายไม่อยู่ให้ ผู้จัดการส่วนค้าส่ง สามารถอนุมัติแทนได้
พนักงานธุรการขาย บันทึกใบเสนอราคา ในทะเบียนบันทึกใบเสนอราคา (WS3-F02) พร้อมทั้งกำหนดสถานะของใบเสนอราคา ในกรณีที่ลูกค้าตอบรับการเสนอราคาให้ดึงไปทำใบสั่งขาย (FM-WS-002)
5.5 บันทึกทะเบียนใบเสนอราคา
- ธุรการขาย จัดทำทะเบียนบันทึกใบเสนอราคา
- แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง
- แผนการขายส่งประจำแผนก (FM-WS-009)
- รางานการปฏิบัติงานนอกสถานที่ (FM-WS-007)
- รางานการปฏิบัติงานในสำนักงาน (FM-WS-006)
- ใบเสนอราคา
- ทะเบียนบันทึกใบเสนอราคา
- ใบสั่งขาย (FM-WS-002)
WI-WS-007 การปิดการขาย แผนกขายส่ง-โครงการ
1.วัตถุประสงค์
ระเบียบปฏิบัติฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ส่วนค้าส่ง-โครงการ ถือเป็นแนวทางการปฏิบัติ ในการปิดการขาย ของส่วนค้าส่ง
2.ขอบเขตของระเบียบการปฏิบัติงาน
ครอบคลุมกระบวนการปิดการขายสำหรับลูกค้า ของส่วนค้าส่งเท่านั้น
3.หน้าที่และความรับผิดชอบ
ผู้อำนวยการฝ่ายขาย
- พิจารณาตัดสินใจจัดลำดับความสำคัญลูกค้า
ผู้จัดการส่วนค้าส่งโครงการ
- พิจารณาตัดสินใจจัดลำดับความสำคัญลูกค้า
พนักงานขาย (พนักงานขายนอกสำนักงาน / พนักงานขายในสำนักงาน)
- ติดตามผลการเสนอราคา เพื่อพิจารณาปรับปรุง แก้ไข เพิ่มเติมและต่อรองราคา
- ติดตามผลการสรุปซื้อ
- นำเสนอการพิจารณาอนุมัติวงเงินเบื้องต้น
- ปิดการขายและบันทึกรับข้อตกลง
- ออกเอกสารการสั่งขาย
- ตรวจสอบความเพียงพอของสินค้าเพื่อแจ้งขอสั่งซื้อด้วย BACK ORDER
ธุรการขาย
- จัดลำดับความสำคัญของการสั่งซื้อ
- จัดทำบันทึกทะเบียนการสั่งซื้อจากลูกค้า
- จัดทำบันทึกทะเบียนการสั่งขาย
- จัดทำบันทึก BACK ORDER
- ส่งมอบเอกสารให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
- ติดตามการสั่งซื้อสินค้า และตัดบันทึกทะเบียนการสั่งซื้อ
- สรุปรายงานการสั่งซื้อ
ฝ่ายการเงินและสินเชื่อ
- พิจารณาอนุมัติวงเงิน และแจ้งผลการอนุมัติให้ทางลูกค้าทราบ
4.คำจำกัดความ
- บริษัทฯ หมายถึง บริษัท นพดลพานิช จำกัด
- ลูกค้าส่วนงานค้าส่ง หมายถึง ลูกค้าโครงการ, บ้านจัดสรร, ร้านค้า , หน่วยงานราชการ และลูกค้าทั่วไปที่มีการสั่งซื้อเป็นประจำ
- เอกสารที่เกี่ยวข้อง
- ใบสั่งซื้อจากลูกค้า(เอกสารภายนอกบริษัท)
- ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
รายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงาน
6.1 การส่งใบเสนอราคา
- พนักงานขาย ส่งใบเสนอราคา (WS3-F01) ให้กับลูกค้า
6.2 การติดตามผลการสั่งซื้อ
- พนักงานขายติดตามผลการเสนอราคาด้วยการเข้าพบ, โทรติดตามผล
6.3 การนำเสนอข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม
- พนักงานขายนำเสนอเพิ่มเติม กรณีลูกค้าต้องการข้อมูลสินค้าเพิ่มเติม เช่น ตัวอย่างสินค้า, เอกสารบ่งชี้ความสำคัญ, หนังสือรับรองคุณภาพ เป็นต้น เพื่อพิจารณาในการตัดสินใจซื้อเพิ่มเติม
6.4 การต่อรองราคา และเงื่อนไขพิเศษ
กรณีที่ลูกค้า มีการต่อรอง ด้านราคา หรือเงื่อนไขพิเศษ ให้พนักงานขายบันทึกข้อมูลการต่อรองราคาหรือเงื่อนไขพิเศษใน ใบบันทึกข้อตกลงกับลูกค้า (RT3-F01)
เมื่อมีการสรุปราคาและเงื่อนไขแล้ว ให้ดำเนินการจัดทำใบเสนอราคา (WS3-F01) เพื่อแก้ไข จากการต่อรองของลูกค้าให้ระบุการ REVICE ครั้งใหม่ทุกครั้ง
หมายเหตุ กรณีการต่อรองด้านราคา ให้ดำเนินการขออนุมัติการลดราคาตามลำดับอำนาจการตัดสินใจภายในฝ่ายขาย
6.5 การรับคำสั่งซื้อ
เมื่อลูกค้าตกลงตัดสินใจซื้อ พนักงานขายรับคำสั่งซื้อจากลูกค้า โดยเป็นลักษณะเอกสารการสั่งซื้อ หรือกรณีที่มีการสั่งซื้อทางโทรศัพท์ ให้พนักงานขายบันทึกรายละเอียดในใบบันทึกข้อตกลงกับลูกค้า (RT3-F01)
6.6 การตรวจสอบวงเงิน
พนักงานขายตรวจสอบวงเงินสินเชื่อของลูกค้า ถ้าไม่เกินวงเงินให้ปฏิบัติตาม ข้อ 5 กรณีเกินวงเงินให้ปฏิบัติตามข้อ 7
6.7 การขออนุมัติขายเกินวงเงิน
- พนักงานขายจัดทำใบขออนุมัติการขายเกินวงเงิน (F-WS-401) เสนอหัวหน้าแผนกสินเชื่อ เพื่อพิจารณาอนุมัติ
กรณีไม่อนุมัติให้พนักงานขายแจ้งลูกค้า และอาจแนะนำการซื้อด้วยเงินสดแทน
6.8 การบันทึกรับข้อตกลง
กรณีที่มีข้อตกลงอื่น ๆ เช่น จัดส่งสินค้ามากกว่า 1 จุด พนักงานขายจัดทำเอกสารในใบบันทึกข้อตกลงกับลูกค้า (RT3-F01) เพื่อส่งมอบให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
6.9 การจัดทำใบ BACK ORDER
- กรณีที่สินค้าไม่เพียงพอต่อการจัดส่ง ให้พนักงานธุรการขายจัดทำใบ BACK ORDER (F-WS-402) และแนบสำเนาใบสั่งซื้อจากลูกค้า (ถ้ามี) เพื่อส่งมอบไปแผนกบริหารสินค้า เพื่อดำเนินการสั่งซื้อสินค้ามาให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ตามระเบียบปฎิบัติการจัดทำใบ BACK ORDER (P-GR-2)
การจัดทำใบ BACK ORDER ด้วยระบบ BC ดังนี้
- เข้าระบบ BC ด้วย รหัสผ่านของพนักงานขาย
- เลือกคำสั่ง “ จัดขาย ”
- เลือกคำสั่ง “ บันทึกใบเสนอราคาสินค้า ”
- เลือกเงื่อนไขการขาย ดังนี้
- BCV คือ ขายเชื่อ รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- BCN คือ ขายเชื่อ ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- BHV คือ ขายสด รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- สั่งพิมพ์ด้วยโปรแกรมพิมพ์
- ธุรการขายลงทะบียนบันทึก BACK ORDER (WS4-F03) และติดตามเมื่อมีการรับสินค้าแล้วให้ดำเนินการตาม 10
6.10 การจัดลำดับความสำคัญของการสั่งซื้อ
- ธุรการขายรับใบสั่งซื้อ หรือใบบันทึกข้อตกลงกับลูกค้า (RT3-F01) จากพนักงานขาย เพื่อพิจารณาลำดับการออกใบสั่งขาย โดยพิจารณาปริมาณความต้องการขายกับปริมาณสินค้าคงคลังน้อยกว่า ความต้องการขาย ให้พิจารณาลำดับตามความเหมาะสม
ธุรการขายจัดทำใบสั่งขาย (F-WS-404) ตามเอกสารการสั่งซื้อจากลูกค้า ด้วยระบบ BC ดังนี้
- เข้าระบบ BC ด้วย รหัสผ่านของพนักงานขาย
- เลือกคำสั่ง “ จัดขาย ”
- เลือกคำสั่ง “ ใบสั่งขายสินค้า ”
- เลือกเงื่อนไขการขาย ดังนี้
- SCV คือ ขายเชื่อ รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- SHV คือ ขายสด รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- SCN คือ ขายเชื่อ ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ROV คือ ใบจองสินค้า ส่งสินค้าให้
- บันทึกเงื่อนไขใบสั่งขาย พร้อมสั่งพิมพ์
6.11 การบันทึกใบสั่งขาย
- ธุรการขายลงบันทึกใบสั่งขาย ในทะเบียนบันทึกการสั่งขาย (F-WS-404)
6.12 การส่งมอบเอกสารให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ธุรการขายนำเอกสาร การสั่งขาย ให้แผนกคลังสินค้า ในกรณีดังนี้
- กรณีเงินสด
- กรณีเงินเชื่อ-รับเอง
ธุรการขายนำเอกสาร การสั่งขาย ให้แผนกขนส่ง ในกรณีดังนี้
- กรณีเก็บเงินปลายทาง-ส่งให้
- กรณีเงินเชื่อ-ส่งให้
6.13 ติดตามการสั่งขายสินค้า
- ธุรการขายติดตามการสั่งขายสินค้าจากแผนกขนส่ง แล้วนำ ใบสั่งขายที่ทำการจัดส่งแล้ว มีการตรวจสอบพบว่าลูกค้าได้รับสินค้าเรียบร้อยแล้ว ให้นำใบสั่งขาย (F-WS-404) และ ใบบันทึกข้อตกลงกับลูกค้า (RT3-F01) ออกจากแฟ้ม
- กรณีใบสั่งซื้อรอดำเนินการ เตรียมส่งให้แผนกสินเชื่อเพื่อดำเนินการขั้นต่อไป
- แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง
- ใบเสนอราคา
- ใบบันทึกข้อตกลงกับลูกค้า
- ใบเสนอราคา
- ใบขออนุมัติการขายเกินวงเงิน
- ใบ BACK ORDER
- ใบสั่งขาย
WI-WS-008 คู่มือปฏิบัติงาน SCG Roof service 4.0
กระบวนการ

1. ทาง SCG 4.0 จะเป็นคนดำเนินการเจรจากับลูกค้าเองเมื่อตกลงกับลูกค้าได้จะส่งต่องานมาให้กับทาง บริษัท นพดลพานิช จำกัด
2. ราคาเหมาเป็นราคาที่ทาง SCG ในตกลงกับลูกค้าซึ่งเป็นราคาสินค้ารวมค่าช่างเรียบร้อยแล้ว
3. ซึ่งทาง บริษัท นพดลพานิช จำกัด จะได้กำไร 5% ของราคาเหมาทั้งหมด
4. ทาง SCG จะออกเอกสารในส่วนของลูกค้า และ ส่วนของผู้แทนจำหน่าย ซึ่งลูกค้าจะได้เอกสารเป็นฉบับเดียว
5. เมื่อทาง SCG ได้ออกเอกสารมาให้ ทางพนักงานขายจะต้องนำเอกสารเพื่อทำการเปิด Back Order เพื่อรับมัดจำเข้าในระบบ
6. ส่วนสินค้าเอกสารส่วนผู้แทนจำหน่ายให้ผู้มีอำนาจเซ็นสั่งซื้อ แล้วส่งเอกสารให้ SCG เปิด PO ทำงาน
7. พนักงานตัวแทน Senter ร้านติดตามงานและประสานงานกับลูกค้าแจ้งความคืบหนิา ปัญหา และอุปสรรค เพื่อติดต่อ SCG ดำเนินการแก้ไข
ปัญหา
8. เมื่องานเสร็จเรียบร้อยแล้วส่วนกลางจะส่งเอกสารมาเรียกเก็บกับทางร้านและการเงินทำการออกบิล
(Roof 4.0 คือการที่ SCG เข้าไปดูหน้างาน (Reroof ,Repaint ,Repair ,Renovate) และมีการตกลงกับลูกค้า โดยการตกลงกับลูกค้าคือการเหมาทั้งค่าของและค่าแรง โดยค่าของไม่ได้ซื้อผ่านร้านเราเอง จะเป็นการจัดการของทาง SCG ทั้งหมด ทางร้านจะได้ค่าดำเนินการ 5% ของราคาที่เสนอ)
หัวข้อการประชุมร่วมกับคุณกุ๊ก หลังคา 4.0
มาตรฐาน การตรวจรับมอบงาน
: อ้างอิงตามหัวข้อ มาตรฐานงานติดตั้งของ SCG ในกระเบื้องแต่ละรุ่น ( ทีมงานกำลัง List หัวข้อให้)
สำหรับงาน Reno ระยะเวลาในการเข้าสำรวจ หลังจากได้ PO สำรวจจากทางร้าน ผทจ.แล้ว ภายในกี่วัน
: ตามภูมภาค จะอยู่ภายใน 7-10 วัน หากเป็นนครหลวงตอนนี้จะอยู่ที่ประมาณ15 วัน
ขอบเขตการรับประกัน รวมถึงถ้าเกิดความเสียหายเช่น น้ำรั้วจากการมุงหลังคาของเรา ลงฝ้าหรือพื้นบ้านเกิดความเสียหาย จะอยู่ในข้อ 3,4 หัวข้อขอบเขตการรับประกัน @wanwan เพื่อขอคำอธิบายเพิ่มเติม
ขั้นตอนปฎิบัติงานของฝ่ายที่เกี่ยวช้อง

WI-WS-009 คู่มือการขายสินค้าสั่งพิเศษ(BACK ORDER) แผนกขายส่ง-โครงการ
1.วัตถุประสงค์
ระเบียบปฏิบัติฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ส่วนค้าส่ง-โครงการ ถือเป็นแนวทางการปฏิบัติ ในการสั่งซื้อสินค้าสั่งพิเศษ(BACK ORDER) ของส่วนค้าส่ง
2.ขอบเขตของระเบียบการปฏิบัติงาน
ครอบคลุมกระบวนการปิดการขายสำหรับลูกค้า ของส่วนค้าส่งเท่านั้น
3.หน้าที่และความรับผิดชอบ
ผู้อำนวยการฝ่ายขาย
- พิจารณาตัดสินใจจัดลำดับความสำคัญลูกค้า
ผู้จัดการส่วนค้าส่ง
- พิจารณาตัดสินใจจัดลำดับความสำคัญลูกค้า
พนักงานขาย (พนักงานขายนอกสำนักงาน / พนักงานขายในสำนักงาน)
- ติดตามผลการสรุปซื้อสินค้า
- นำเสนอการพิจารณาอนุมัติวงเงินเบื้องต้น / กรณีลูกค้าเงินสด เรียกเก็บเงินมัดจำตามข้อตกลง
- ปิดการขายและบันทึกรับข้อตกลง
- ออกเอกสาร BACK ORDER
- ตรวจสอบความเพียงพอของสินค้าเพื่อแจ้งขอสั่งซื้อด้วย BACK ORDER
ธุรการขาย
- จัดลำดับความสำคัญของการสั่งซื้อ
- จัดทำบันทึกทะเบียนการสั่งซื้อจากลูกค้า
- จัดทำบันทึกทะเบียนการสั่งขาย
- จัดทำบันทึก BACK ORDER
- ส่งมอบเอกสารให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
- ติดตามการสั่งซื้อสินค้า และตัดบันทึกทะเบียนการสั่งซื้อ
- สรุปรายงานการสั่งซื้อ
4.รายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงาน
4.1 การสั่งสินค้าBACK ORDER
- พนักงานขาย รับคำสั่งซื้อจากลูกค้า แจ้งเงื่อนไขการชำระเงิน กรณีเงินสด/เงินเชื่อ
4.2 ส่งใบBACK ORDER ให้จัดซื้อ
- จัดซื้อตรวจสอบสต๊อคสินค้าโรงงาน
- กรณีรอคิวจัดส่งปกติ แจ้งระยะเวลารอคอยแก่ลูกค้า
- กรณีสินค้ารอนานกว่าปกติ พนักงานขายนำเสนอสินค้าทดแทนพร้อมรายละเอียดเพิ่มเติม(หากลูกค้าตกลงรับเงื่อนไขสินค้าทดแทน แก้ไขเอกสารBACK ORDER)
- หากลูกค้ายืนยันรับสินค้าตามสเปคเดิม ประสานจัดซื้อหาโป๊วสินค้าจากผู้แทนจำหน่ายรายอื่นแทน
4.3 ติดตามจนจบกระบวนการ ลูกค้าได้รับสินค้าครบถ้วนและพึงพอใจ
4.4 กรณี Back Order ที่สั่งมาเพื่อทดแทนสินค้าคลัง A ให้ปฏิบัติ ดังนี้
4.4.1 จัดทำเอกสารและรายละเอียดให้บริหารสินค้าเซ็นต์รับทราบว่ามีรายการสินค้าไหนบ้างที่เมื่อสินค้า Back Order ที่มาถึงแล้วต้องรับเข้าคลัง A เนื่องจากเป็นสินค้าที่สั่งมาทดแทนคลัง A ตามแบบฟอร์มที่กำหนดให้ Link แบบฟอร์ม
ตัวอย่างแบบฟอร์ม