Computer IT

JOB DESCRIPTION

JOB DESCRIPTION

JD-IT-001 ผู้จัดการส่วนพัฒนาระบบสารสนเทศ

ชื่อตำแหน่ง(ไทย)

ผู้จัดการส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ

ชื่อตำแหน่ง(อังกฤษ)

Information Technology Manager

แผนก

พัฒนาระบบ

ฝ่าย

พัฒนาธุรกิจ

ผู้บังคับบัญชา

กรรมการผู้จัดการ

ระดับตำแหน่งงาน

G5

วัตถุประสงค์ของตำแหน่งงาน (Job  Purpose)

รับผิดชอบการออกแบบระบบ เครือข่าย การบริหารจัดการ การพัฒนาระบบงาน และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อสนับสนุนและพัฒนาระบบการทำงานของบริษัท


ความรับผิดชอบหลัก (Key  Responsibilities)

หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก

(Key  Responsibilities and Activities)

วัตถุประสงค์หลักของงาน

(Key Objectives)

ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน

(Performance  Indicators)

1. กำหนดแผนการทำงานและนโยบายของแผนก IT

1. กำหนดแผนการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้

2. ติดตามผลการทำงานเพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของงานและการทำงาน

3. ประเมินผลของงานและการทำงาน

4. Security Admin

5. เขียนและพัฒนาระบบงานของบริษัท

1.ระบบคุณภาพ (KPI) สอดคล้องกับนโยบายและบรรลุเป้าหมาย

2. บริหารโครงการพัฒนา Application

2. พัฒนาระบบอย่างมีประสิทธิภาพ

3. การจัดการด้านความปลอดภัยข้อมูล

3. ความปลอดภัยของข้อมูลภายในบริษัทมีประสิทธิภาพ


4. เขียนและพัฒนาโปรแกรมระบบงานข้อมูลให้กับบริษัท

4. จำนวนชิ้นงาน ต่อ 1 Project ภายในเวลาที่กำหนด

คู่มือที่เกี่ยวข้อง
BC Account

ความยากของงาน/ความเสี่ยง/ข้อควรระวัง (Major Challenges)

1. การวางนโยบายระบบสารสนเทศ ให้สอดคล้องกับนโยบายองค์กร (Resource Planning)

2. ความรู้ทางด้านต่างๆ ที่มีความแตกต่างกันและต้องใช้เวลาในการศึกษาในแต่ละงาน โดยไม่ข้อจำกัดเรื่องเวลาและงบประมาณ

3. การวิเคราะห์ความต้องการโดยการแปลงความต้องการต่างๆ มาเป็นโครงสร้างด้านโปรแกรม อย่างตรงตามความต้องการและตามนโยบาย โดยมีข้อจำกัดเรื่องเวลาและงบประมาณ


ขอบเขตงานของผู้ใต้บังคับบัญชา (Subordinate's Responsibilities)

ตำแหน่ง (Position)

ขอบเขตงานโดยย่อ (Job Scope)

Database Programmer

1. Requirement

2. Analysis

3. Design

4. Coding

5. Deployment

6. Training

7. Application Support

Web Application development

1. Requirement

2. Analysis

3. Design

4. Coding

5. Deployment

6. User Training

7. Application Support

Technician

1.ช่อมบำรุงอุปกรณ์ IT

2. คัดสรรและสรรหาอุปกรณ์

3. จัดทำทะเบียนอุปกรณ์ IT

4. ทำ Preventive maintenance

5. Office station Support

อำนาจดำเนินการ (Financial  Responsibilities/Authorization)

เรื่อง (Item)

ระดับอำนาจอนุมัติ (Amount/Authorized level)

อนุมัติได้เอง

(Own Decision)

ต้องขอคำแนะนำ

(Consulted  by  Superior)

นำเสนอผู้บังคับบัญชา

(Superior  Approval)









การทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น (Working  Relationship)

หน่วยงาน/ตำแหน่งงานที่ติดต่อ

เรื่องที่ต้องติดต่อ

ความถี่

ทุกหน่วยงาน

อบรมการใช้งานงานด้านการวิเคราะห์ความต้องการ

ไม่แน่นอน

ช่าง Home mart

การติดตั้งอุปกรณ์

ไม่แน่นอน

คุณสมบัติประจำตำแหน่ง (Job Specifications)

1.Windows Server Administration

2. Database administration

3. System Analysis

4. Security Administration

5. Network administration

วุฒิการศึกษา (Education Background)

ปริญญาตรี สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ


ประกาศนียบัตร/ใบรับรองทางวิชาชีพ/ใบอนุญาต (Certification/Licensing)


ประสบการณ์การทำงาน (Professional Experiences)

- เป็นผู้ดูแลระบบเครือข่ายอย่างน้อย 2 ปี 

- เป็นผู้วิเคราะห์ระบบอย่างน้อย 2 ปี


ความสามารถประจำตำแหน่ง (Competencies)

ความรู้

(Knowledge)

ทักษะ

(Skills)

ความสามารถด้านความคิด/บุคลิกภาพ

(Mental Abilities/Personalities)

1. การวิเคราะห์ระบบเครือข่ายและโปรแกรมคอมพิวเตอร์

2. การวางแผนงาน

3. การติดตามงานให้เป็นไปตามแผน

- คอมพิวเตอร์

- ภาษาอังกฤษ

- การสื่อสาร

- บุคลิกภาพดี

- มนุษยสัมพันธ์ดี

- มีใจรักงานบริการ

คุณสมบัติอื่น ๆ (Others)

- Microsoft Project , Microsoft Office , Mindmanager

- มีความกระตือรือร้นและชอบงานที่มีความท้าทาย


ผู้จัดทำ

(Prepare By)

ผู้อนุมัติ

(Approved  By)

ผู้ดำรงตำแหน่ง

(Acknowledged  By)


(…..........................................)

วันที่........../........./..........


(…..........................................)

วันที่........../........./..........


(…..........................................)

วันที่........../........./..........



JOB DESCRIPTION

JD-IT-002 Backend-Developer

ชื่อตำแหน่ง(ไทย)

โปรแกรมเมอร์ฐานข้อมูล

ชื่อตำแหน่ง(อังกฤษ)

Database Programmer

แผนก

พัฒนาระบบ

ฝ่าย

พัฒนาธุรกิจ

ผู้บังคับบัญชา

ผู้จัดการส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ

ระดับตำแหน่งงาน

G4

วัตถุประสงค์ของตำแหน่งงาน (Job  Purpose)

1. วิเคราะห์ ออกแบบฐานข้อมูล (Database Design and Analyze) และ การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของบริษัท

2. จัดทำรายงานด้านการตรวจสอบ และการวิเคราะห์ข้อมูล

ความรับผิดชอบหลัก (Key  Responsibilities)

หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก

(Key  Responsibilities and Activities)

วัตถุประสงค์หลักของงาน

(Key Objectives)

ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน

(Performance  Indicators)

           คู่มือ

 

1. server-side development 

business backend logic, APIs, and Servers.

ตรงตามความต้องการของ business และมีประสิทธิภาพ 

- test case coverage 80%  


   - Analysis & Design 

Object conceptual design 

ประชุมร่วมกับทีมงานที่เกี่ยวข้อง

conceptual object design diagram


   - Database Design 

วิเคราะห์ , ออกแบบ  ฐานข้อมูล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Normalize Design 

   - Development

  (application programing interface)  

พัฒนาระบบ API หรือ ช่องทางอื่นๆ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูล ระหว่าง application หรือ service ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

พัฒนา service สอดคล้องกับ Frontend ( web , app) และมีประสิทธิภาพสูง


    - Source code management 

บริหารจัดการ  ชุดคำสั่ง (sourcecode) 

จัดทำ versioning และ changelog ตามมาตรฐาน conventional commit concept


    - CI/CD  

จัดการ pipeline เพื่อการส่งมอบงานแบบต่อเนื่อง 

ตรงตามความต้องการและ ตรงตามกำหนดเวลา 


2. Maintenance Service Agreement (MA) 

1. บำรุงรักษาระบบให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา

2. ปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีอยู่เสมอ

3. ง่ายต่อการพัฒนาต่อและติดตามผลการทำงาน

4. Backup - สำรองข้อมูลที่จำเป็น

ข้อมูลที่มีความเชื่อถือได้และรวดเร็วในการประมวลผล


ได้ Server Script สำหรับ Information Report or Front End Application


3. ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม

ศึกษาหาเทคโนโลยีใหม่ และกระบวนการใหม่ๆ เพื่อพัฒนาระบบงาน

จัดทำ knowledge sharing เป็นประจำทุกเดือน 


คู่มือที่เกี่ยวข้อง
BC Account

ความยากของงาน/ความเสี่ยง/ข้อควรระวัง (Major Challenges)

1.  การวางระบบให้สามารถรองรับ การนำไปใช้เป็น generic และ reusable 

2.  การควบคุม Business logic ของ Application ผ่าน API ต้องใช้ประสบการณ์และความเข้าใจธุรกิจของบริษัท

ขอบเขตงานของผู้ใต้บังคับบัญชา (Subordinate's Responsibilities)

ตำแหน่ง (Position)

ขอบเขตงานโดยย่อ (Job Scope)



อำนาจดำเนินการ (Financial  Responsibilities/Authorization)

เรื่อง (Item)

ระดับอำนาจอนุมัติ (Amount/Authorized level)

อนุมัติได้เอง

(Own Decision)

ต้องขอคำแนะนำ

(Consulted  by  Superior)

นำเสนอผู้บังคับบัญชา

(Superior  Approval)









การทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น (Working  Relationship)

หน่วยงาน/ตำแหน่งงานที่ติดต่อ

เรื่องที่ต้องติดต่อ

ความถี่

ทุกแผนก

สนับสนุนสารสนเทศ (Information Support) วิเคราะห์ระบบงาน

ตามงานที่ได้รับมอบหมายไม่แน่นอน

ผู้ใช้งาน

รับความต้องการและปัญหาจากระบบ

ไม่แน่นอน

ผู้บริหาร

เก็บความต้องการของฝ่ายบริหาร รายงานผล

ไม่แน่นอน


คุณสมบัติประจำตำแหน่ง (Job Specifications)

1. มีประสบการณ์ อย่างน้อย  1 ปี ( restful api )

2. มีทักษะด้านการวิเคราะห์ระบบงาน 

3. มีความชำนาญด้าน ANSI SQL Statement

4. มีความรู้และความเข้าใจกระบวนการพัฒนา Application

วุฒิการศึกษา (Education Background)

ปริญญาตรีทางด้าน Management Information System (MIS) หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง

ประกาศนียบัตร/ใบรับรองทางวิชาชีพ/ใบอนุญาต (Certification/Licensing)


ประสบการณ์การทำงาน (Professional Experiences)

วิเคราะห์และออกแบบฐานข้อมูลในส่วนของการพัฒนา Application อย่างน้อย 2 ปี ขึ้นไป

ความสามารถประจำตำแหน่ง (Competencies)

ความรู้

(Knowledge)

ทักษะ

(Skills)

ความสามารถด้านความคิด/บุคลิกภาพ

(Mental Abilities/Personalities)

1. การประสานงาน

2. การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

3. การวางแผน

4. ความชำนาญในงาน

- คอมพิวเตอร์

- ภาษาอังกฤษ

- การสื่อสาร

- บุคลิกภาพดี

- มนุษยสัมพันธ์ดี

- มีใจรักงานบริการ

คุณสมบัติอื่น ๆ (Others)

  • Backend Programming Languages
    • golang , python 
  • Databases  
    • SQL SERVER 
    • Mysql 
    • Postgresql 
    • NoSql
  • API 
    • Restful api 

ผู้จัดทำ

(Prepare By)

ผู้อนุมัติ

(Approved  By)

ผู้ดำรงตำแหน่ง

(Acknowledged  By)


(…..........................................)

วันที่........../........./..........


(…..........................................)

วันที่........../........./..........


(…..........................................)

วันที่........../........./..........

JOB DESCRIPTION

JD-IT-003 Frontend developer

ชื่อตำแหน่ง(ไทย)

เจ้าหน้าที่พัฒนาระบบเว็บไซต์

ชื่อตำแหน่ง(อังกฤษ)

Web Application  Developer

แผนก

พัฒนาระบบ

ฝ่าย

พัฒนาธุรกิจ

ผู้บังคับบัญชา

ผู้จัดการส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ

ระดับตำแหน่งงาน

G4


วัตถุประสงค์ของตำแหน่งงาน (Job  Purpose)

เพิ่มประสิทธิภาพและความพึงพอใจให้กับลูกค้าเมื่อมาใช้บริการโดยใช้ Web Application ทั้งภายในและสำหรับบุคคลภายนอก


ความรับผิดชอบหลัก (Key  Responsibilities)

หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก

(Key  Responsibilities and Activities)

วัตถุประสงค์หลักของงาน

(Key Objectives)

ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน

(Performance  Indicators)

1. เขียนและพัฒนาโปรแกรมระบบงานข้อมูลให้กับบริษัท


1. เขียนและพัฒนาระบบงานของบริษัท

1. จำนวนชิ้นงาน ต่อ 1 Project ภายในเวลาที่กำหนด


2. พัฒนาเว็บไซต์ของบริษัท

1. Public Internet Website

1. ประชาสัมพันธ์บริษัทให้บุคคลทั่วไปรับทราบ

2. เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและการทำงานของพนักงาน

3. พัฒนาระบบ Web Application

1.  Source code machine

2.  SCM

4. Documentation / Training

1. จัดทำเอกสารต่างๆในการพัฒนาระบบเว็บไซต์และการอบรมเกี่ยวกับระบบสารสนเทศของบริษัท

2. Training User

คู่มือที่เกี่ยวข้อง
BC Account


ความยากของงาน/ความเสี่ยง/ข้อควรระวัง (Major Challenges)

1. การวิเคราะห์

2. การออกแบบ

3. การประเมินผล


ขอบเขตงานของผู้ใต้บังคับบัญชา (Subordinate's Responsibilities)

ตำแหน่ง (Position)

ขอบเขตงานโดยย่อ (Job Scope)





อำนาจดำเนินการ (Financial  Responsibilities/Authorization)

เรื่อง (Item)

ระดับอำนาจอนุมัติ (Amount/Authorized level)

อนุมัติได้เอง

(Own Decision)

ต้องขอคำแนะนำ

(Consulted  by  Superior)

นำเสนอผู้บังคับบัญชา

(Superior  Approval)










การทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น (Working  Relationship)

หน่วยงาน/ตำแหน่งงานที่ติดต่อ

เรื่องที่ต้องติดต่อ

ความถี่

แผนกโฆษณา

กราฟฟิกส์สินค้าโปรโมชั่น

ตามกิจกรรม

แผนกบริการลูกค้า

ผลการใช้งานโปรแกรมและปัญหา

ไม่แน่นอน

แผนกขายปลีก

ผลการใช้งานโปรแกรมและปัญหา

ไม่แน่นอน

แผนกบุคคล

การใช้งาน E-Learning

ไม่แน่นอน


คุณสมบัติประจำตำแหน่ง (Job Specifications

1. สามารถพัฒนา Web Technology., Net., PHP., Macromedia Dreamweaver, HTML CSS, http, HTTPS, JQUERY, JAVAscript, vuejs, nodejs, Command line.

2. สามารถตั้ง Web Server ได้

3. สามารถใช้งานและเข้าใจระบบฐานข้อมูล (Database Relation Concept)

4. Graphics Design Concept (Photoshop, Flash, etc


วุฒิการศึกษา (Education Background)

ปริญญาตรีขึ้นไป สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ หรือ วิศวะคอมพิวเตอร์


ประกาศนียบัตร/ใบรับรองทางวิชาชีพ/ใบอนุญาต (Certification/Licensing)



ประสบการณ์การทำงาน (Professional Experiences)

เคยผ่านการทำงานด้าน Web Master มาแล้วอย่างน้อย 2 ปี





ความสามารถประจำตำแหน่ง (Competencies)

ความรู้

(Knowledge)

ทักษะ

(Skills)

ความสามารถด้านความคิด/บุคลิกภาพ

(Mental Abilities/Personalities)

1. การออกแบบ

2. การอบรมผู้ใช้งาน

3. การประสานงาน

4. ความกระตือรือร้นในการศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มเติมตลอดเวลา

- คอมพิวเตอร์

- ภาษาอังกฤษ

- การสื่อสาร

- บุคลิกภาพดี

- มนุษยสัมพันธ์ดี

- มีใจรักงานบริการ


คุณสมบัติอื่น ๆ (Others)

- สามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้

- มีความรับผิดชอบและกระตือรือร้นในการทำงาน

- สามารถใช้งาน MS Office, Visio, Ms Project, etc.



ผู้จัดทำ

(Prepare By)

ผู้อนุมัติ

(Approved  By)

ผู้ดำรงตำแหน่ง

(Acknowledged  By)


(…..........................................)

วันที่........../........./..........


(…..........................................)

วันที่........../........./..........


(…..........................................)

วันที่........../........./..........

JOB DESCRIPTION

JD-IT-004 เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลการตลาด

ชื่อตำแหน่ง(ไทย)

พนักงานวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด

ชื่อตำแหน่ง(อังกฤษ)

Marketing Information System

แผนก

พัฒนาระบบ

ฝ่าย

พัฒนาธุรกิจ

ผู้บังคับบัญชา

ผู้จัดการส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ

ระดับตำแหน่งงาน

G4


วัตถุประสงค์ของตำแหน่งงาน (Job  Purpose)

วิเคราะห์, จัดทำรายงาน นำเสนอ เพื่อการบริหารจัดการในบริษัทให้มีประสิทธิภาพ


ความรับผิดชอบหลัก (Key  Responsibilities)

หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก

(Key  Responsibilities and Activities)

วัตถุประสงค์หลักของงาน

(Key Objectives)

ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน

(Performance  Indicators)

1. ทำรายงานสรุป Incentive/Commission ประจำเดือน

1. ทำรายงานสรุปการจ่าย Incentive /Commission ประจำเดือนตามนโยบายบริษัท

1. รายงานสรุปการจ่าย Incentive /Commission ประจำเดือน ถูกต้องและเสนอขออนุมัติได้ทันในการจ่ายเงินให้พนักงาน

2. ข้อมูลทางการตลาดที่นำมาวิเคราะห์ถูกต้องและทันต่อการนำไปใช้งาน

3. สื่อ Online , Social media , Website. มีการ Update เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

4. การบริหารจัดการระบบ E-Commerce เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

2. วิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด/ผลักดัน/กระตุ้น 

  • กิจกรรม

  • เป้าการขายประจำปี/ประจำเดือน

  • KPI ของบริษัท

1. วิเคราะห์และนำเสนอรายงาน

  • ด้านงานขาย

  • ด้านงานซื้ิอ

2. ติดตามและวิเคราะห์ผลเป้าการขายและ KPI ของบริษัท

3. เขียนและพัฒนาโปรแกรมระบบงานข้อมูลให้กับบริษัท


1. เขียนและพัฒนาระบบงานของบริษัท


1. จำนวนชิ้นงาน ต่อ 1 Project ภายในเวลาที่กำหนด

คู่มือที่เกี่ยวข้อง
BC Account


ความยากของงาน/ความเสี่ยง/ข้อควรระวัง (Major Challenges)

1. การนำเสนอข้อมูลจะต้องกระชับ เข้าใจง่าย ระดับพนักงานทั่วไปสามารถเข้าใจได้ง่าย

2. ต้องเข้าใจขั้นตอนการทำงานในด้านงานซื้อ , งานขาย , สินค้าคงคลัง เพื่อประกอบการตรวจสอบข้อมูลที่ผิดพลาด และสามารถตอบคำถามจากข้อมูลได้

3. ต้องสามารถแปลงความต้องการของผู้ที่ต้องการข้อมูล มาจัดทำเป็นข้อมูลนำเสนอ และตรงตามความต้องการ


ขอบเขตงานของผู้ใต้บังคับบัญชา (Subordinate's Responsibilities)

ตำแหน่ง (Position)

ขอบเขตงานโดยย่อ (Job Scope)




อำนาจดำเนินการ (Financial  Responsibilities/Authorization)

เรื่อง (Item)

ระดับอำนาจอนุมัติ (Amount/Authorized level)

อนุมัติได้เอง

(Own Decision)

ต้องขอคำแนะนำ

(Consulted  by  Superior)

นำเสนอผู้บังคับบัญชา

(Superior  Approval)










การทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น (Working  Relationship)

หน่วยงาน/ตำแหน่งงานที่ติดต่อ

เรื่องที่ต้องติดต่อ

ความถี่

ผู้ใช้งานทุกแผนก

1. รับความต้องการจากทุกแผนก

2. นำงานไปนำเสนอและอธิบายเงื่อนไข ให้พนักงานเข้าใจ

3. นำเสนองานประจำรอบสัปดาห์

ตามการร้องขอ



รอบสัปดาห์

ผู้บริหาร

1. รับความต้องการระดับบริหาร และทำความเข้าใจ เพื่อนำไปจัดทำรายงานประกอบ

2. นำเสนอ

ตามการร้องขอ


คุณสมบัติประจำตำแหน่ง (Job Specifications


วุฒิการศึกษา (Education Background)

จบปริญาตรี สาขา ที่เกี่ยวข้องกับงาน ด้านการตลาด หรือ สารสนเทศ


ประกาศนียบัตร/ใบรับรองทางวิชาชีพ/ใบอนุญาต (Certification/Licensing)






ประสบการณ์การทำงาน (Professional Experiences)

ประสบการณ์ในการทำงานอย่างน้อย 1 ปี ขึ้นไป


ความสามารถประจำตำแหน่ง (Competencies)

ความรู้

(Knowledge)

ทักษะ

(Skills)

ความสามารถด้านความคิด/บุคลิกภาพ

(Mental Abilities/Personalities)

1. การออกแบบ

2. การอบรมผู้ใช้งาน

3. การประสานงาน

4. ความกระตือรือร้นในการศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มเติมตลอดเวลา

- คอมพิวเตอร์

- ภาษาอังกฤษเบื้องต้น

- การสื่อสาร

- บุคลิกภาพดี

- มนุษยสัมพันธ์ดี

- มีใจรักงานบริการ


คุณสมบัติอื่น ๆ (Others)

- สามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้

- มีความรับผิดชอบและกระตือรือร้นในการทำงาน

- สามารถใช้งาน Microsoft excel pivot table, MS Office, Visio, Ms Project, etc.



ผู้จัดทำ

(Prepare By)

ผู้อนุมัติ

(Approved  By)

ผู้ดำรงตำแหน่ง

(Acknowledged  By)


(…..........................................)

วันที่........../........./..........


(…..........................................)

วันที่........../........./..........


(…..........................................)

วันที่........../........./..........



JOB DESCRIPTION

JD-IT-005 ช่างเทคนิกคอมพิวเตอร์

ชื่อตำแหน่ง(ไทย)

ช่างเทคนิคคอมพิวเตอร์

ชื่อตำแหน่ง(อังกฤษ)

Technician

แผนก

พัฒนาระบบ

ฝ่าย

พัฒนาธุรกิจ

ผู้บังคับบัญชา

ผู้จัดการส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ

ระดับตำแหน่งงาน

G3

วัตถุประสงค์ของตำแหน่งงาน (Job  Purpose)

ควบคุมดูแล ตรวจซ่อม อุปกรณ์ IT และระบบโทรศัพท์ภายในบริษัท

ความรับผิดชอบหลัก (Key  Responsibilities)

หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก

(Key  Responsibilities and Activities)

วัตถุประสงค์หลักของงาน

(Key Objectives)

ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน

(Performance  Indicators)

1. Preventive Maintenance

1. จัดทำทะเบียนคุมอุปกรณ์ IT

2. วางแผนการบำรุงรักษา

3. บำรุงรักษาอุปกรณ์

1. อุปกรณ์ IT พร้อมใช้งานและลดอัตราการสูญเสีย

2. ตรวจซ่อมอุปกรณ์/เสนอซื้อ

1. รับแจ้งและทำการตรวจซ่อม

2. ประสานงานส่งซ่อมศูนย์บริการ

3. หาข้อมูลอุปกรณ์ให้สอดคล้องกับ

    ความต้องการ

4. ขอเสนอราคากับผู้จำหน่าย

1. ซ่อมอุปกรณ์ IT ที่เสียหายให้สามารถกลับมาใช้งานได้

2. อุปกรณ์ที่ซื้อมาตรงกับความต้องการและคุ้มค่า

3. บำรุงรักษาเครือข่ายโทรศัพท์และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

1. ออกแบบระบบ Network Design

2. ติดตั้งระบบเครือข่าย Network config.

3. ดูแลระบบเครือข่าย

1. ระบบเครือข่ายและระบบโทรศัพท์

ใช้งานได้เป็นอย่างดี

4. เขียนและพัฒนาโปรแกรมระบบงานข้อมูลให้กับบริษัท

1. เขียนและพัฒนาระบบงานของบริษัท

1. จำนวนชิ้นงาน ต่อ 1 Project ภายในเวลาที่กำหนด

คู่มือที่เกี่ยวข้อง
BC Account

ความยากของงาน/ความเสี่ยง/ข้อควรระวัง (Major Challenges)

1. การจัดทำทะเบียนอุปกรณ์และรอบการ Maintanance

2. การรับปัญหาและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

ขอบเขตงานของผู้ใต้บังคับบัญชา (Subordinate's Responsibilities)

ตำแหน่ง (Position)

ขอบเขตงานโดยย่อ (Job Scope)



อำนาจดำเนินการ (Financial  Responsibilities/Authorization)

เรื่อง (Item)

ระดับอำนาจอนุมัติ (Amount/Authorized level)

อนุมัติได้เอง

(Own Decision)

ต้องขอคำแนะนำ

(Consulted  by  Superior)

นำเสนอผู้บังคับบัญชา

(Superior  Approval)









การทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น (Working  Relationship)

หน่วยงาน/ตำแหน่งงานที่ติดต่อ

เรื่องที่ต้องติดต่อ

ความถี่

ช่างโฮมมาร์ท

ย้ายจุด เดินสาย ติดตั้ง

ไม่แน่นอน

ส่วนบุคคล

เบิกอุปกรณ์

ไม่แน่นอน

ทุกหน่วยงาน

งานติดตั้ง อุปกรณ์ ซ่อมแซมเครื่องใช้สำนักงาน

ไม่แน่นอน

ผู้จำหน่าย

สืบราคาอุปกรณ์ IT ต่างๆ

ไม่แน่นอน

คุณสมบัติประจำตำแหน่ง (Job Specifications)

1. มีความรู้ด้านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

2. มีความรู้ด้านการ ซ่อมและประกอบคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ IT

3. มีความรู้ด้านการใช้งาน Windows , Linux Ubuntu , Microsoft Office 

วุฒิการศึกษา (Education Background)

ปวส.ขึ้นไป สาขาเทคนิคคอมพิวเตอร์ 


ประกาศนียบัตร/ใบรับรองทางวิชาชีพ/ใบอนุญาต (Certification/Licensing)



ประสบการณ์การทำงาน (Professional Experiences)

เคยเป็นช่างเทคนิคคอมพิวเตอร์ อย่างน้อย 1 ปี


ความสามารถประจำตำแหน่ง (Competencies)

ความรู้

(Knowledge)

ทักษะ

(Skills)

ความสามารถด้านความคิด/บุคลิกภาพ

(Mental Abilities/Personalities)

1. การซ่อมคอมพิวเตอร์

2. การประสานงาน

3. ความกระตือรือร้นในการศึกษา

เทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มเติมตลอดเวลา

- คอมพิวเตอร์

- ภาษาอังกฤษเบื้องต้น

- การสื่อสาร

- บุคลิกภาพดี

- มนุษยสัมพันธ์ดี

- มีใจรักงานบริการ

คุณสมบัติอื่น ๆ (Others)

- ใช้ MS Office, Visio ,MS Project


ผู้จัดทำ

(Prepare By)

ผู้อนุมัติ

(Approved  By)

ผู้ดำรงตำแหน่ง

(Acknowledged  By)


(…..........................................)

วันที่........../........./..........


(…..........................................)

วันที่........../........./..........


(…..........................................)

วันที่........../........./..........



คู่มือปฏิบัติงาน (WI)

คู่มือปฏิบัติงาน (WI)

WI-IT-002 การติดตั้ง iCash (Payroll)

1. วัตถุประสงค์

การจัดทำเอกสารฉบับนี้เพื่อเป็นวิธีการปฏิบัติงานในการตัดตั้ง I Cash (Payroll) ของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นระบบการจ่ายเงินเดือนพนักงาน เพื่อความรวดเร็วง่ายดายและถูกต้องแม่นยำสูงสุดของระบบการจ่ายเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงเทพ


2. ขอบข่าย

การจ่ายเงินเดือนคือระบบพื้นฐานที่มีความสำคัญต่อบุคลากรทั้งองค์กร จึงต้องการระบบที่ช่วยให้ทุกอย่างรวดเร็วง่ายดายและถูกต้องแม่นยำสูงสุด ธนาคารกรุงเทพจึงออกแบบบริการจ่ายเงินเดือน Bualuang Payroll ด้วยเทคโนโลยีทางการเงินที่ทันสมัยภายใต้ระบบความปลอดภัยมาตรฐานสากล เพื่อจัดการระบบการจ่ายเงินเดือนให้มีความคล่องตัวสูงสุด 


3. อุปกรณ์ / เครื่องมือ

คอมพิวเตอร์ ที่มี Hardware Specification ดังนี้


4. ความรับผิดชอบ

แผนก IT เป็นผู้ควบคุมระบบปฏิบัติการ ClearOS


5. คำจำกัดความ

ไม่มี


6. เอกสารอ้างอิง

ไม่มี








7. วิธีปฏิบัติงาน

















คู่มือปฏิบัติงาน (WI)

PM-IT-003 BC ระบบเจ้าหนี้

ระบบเจ้าหนี้ (Payable System)


















คู่มือปฏิบัติงาน (WI)

PM-IT-004 BC ระบบลูกหนี้

ระบบลูกหนี้  (Receivable System)

คู่มือปฏิบัติงาน (WI)

PM-IT-005 BC ระบบธนาคาร/เงินสด

ระบบธนาคาร/เงินสด  (Bank/Cash  System)
















คู่มือปฏิบัติงาน (WI)

PM-IT-006 BC ระบบเช็ค/บัตรเครดิต

ระบบเช็ค/บัตรเครดิต  (Cheque / Credit card System)








































คู่มือปฏิบัติงาน (WI)

PM-IT-007 BC จัดการระบบ

จัดการระบบ  (System Management)






คู่มือปฏิบัติงาน (WI)

PM-IT-008 BC ระบบสินทรัพย์

ระบบสินทรัพย์ (Assets System)

คู่มือปฏิบัติงาน (WI)

PM-IT-009 ระบบบัญชีแยกประเภท

ระบบบัญชีแยกประเภท (General Ledger System)







 

คู่มือปฏิบัติงาน (WI)

PM-IT-010 ระบบสินค้าคงคลัง

ระบบสินค้าคงคลัง (Inventory System)


















 

คู่มือปฏิบัติงาน (WI)

PM-IT-011 ระบบซื้อ/จัดซื้อ

ระบบซื้อ/จัดซื้อ (Purchese System)













คู่มือปฏิบัติงาน (WI)

PM-IT-012 ระบบขาย/จัดขาย

ระบบขาย/จัดขาย (Sales System)





 

คู่มือปฏิบัติงาน (WI)

IT2-S01 LINK เอกสารการพัฒนาโปรแกรม 

 

 

คู่มือปฏิบัติงาน (WI)

IT2-S01 LINK เอกสารการพัฒนาโปรแกรม 

นพดลพานิช สำนักงานใหญ่

ยี่ห้อ/รุ่น

Supplier

Contact 

Tel.

Web Viewer

Belko

บ. นอร์ทเทิร์น ซิสเต็มส์

K.เกมส์

08-8138-0224

192.168.0.179 

Belko

บ. นอร์ทเทิร์น ซิสเต็มส์

K.เกมส์

08-8138-0224

192.168.0.150






นพดลพานิช สาขาสันกำแพง

ยี่ห้อ/รุ่น

Supplier

Contact 

Tel.

Web Viewer

Aver Media

บ. นอร์ทเทิร์น ซิสเต็มส์

K.เกมส์

08-8138-0224

-

SMC

บ. นอร์ทเทิร์น ซิสเต็มส์

K.เกมส์

08-8138-0224

http://s02xp.dyndns.org:82

Belko

บ. นอร์ทเทิร์น ซิสเต็มส์

K.เกมส์

08-8138-0224

http://s02xp.dyndns.org:83

นวเวนดิ้ง โกดังวัดขะจาว


ยี่ห้อ/รุ่น

Supplier

Contact 

Tel.

Web Viewer

Vantech 

Oxigen Intelligent

K. อ๊อก

08-1882-5002

- Web App.Console จาก http://navavending.dyndns.org:81/  (ใช้ IE เท่านั้น)

-Android App: gdmss โหลดจาก Play Store






User

Admin

Tom

Jib

Wow

Password

240377

240377

240377

131029


คู่มือปฏิบัติงาน (WI)

SD-IT-003 การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟแวร์

การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์คืออะไร?

การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ คือ การมีไว้ใช้ และ/หรือ การแจกจ่ายทรัพย์สินที่มีลิขสิทธิ์ปกป้อง โดยกฏหมาย ทรัพย์สิน ทางปัญญา การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ มีหลายรูปแบบ อาทิ

สถานการณ์การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์เป็นอย่างไร?

ในปัจจุบัน จากการทำวิจัยของ IDC Piracy Impact Study 2008 พบว่าประเทศไทยมีซอฟต์แวร์ ละเมิดลิขสิทธิ์อยู่ประมาณ80 เปอร์เซนต์ อาจกล่าวได้ว่าการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์เป็นเรื่องธรรมดาในที่ทำงาน แต่ในความเป็นจริงภาคธุรกิจมิได้ตระหนักว่าตนกำลังละเมิดกฏหมายลิขสิทธิ์ เนื่องจากองค์กรธุรกิจยังขาดนโยบายการจัดการซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ

หากธุรกิจใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์จะเกิดผลที่ตามมาคืออะไร?

องค์กรธุรกิจที่ใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ จะเสี่ยงต่อผลกระทบทางกฏหมาย ทางการเงิน และทางเทคนิคซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์อาจจะขาดความสมบูรณ์ หรือทำให้ระบบเครือข่ายเสี่ยงต่อไวรัส หรือ Hacker นอกจากนี้ยังอาจต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 6 เดือน – 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1 แสนบาท ถึง 8 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับตามกฎหมายพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ 2537

จะทำอย่างไรให้แน่ใจว่าธุรกิจของเราใช้ซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์?

เริ่มต้นด้วยการเข้าร่วมสัมมนากับเราในหัวข้อ ‘การบริหารสินทรัพย์ประเภทซอฟต์แวร์: วิธีที่เหมาะสมในการบริหารจัดการซอฟต์แวร์ในองค์กรของท่าน’ โดยการสัมมนาดังกล่าวจะช่วยวางแนวทางการตรวจสอบสินทรัพย์ที่เป็นซอฟต์แวร์ วางนโยบายการใช้ซอฟต์แวร์ และวางรากฐานการจัดการซอฟต์แวร์ให้กระบวนการเป็นไปอย่างต่อเนื่อง หรือลงทะเบียน เข้าร่วมโปรแกรม Software Audit Programme กับเรา ซึ่งการเข้าร่วมโปรแกรมกับเรานี้ บริษัทของท่านจะได้รับการปกป้องจากการดำเนินคดีทางกฎหมายในรอบระยะเวลา 1 ปี

การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในที่ทำงานโดยทั่วไปเกิดขึ้นได้อย่างไร?

การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในที่ทำงานโดยทั่วไปเกิดจาก 3 สาเหตุ

  1. ลูกจ้างนำซอฟต์แวร์จากบ้านมาติดตั้งที่คอมพิวเตอร์ที่ทำงาน

  2. ลูกจ้างดึงข้อมูลซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์จากอินเตอร์เน็ต

  3. ลูกจ้างใช้งานซอฟต์แวร์ร่วมกัน

นายจ้างจะต้องรับผิดชอบหรือไม่?

ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ 2537 เพราะเหตุนี้องค์กรธุรกิจจึงจำเป็นต้องทำการตรวจสอบทุกหกเดือน หรือ หนึ่งปี และสุ่มตรวจเครื่องคอมพิวเตอร์ของลูกจ้างเป็นครั้งคราว นายจ้างควรมีบทบาทในการยับยั้งการละเมิดลิขสิทธิ์โดยการกำหนดนโยบายซอฟต์แวร์ขององค์กร และให้ความรู้กับลูกจ้างถึงผลกระทบของการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งทั้งหมดรวมอยู่ใน เครื่องมือบริหารจัดการสินทรัพย์ซอฟต์แวร์ ของโครงการ

หากนายจ้างพบซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ในคอมพิวเตอร์สำนักงานของตน ควรทำอย่างไร?

หากพบการละเมิดลิขสิทธิ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์สำนักงานให้ลบซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าวทันที และหากพบว่าจำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์ดังกล่าวให้จัดซื้อซอฟต์แวร์ที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์จากตัวแทนจำหน่ายของซอฟต์แวร์นั้นๆ

 

คู่มือปฏิบัติงาน (WI)

SD-IT-004 พรบ.คอมพิวเตอร์-2555(ฉบับเต็ม)

พรบ. คอมพิวเตอร์ 2550 ทุกคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ต้องรู้

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมาย ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐”

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้ “ระบบคอมพิวเตอร์” หมายความว่า อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมการทำงานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกำหนดคำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใด และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ

“ข้อมูลคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย

“ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลาชนิดของบริการ หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์นั้น

“ผู้ให้บริการ” หมายความว่า

(๑) ผู้ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในนามของตนเอง หรือในนามหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น

(๒) ผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น

“ผู้ใช้บริการ” หมายความว่า ผู้ใช้บริการของผู้ให้บริการไม่ว่าต้องเสียค่าใช้บริการหรือไม่ก็ตาม

“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้

“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวง เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้

หมวด ๑

ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้น มิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ


มาตรา ๘ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๙ ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๑ ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

มาตรา ๑๒ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๙ หรือมาตรา ๑๐

(๑) ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นในทันทีหรือในภายหลัง และไม่ว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกันหรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท

(๒) เป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือการบริการสาธารณะ หรือเป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาท

ถ้าการกระทำความผิดตาม (๒) เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี

มาตรา ๑๓ ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรือมาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

(๑) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

(๒) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

(๓) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา

(๔) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้

(๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑)(๒) (๓) หรือ (๔)

มาตรา ๑๕ ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๑๔

มาตรา ๑๖ ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือ

ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่ง เป็นการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระทำไม่มีความผิด ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือ บุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย

มาตรา ๑๗ ผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้นอกราชอาณาจักรและ

(๑) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้นหรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ หรือ

(๒) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทยหรือคนไทยเป็นผู้เสียหายและผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ

จะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร

หมวด ๒

พนักงานเจ้าหน้าที่

มาตรา ๑๘ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๙ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนและสอบสวนในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ เฉพาะที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิดและหาตัวผู้กระทำความผิด

(๑) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้มาเพื่อให้ถ้อยคำ ส่งคำชี้แจงเป็นหนังสือ หรือส่งเอกสาร ข้อมูล หรือหลักฐานอื่นใดที่อยู่ในรูปแบบที่สามารถเข้าใจได้

(๒) เรียกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์จากผู้ให้บริการเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์หรือจากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง

(๓) สั่งให้ผู้ให้บริการส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้บริการที่ต้องเก็บตามมาตรา ๒๖ หรือที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมของผู้ให้บริการให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่

(๔) ทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ จากระบบคอมพิวเตอร์ที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีที่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นยังมิได้อยู่ในความครอบครองของพนักงานเจ้าหน้าที่

(๕) สั่งให้บุคคลซึ่งครอบครองหรือควบคุมข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ ส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ดังกล่าวให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่

(๖) ตรวจสอบหรือเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด อันเป็นหลักฐานหรืออาจใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือเพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดและสั่งให้บุคคลนั้นส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องเท่าที่จำเป็นให้ด้วยก็ได้

(๗) ถอดรหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด หรือสั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ทำการถอดรหัสลับ หรือให้ความร่วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ในการถอดรหัสลับดังกล่าว

(๘) ยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์เท่าที่จำเป็นเฉพาะเพื่อประโยชน์ในการทราบรายละเอียดแห่งความผิดและผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๑๙ การใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ

(๘) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อมีคำสั่งอนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามคำร้อง ทั้งนี้ คำร้องต้องระบุเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบุคคลใดกระทำหรือกำลังจะกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ เหตุที่ต้องใช้อำนาจ ลักษณะของการกระทำความผิด รายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดและผู้กระทำความผิด เท่าที่สามารถจะระบุได้ ประกอบคำร้องด้วยในการพิจารณาคำร้องให้ศาลพิจารณาคำร้องดังกล่าวโดยเร็วเมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตแล้ว ก่อนดำเนินการตามคำสั่งของศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งสำเนาบันทึกเหตุอันควรเชื่อที่ทำให้ต้องใช้อำนาจตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) มอบให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นไว้เป็นหลักฐาน แต่ถ้าไม่มีเจ้าของหรือผู้ครอบครองเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ ณ ที่นั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งมอบสำเนาบันทึกนั้นให้แก่เจ้าของหรือ

ผู้ครอบครองดังกล่าวในทันทีที่กระทำได้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าในการดำเนินการตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ

(๘) ส่งสำเนาบันทึกรายละเอียดการดำเนินการและเหตุผลแห่งการดำเนินการให้ศาลที่มีเขตอำนาจภายในสี่สิบแปดชั่วโมงนับแต่เวลาลงมือดำเนินการ เพื่อเป็นหลักฐานการทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามมาตรา ๑๘ (๔) ให้กระทำได้เฉพาะเมื่อมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ และต้องไม่เป็นอุปสรรคในการดำเนินกิจการของเจ้าของหรือผู้ครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นเกินความจำเป็น การยึดหรืออายัดตามมาตรา ๑๘ (๘) นอกจากจะต้องส่งมอบสำเนาหนังสือแสดงการยึดหรืออายัดมอบให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นไว้เป็นหลักฐานแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งยึดหรืออายัดไว้เกินสามสิบวันมิได้ ในกรณีจำเป็นที่ต้องยึดหรืออายัดไว้นานกว่านั้น ให้ยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อขอขยายเวลายึดหรืออายัดได้ แต่ศาลจะอนุญาตให้ขยายเวลาครั้งเดียวหรือหลายครั้งรวมกันได้อีกไม่เกินหกสิบวัน เมื่อหมดความจำเป็นที่จะยึดหรืออายัดหรือครบกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องส่งคืนระบบคอมพิวเตอร์ที่ยึดหรือถอนการอายัดโดยพลัน หนังสือแสดงการยึดหรืออายัดตามวรรคห้าให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๐ ในกรณีที่การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เป็นการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามที่กำหนดไว้ในภาคสองลักษณะ ๑ หรือลักษณะ ๑/๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีอาจยื่นคำร้อง พร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอำนาจขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการระงับการทำให้แพร่หลายนั้นเอง หรือสั่งให้ผู้ให้บริการระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นก็ได้

มาตรา ๒๑ ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่า ข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดมีชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์รวมอยู่ด้วย พนักงานเจ้าหน้าที่อาจยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อขอให้มีคำสั่งห้ามจำหน่ายหรือเผยแพร่ หรือสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นระงับการใช้ ทำลายหรือแก้ไขข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ หรือจะกำหนดเงื่อนไขในการใช้ มีไว้ในครอบครอง หรือเผยแพร่ชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ดังกล่าวก็ได้ชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ตามวรรคหนึ่งหมายถึงชุดคำสั่งที่มีผลทำให้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์หรือชุดคำสั่งอื่นเกิดความเสียหาย ถูกทำลาย ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมขัดข้อง หรือปฏิบัติงานไม่ตรงตามคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือโดยประการอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงทั้งนี้ เว้นแต่เป็นชุดคำสั่งที่มุ่งหมายในการป้องกันหรือแก้ไขชุดคำสั่งดังกล่าวข้างต้น ตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา

มาตรา ๒๒ ห้ามมิให้พนักงานเจ้าหน้าที่เปิดเผยหรือส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ให้แก่บุคคลใดความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับการกระทำเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่

โดยมิชอบ หรือเป็นการกระทำตามคำสั่งหรือที่ได้รับอนุญาตจากศาลพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดฝ่าฝืนวรรคหนึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๒๓ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๒๔ ผู้ใดล่วงรู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ และเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๒๕ ข้อมูล ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามพระราชบัญญัตินี้ ให้อ้างและรับฟังเป็นพยานหลักฐานตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือกฎหมายอื่นอันว่าด้วยการสืบพยานได้ แต่ต้องเป็นชนิดที่มิได้เกิดขึ้นจากการจูงใจมีคำมั่นสัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง หรือโดยมิชอบประการอื่น

มาตรา ๒๖ ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีจำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ให้บริการผู้ใดเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เกินเก้าสิบวัน แต่ไม่เกินหนึ่งปีเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้ ผู้ให้บริการจะต้องเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้บริการเท่าที่จำเป็นเพื่อให้สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการ นับตั้งแต่เริ่มใช้บริการและต้องเก็บรักษาไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับตั้งแต่การใช้บริการสิ้นสุดลง ความในวรรคหนึ่งจะใช้กับผู้ให้บริการประเภทใด อย่างไร และเมื่อใด ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ผู้ให้บริการผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรานี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท


มาตรา ๒๗ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๒๐ หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลตามมาตรา ๒๑ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทและปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละห้าพันบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง

มาตรา ๒๘ การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้และความชำนาญเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ และมีคุณสมบัติตามที่รัฐมนตรีกำหนด

มาตรา ๒๙ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามีอำนาจรับคำร้องทุกข์หรือรับคำกล่าวโทษ และมีอำนาจในการสืบสวนสอบสวนเฉพาะความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในการจับ ควบคุม ค้น การทำสำนวนสอบสวนและดำเนินคดีผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ บรรดาที่เป็นอำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หรือพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประสานงานกับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ให้นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรัฐมนตรีมีอำนาจ ร่วมกันกำหนดระเบียบเกี่ยวกับแนวทางและวิธีปฏิบัติในการดำเนินการตามวรรคสอง

มาตรา ๓๐ ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวต่อบุคคลซึ่งเกี่ยวข้อง บัตรประจำตัวของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์

นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากในปัจจุบันระบบคอมพิวเตอร์ได้เป็นส่วนสำคัญ ของการประกอบกิจการ และการดำรงชีวิตของมนุษย์ หากมีผู้กระทำด้วยประการใด ๆ ให้ระบบคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานตามคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือทำให้การทำงานผิดพลาดไปจากคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือใช้วิธีการใด ๆ เข้าล่วงรู้ข้อมูล แก้ไข หรือทำลายข้อมูลของบุคคลอื่น ในระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ หรือใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ หรือมีลักษณะอันลามกอนาจาร ย่อมก่อให้เกิดความเสียหาย กระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งความสงบสุขและศีลธรรมอันดีของประชาชน สมควรกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

ที่มา http://www.cowboythai.com/forum/index.php?topic=1443.msg9206;topicseen

 

คู่มือปฏิบัติงาน (WI)

SD-IT-005 พรบ.คอมพิวเตอร์(ฉบับง่าย)

ร่าง กฎหมายนี้ เขียนขึ้นเพื่อให้ยกเลิกพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์พ.ศ. 2550 ทั้ง ฉบับ และให้ใช้ร่างฉบับใหม่นี้แทน อย่างไรก็ดี โครงสร้างของเนื้อหากฎหมายมีลักษณะคล้ายคลึงฉบับเดิม โดยมีสาระสำคัญที่ต่างไป ดังนี้

ประเด็นที่1  เพิ่มนิยาม “ผู้ดูแลระบบ”

มาตรา4 เพิ่ม นิยามคำว่า “ผู้ดูแลระบบ” หมายความว่า “ผู้มีสิทธิเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการแก่ผู้อื่นในการเข้าสู่อิน เทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น”

ใน กฎหมายเดิมมีการกำหนดโทษของ “ผู้ให้บริการ” ซึ่งหมายถึงผู้ที่ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า การพยายามเอาผิดผู้ให้บริการซึ่งถือเป็น “ตัวกลาง” ในการสื่อสาร จะส่งผลต่อความหวาดกลัวและทำให้เกิดการเซ็นเซอร์ตัวเอง อีกทั้งในแง่ของกฎหมายคำว่าผู้ให้บริการก็ตีความได้อย่างกว้างขวาง คือแทบจะทุกขั้นตอนที่มีความเกี่ยวข้องในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารก็ล้วนเป็น ผู้ให้บริการทั้งสิ้น

สำหรับ ร่างฉบับใหม่ที่เพิ่มนิยามคำว่า “ผู้ดูแลระบบ” ขึ้นมานี้ อาจหมายความถึงเจ้าของเว็บไซต์ เว็บมาสเตอร์ แอดมินระบบเครือข่าย แอดมินฐานข้อมูล ผู้ดูแลเว็บบอร์ด บรรณาธิการเนื้อหาเว็บ เจ้าของบล็อก ขณะที่ “ผู้ให้บริการ” อาจหมายความถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต 

ตาม ร่างกฎหมายนี้ ตัวกลางต้องรับโทษเท่ากับผู้ที่กระทำความผิด เช่น หากมีการเขียนข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง กระทบกระเทือนต่อความมั่นคง ผู้ดูแลระบบและผู้ให้บริการที่จงใจหรือยินยอมมีความผิดทางอาญาเท่ากับผู้ที่ กระทำความผิด และสำหรับความผิดต่อระบบคอมพิวเตอร์ เช่นการเจาะระบบ การดักข้อมูล หากผู้กระทำนั้นเป็นผู้ดูแลระบบเสียเอง จะมีโทษ1.5 เท่าของอัตราโทษที่กำหนดกับคนทั่วไป

ประเด็นที่ 2 คัดลอกไฟล์ จำคุกสูงสุด 3 ปี

สิ่ง ใหม่ในกฎหมายนี้ คือมีมาตรา16 ที่ เพิ่มมาว่า “ผู้ใดสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

ทั้ง นี้ การทำสำเนาคอมพิวเตอร์ อาจหมายถึงการคัดลอกไฟล์ การดาว์นโหลดไฟล์จากเว็บไซต์ต่างๆ มาตรานี้อาจมีไว้ใช้เอาผิดกรณีการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์หรือเพลง แต่แนวทางการเขียนเช่นนี้อาจกระทบไปถึงการแบ็กอัปข้อมูล การเข้าเว็บแล้วเบราว์เซอร์ดาว์นโหลดมาพักไว้ในเครื่องโดยอัตโนมัติหรือที่ เรียกว่า “แคช” (cache เป็น เทคนิคที่ช่วยให้เรียกดูข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น โดยเก็บข้อมูลที่เคยเรียกดูแล้วไว้ในเครื่อง เพื่อให้การดูครั้งต่อไป ไม่ต้องโหลดซ้ำ) ซึ่งผู้ใช้อาจมิได้มีเจตนาหรือกระทั่งรับรู้ว่ามีกระทำการดังกล่าว

 


ประเด็นที่ 3 มีไฟล์ลามกเกี่ยวกับเด็ก ผิด

ใน มาตรา25 “ผู้ ใดครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งมีลักษณะอันลามกที่เกี่ยวข้องกับเด็กหรือ เยาวชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” 

เป็น ครั้งแรกที่มีการระบุขอบเขตเรื่องลามกเด็กหรือเยาวชนโดยเฉพาะขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ยังมีความคลุมเครือว่า ลักษณะอันลามกที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนนั้นหมายความอย่างไร นอกจากนี้ มาตราดังกล่าวยังเป็นการเอาผิดที่ผู้บริโภค ซึ่งมีความน่ากังวลว่า การชี้วัดที่ “การครอบครอง” อาจทำให้เกิดการเอาผิดที่ไม่เป็นธรรม เพราะธรรมชาติการเข้าเว็บทั่วไป ผู้ใช้ย่อมไม่อาจรู้ได้ว่าการเข้าชมแต่ละครั้งดาว์นโหลดไฟล์ใดมาโดย อัตโนมัติบ้าง และหากแม้คอมพิวเตอร์ถูกตรวจแล้วพบว่ามีไฟล์โป๊เด็ก ก็ไม่อาจหมายความได้ว่าผู้นั้นเป็นเจ้าของ หรือเป็นผู้ดูผู้ชม

ประเด็นที่ 4 ยังเอาผิดกับเนื้อหา

มาตรา24 (1) นำ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่ไม่ตรงต่อความเป็นจริง โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความ ตื่นตระหนกแก่ประชาชน

เนื้อ ความข้างต้น เป็นการรวมเอาข้อความในมาตรา14 (1) และ (2) ของ กฎหมายปัจจุบันมารวมกัน ทั้งนี้ หากย้อนไปถึงเจตนารมณ์ดั้งเดิมก่อนจะเป็นข้อความดังที่เห็น มาจากความพยายามเอาผิดกรณีการทำหน้าเว็บเลียนแบบให้เข้าใจว่าเป็นหน้าเว็บ จริงเพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคล (phishing) จึง เขียนกฎหมายออกมาว่า การทำข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมถือเป็นความผิด แต่เมื่อแนวคิดนี้มาอยู่ในมือนักกฎหมายและเจ้าหน้าที่ ได้ตีความคำว่า “ข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม” เสียใหม่ กลายเป็นเรื่องการเขียนเนื้อหาอันเป็นเท็จ และนำไปใช้เอาผิดฟ้องร้องกันในเรื่องการหมิ่นประมาท ความเข้าใจผิดนี้ยังดำรงอยู่และต่อเนื่องมาถึงร่างนี้ซึ่งได้ปรับถ้อยคำใหม่ และกำกับด้วยความน่าจะเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่น ตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุกสูงสุด ห้าปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หาก พิจารณาจากประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐในการดำเนินคดีคอมพิวเตอร์ที่ผ่านมา ปัญหานี้ก่อให้เกิดการเอาผิดประชาชนอย่างกว้างขวาง เพราะหลายกรณี รัฐไทยเป็นฝ่ายครอบครองการนิยามความจริง ปกปิดความจริง ซึ่งย่อมส่งผลให้คนหันไปแสดงความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ตแทน อันอาจถูกตีความได้ว่ากระทบต่อความไม่มั่นคงของ “รัฐบาล” ข้อความกฎหมายลักษณะนี้ยังขัดต่อสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงความคิด เห็นโดยไม่จำเป็น

 

 

ประเด็นที่5 ดูหมิ่น ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

มาตรา26 ผู้ ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น หรือข้อมูลอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้บุคคลอื่นเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย หรือเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นข้อมูลที่แท้จริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ที่ผ่าน มามีความพยายามฟ้องคดีหมิ่นประมาทซึ่งกันและกันโดยใช้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จำนวนมาก แต่การกำหนดข้อหายังไม่มีมาตราใดในพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ที่จะใช้ได้อย่างตรงประเด็น มีเพียงมาตรา 14 (1) ที่ระบุเรื่องข้อมูลอันเป็นเท็จดังที่กล่าวมาแล้ว และมาตรา 16 ว่าด้วยภาพตัดต่อ ในร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ได้สร้างความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ใช้ตั้งข้อ หาการดูหมิ่นต่อกันได้ง่ายขึ้นข้อสังเกตคือ ความผิดตามร่างฉบับใหม่นี้กำหนดให้การดูหมิ่น หรือหมิ่นประมาทมีโทษจำคุกสามปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท ทั้งที่การหมิ่นประมาทในกรณีปกติ ตามประมวลกฎหมายอาญามีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท 

ประเด็นที่6 ส่งสแปม ต้องเปิดช่องให้เลิกรับบริการ

มาตรา21 ผู้ ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นจำนวนตามหลักเกณฑ์ที่ รัฐมนตรีประกาศกำหนด เพื่อประโยชน์ทางการค้าจนเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเดือดร้อนรำคาญ และโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ สามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการตอบรับได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

จากที่ กฎหมายเดิมกำหนดเพียงว่า การส่งจดหมายรบกวน หากเป็นการส่งโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มา ถือว่าผิดกฎหมาย ในร่างฉบับใหม่แก้ไขว่า หากการส่งข้อมูลเพื่อประโยชน์ทางการค้า โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับสามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการ บอกรับได้ ทั้งนี้อัตราโทษลดลงจากเดิมที่กำหนดโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท มาเป็นจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ 

ทั้ง นี้ ยังต้องตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หากการส่งข้อมูลดังกล่าว แม้จะเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเดือดร้อนรำคาญ แต่ไม่ได้ทำไปเพื่อประโยชน์ทางการค้า ก็จะไม่ผิดตามร่างฉบับใหม่นี้ 

ประเด็นที่7 เก็บโปรแกรมทะลุทะลวงไว้ คุกหนึ่งปี 

มาตรา23 ผู้ ใดผลิต จำหน่าย จ่ายแจก ทำซ้ำ มีไว้ หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ชุดคำสั่ง หรืออุปกรณ์ที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความ ผิดตามมาตรา 15 มาตรา 16 มาตรา 17 มาตรา 18 มาตรา 19 และมาตรา 20 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

น่า สังเกตว่า เพียงแค่ทำซ้ำ หรือมีไว้ซึ่งโปรแกรมที่ใช้เจาะระบบ การก๊อปปี้ดาวน์โหลดไฟล์อย่างทอร์เรนท์ การดักข้อมูล การก่อกวนระบบ ก็มีความผิดจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท เรื่องนี้น่าจะกระทบต่อการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์โดยตรง 

ประเด็นที่ 8 เพิ่มโทษผู้เจาะระบบ

สำหรับ กรณีการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ เดิมกำหนดโทษจำคุกไว้ไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ร่างกฎหมายใหม่เพิ่มเพดานโทษเป็นจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท(เพิ่มขึ้น 4 เท่า)

 


ประเด็นที่ 9 ให้หน้าที่หน่วยใหม่ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)

ร่างกฎหมายนี้กำหนด หน้าที่ให้หน่วยงาน ซึ่งมีชื่อว่า “สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)” เรียกโดยย่อว่า “สพธอ.” และให้ใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “Electronic Transactions Development Agency (Public Organization)” เรียกโดยย่อว่า “ETDA” เป็นองค์การมหาชนภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงไอซีที

หน่วย งานนี้เพิ่งตั้งขึ้นเป็นทางการ ประกาศผ่าน “พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิสก์ พ.ศ. 2554” เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 54 โดยเริ่มมีการโอนอำนาจหน้าที่และจัดทำระเบียบ สรรหาประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 54

ในร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่นี้ กำหนดให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) มีบทบาทเป็นฝ่ายเลขานุการของ “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์” ภายใต้ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับที่กำลังร่างนี้ 

นอก จากนี้ หากคดีใดที่ต้องการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดซึ่งอยู่ในต่างประเทศ จะเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด ในร่างกฎหมายนี้กำหนดว่า พนักงานสอบสวนอาจร้องขอให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์(องค์การ มหาชน) เป็นผู้ประสานงานกลางให้ได้ข้อมูลมา

ประเด็นที่10 ตั้งคณะกรรมการ สัดส่วน 8 – 3 – 0 : รัฐตำรวจ-ผู้ทรงคุณวุฒิ-ประชาชน 

ร่าง กฎหมายนี้เพิ่มกลไก“คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทาง คอมพิวเตอร์” ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ผู้ อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยระบุตัวบุคคลจากผู้มี ความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ในด้านกฎหมาย วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ การเงินการธนาคาร หรือสังคมศาสตร์จำนวนสามคน โดยให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี 

คณะ กรรมการชุดนี้ ให้ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์(องค์กรมหาชน), สำนักงานกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (สังกัดกระทรวงไอซีที), สำนักคดีเทคโนโลยี (สังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม), และ กลุ่มงานตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำความผิดทางเทคโนโลยี กองบังคับการสนับสนุนทางเทคโนโลยี (บก.สสท.) (สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) เป็นเลขานุการร่วมกัน

คณะ กรรมการชุดนี้มีอำนาจหน้าที่แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ออกระเบียบ ประกาศ ตามที่กำหนดในพ.ร.บ.นี้ และมีอำนาจเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารหลักฐาน รวมถึง “ปฏิบัติการอื่นใด” เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ โดยให้ถือว่าคณะกรรมการและอนุกรรมการเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา

 

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://ilaw.or.th/node/857

คู่มือปฏิบัติงาน (WI)

SD-IT-006 เงื่อนไขของการใช้เว็บไซต์ของ บริษัท นพดลพานิช จำกัด

ก่อนการใช้เว็บไซต์นี้ โปรดอ่านเงื่อนไขของการใช้ที่ปรากฎด้านล่างอย่างละเอียดเว็บไซต์นี้จัดทำโดยบริษัท นพดลพานิช จำกัด 

(” นพดลพานิช ”) (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “เว็บไซต์”) เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านข้อมูลเท่านั้น โดยการใช้เว็บไซต์หรือการดึงข้อมูลจากเว็บไซต์นี้ ท่านตกลงที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ปรากฎในด้านล่างนี้ ห้ามมิให้ใช้หรือดาวน์โหลดข้อมูลจากเว็บไซต์ หากท่านไม่ตกลงที่จะปฎิบัติตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้

การอนุญาตโดยมีข้อจำกัด

ภายใต้ข้อจำกัดและเงื่อนไขที่ปรากฏนี้ นพดลพานิช ไม่ให้สิทธิเด็ดขาด ไม่สามารถโอนได้ และมีข้อจำกัด แก่ท่าน โดยท่านมีสิทธิที่จะเข้าสู่ ใช้ และแสดงเว็บไซต์นี้ ท่านตกลงที่จะไม่รบกวน หรือพยายามที่จะรบกวน การทำงานของเว็บไซต์นี้ ไม่ว่าโดยการกระทำใดๆก็ตาม

นพดลพานิช อนุญาตให้ท่านมีสิทธิเข้าชมและดาวน์โหลดข้อมูลได้ (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ ข้อมูลที่ได้รับอนุญาต”) จากเว็บไซต์นี้ เพื่อการใช้เป็นการส่วนตัวที่ไม่แสวงหากำไรเท่านั้น การอนุญาตดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ในข้อมูล ที่ได้รับอนุญาต หรือสำเนาของข้อมูลที่ได้รับอนุญาตแต่อย่างใด และการอนุญาตนั้นจะต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดดังต่อไปนี้

1.ท่านต้องเคารพต่อทรัพย์สินทางปัญญาและสิทธิในความเป็นเจ้าของที่ระบุไว้ ในข้อมูลที่ได้รับอนุญาตนั้น ในกรณีที่มีดาวน์โหลดข้อมูล

2. ท่านไม่อาจที่จะกระทำในสิ่งต่อไปนี้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่ได้เป็นการส่วนตัวที่เป็นการแสวงหากำไร เปลี่ยนแปลงในรูปใด ๆ ทำซ้ำ แสดงต่อสาธารณะ แสดง หรือใช้โดยประการอื่นต่อข้อมูลที่ได้รับอนุญาต

3.ท่านต้องไม่โอนข้อมูลที่ได้รับอนุญาตให้แก่บุคคลอื่นใด เว้นแต่ท่านได้แจ้งบุคคลนั้นทราบถึงเงื่อนไข และบุคคลนั้นตกลงที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขของการใช้เว็บไซต์นี้

ท่านตกลงที่จะปฎิบัติตามเงื่อนไขที่เพิ่มขึ้นที่จะมีการแจ้งไว้ในเว็บไซต์เป็นครั้งคราว เว็บไซต์และข้อมูลที่ได้รับอนุญาต มีลิขสิทธิ์ และสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งได้รับการคุ้มครอง จากกฎหมายลิขสิทธิ์และกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาทั่วโลก และอนุสัญญาที่เกี่ยวข้อง ท่านตกลงที่จะปฏิบัติตาม กฎหมายลิขสิทธิ์และกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาทั่วโลก ในการใช้เว็บไซต์นี้ และหลีกเลี่ยงการใช้ใด ๆ ที่ไม่มีอำนาจต่อข้อมูลที่ได้รับอนุญาตอันมีลิขสิทธิ์ นพดลพานิช ไม่ได้มอบสิทธิใด ๆ ไม่ว่าโดยตรงหรืออ้อมที่เกี่ยวกับสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ หรือความลับทางการค้าแก่ท่าน

การจำกัดความรับผิด

ข้อมูลที่ได้รับอนุญาตอาจจะมีความไม่ถูกต้องหรือมีความผิดพลาดจากการพิมพ์ นพดลพานิช ไม่รับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ของข้อมูล หรือความน่าเชื่อถือ ของคำแนะนำ ความเห็น หลักฐาน หรือข้อความอื่นใดที่แสดงหรือแจกจ่ายผ่านเว็บไซต์นี้ ท่านรับทราบว่าความเสี่ยงจากการอ้างอิงความเห็น คำแนะนำ หลักฐาน บันทึก หรือข้อมูลจะอยู่ที่ท่านเพียงผู้เดียว นพดลพานิช สงวนสิทธิโดยดุลพินิจของ นพดลพานิช แต่เพียงผู้เดียวที่จะกระทำดังนี้เมื่อใดก็ได้โดยไม่จำเป็นบอกกล่าวแก่ผู้ใด ได้แก่ แก้ไขข้อผิดพลาดหรือพลั้งเผลอใด ๆ ในเว็บไซต์ รวมถึง นพดลพานิช อาจทำการเปลี่ยนแปลงต่อเว็บไซต์ หรือข้อมูลที่ได้รับอนุญาต หรือเปลี่ยนแปลงต่อผลิตภัณฑ์ โปรแกรม บริการ หรือราคา (หากมี) ที่ได้มีการกล่าวถึงในเว็บไซต์ โดยมิต้องแจ้งให้ทราบ ล่วงหน้า

ข้อมูลที่ได้รับอนุญาตบนเว็บไซต์และซอฟท์แวร์ที่สามารถใช้ได้จากเว็บไซต์ ได้จัดไว้ในลักษณะที่เป็นอยู่อย่างนั้น (as is) โดยไม่มีการรับประกันใด ๆ ต่อสิ่งดังกล่าว ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยปริยาย ยกตัวอย่างเช่น ไม่รับประกันความสามารถ ในการทำกำไร ไม่รับประกันการไม่ละเมิดสิทธิ หรือ ไม่รับประกันความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์ใด ๆ ก็ตาม

เว็บไซต์ของบุคคลที่สาม

เพื่อความสะดวกแก่ท่าน นพดลพานิช อาจจัดให้มีเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่มีการดำเนินการโดยหน่วยงานอื่น หากท่านตกลงที่จะเข้าไปใน เว็บไซต์ที่ได้มีการเชื่อมโยงไว้ ความเสี่ยงจากการกระทำเช่นนั้นจะอยู่กับท่านเพียงผู้เดียว และจะเป็นความรับผิดชอบของท่าน ที่จะใช้มาตราการคุ้มครองที่จำเป็น เพื่อป้องกันไวรัสหรือสิ่งใด ๆ ที่เป็นอันตราย นพดลพานิช จะไม่รับประกันหรือรับรองต่อเว็บไซต์ที่มีการเชื่อมโยง หรือข้อมูลที่ปรากฎ สินค้าหรือบริการที่ ปรากฏในนั้น

การจัดให้มีการเชื่อมโยงไปเว็บไซต์อื่น ไม่เป็นการแสดงโดยปริยายว่าเว็บไซต์นี้ หรือ นพดลพานิช ให้การสนับสนุน รับรอง มีความสัมพันธ์ หรือเกี่ยวข้อง หรือให้สิทธิแก่เว็บไซต์ที่มีการเชื่อมโยงที่จะใช้เครื่องหมายการค้า ชื่อทางการค้า โลโก้ หรือสัญลักษณ์อันมีลิขสิทธิ์ ที่ได้แสดงใน หรือสามารถที่จะ เข้าถึงได้ โดยผ่านเว็บไซต์ที่มีเชื่อมโยง หรือให้สิทธิที่จะใช้ เครื่องหมายการค้า ชื่อทางการค้า โลโก้หรือสัญลักษณ์อันมี ลิขสิทธิ์ และทรัพย์สินทางปัญญาของ นพดลพานิช หรือบริษัทในเครือ หรือบริษัทลูกของ นพดลพานิช

ข้อมูลที่มีการจัดให้โดยท่าน

นพดลพานิช ไม่ประสงค์ให้ท่านและท่านไม่ควรที่จะส่งข้อมูลที่มีลักษณะเป็นความลับหรือมีลักษณะ เป็นทรัพย์สินให้แก่่ นพดลพานิช โดยผ่านทางเว็บไซต์ ท่านได้ตกลงว่าข้อมูลใด ๆ ที่ท่านหรือบุคคล ที่กระทำการแทนท่านจัดให้แก่ นพดลพานิช ไม่ถือว่าเป็นความลับ หรือมีลักษณะเป็นทรัพย์สิน โดยการให้ข้อมูลนั้นแก่ นพดลพานิช ถือได้ว่าท่านได้อนุญาตแก่ ทรู และการอนุญาตนั้นมีลักษณะไม่จำกัด ไม่สามารถเพิกถอนได้ ไม่จำกัดอาณาเขต และไม่เรียกเก็บค่าอนุญาต ทั้งนี้ โดยให้นพดลพานิช มีสิทธิใช้ ทำสำเนา แสดงต่อสาธารณะ ส่งและแจกจ่ายข้อมูลนั้น นอกจากนี้นพดลพานิช ไม่ถูกห้ามที่จะใช้ ความคิด แนวคิด หรือโนฮาวว์ที่ท่านหรือบุคคล ที่กระทำการแทนท่านได้ให้แก่นพดลพานิช ท่านรับทราบว่า นพดลพานิช ไม่ประสงค์ให้ท่านและท่านรับรองว่าจะไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง มีลักษณะหมิ่นประมาท ข่มขู่ อนาจาร ลวนลามทางเพศ หรือขัดต่อกฎหมาย หรือมีลักษณะที่ก่อให้เกิดกรรมสิทธิ์ในข้อมูลให้แก่บุคคลอื่น

การจำกัดความเสียหาย

นพดลพานิช หรือบริษัทในเครือจะไม่รับผิดต่อบุคคลใด ๆ ในความเสียหายไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม กรณีพิเศษ หรือ ความเสียหายอื่นๆ รวมทั้งการสูญเสียกำไร การรบกวนทางธุรกิจ การสูญเสียข้อมูล หรือโปรแกรมในระบบจัดการข้อมูล ของท่าน ที่เกี่ยวข้องกับการใช้หรือ ไม่สามารถที่จะใช้ได้ในเนื้อหา ข้อมูล การทำงาน (Function) ของเว็บไซต์หรือเว็บไซต์ ที่มีการเชื่อมโยง แม้ว่านพดลพานิช จะได้แจ้งโดยชัดแจ้งแก่บุคคลแล้วก็ตาม ถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดความเสียหายเหล่านั้น

การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของการใช้เว็บไซต์

นพดลพานิช สงวนสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม หรือตัดทอน ส่วนหนึ่งส่วนใดของเงื่อนไขนี้ ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนเมื่อใดก็ได้ การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของการใช้เว็บไซต์ จะมีผลเมื่อได้มีการประกาศในเว็บไซต์ การที่ท่านยังคงใช้เว็บไซต์ ภายหลังที่ได้มีประกาศ การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขลงใน เว็บไซต์นี้แล้วถือว่าท่าน ตกลงปฎิบัติตามการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขนั้น นพดลพานิช อาจยกเลิก เปลี่ยนแปลง ระงับ หรือ ยุติการเชื่อมต่อในส่วนหนึ่งส่วนใดของเว็บไซต์ เช่น ความสามารถในการเข้าสู่ส่วนหนึ่งส่วนใดของเว็บไซต์ได้เมื่อใดก็ตามนพดลพานิชอาจจำกัดการเข้าถึงส่วนใดหรือบริการใด หรือห้ามการเข้าถึง ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของเว็บไซต์ โดยไม่จำเป็นต้องบอกกล่าว หรือรับผิดชอบใด ๆ นพดลพานิช อาจยกเลิกการให้สิทธิ การอนุญาตที่ได้ให้ไว้แล้ว ข้างต้นได้

ผู้ใช้เว็บไซต์จากต่างประเทศ (International User) และกฎหมายที่ใช้บังคับ

เว็บไซต์นี้ได้รับการควบคุม ดำเนินการและบริหารโดย นพดลพานิช จากสำนักงานของ นพดลพานิช ในประเทศไทย นพดลพานิช ไม่รับรองว่าข้อมูลในเว็บไซต์นี้เหมาะสมหรือสามารถที่จะใช้ได้ที่สถานที่อื่นภายนอกประเทศไทย หากท่านเข้าสู่เว็บไซต์นี้จากสถานที่อื่นภายนอกประเทศไทย ท่านมีหน้าที่ ๆจะต้องปฎิบัติตามกฎหมายของประเทศนั้น กฏหมายที่ใช้บังคับกับเงื่อนไขการใช้เว็บไซต์และนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะเป็นไปตามกฎหมายของประเทศไทย โดยไม่ประสงค์ให้นำกฎหมายว่าด้วยการขัดกันของกฎหมายมาใช้บังคับ


BC ACCOUNT

BC ACCOUNT

BC01-Admin-tools

BC AdminTool 2.0


BC ACCOUNT

BC02-ระบบเครื่องมือ (Tools System)

ระบบเครื่องมือ (Tools System)

IT-MATRIX

test edit page 1 

Synology nas