# งานสวัสดิการ-ค่าจ้าง
# WI-HR-008 ระเบียบการจ่ายเบี้ยเลี้ยงการอบรมหรือสัมนาต่างจังหวัด
[](https://book.nopadol.com/uploads/images/gallery/2022-07/image-1656823545790.jpg)
**การจ่ายเบี้ยเลี้ยงและอื่นๆ**
**สำหรับการเข้ารับการอบรม / สัมมนานอกพื้นที่ (ต่างจังหวัด)**
ตามที่บริษัทฯ มีนโยบายในการส่งพนักงานเข้ารับอบรม/สัมมนา เพื่อเพิ่มพูนความรู้ และทักษะการทำงานทั้งในและนอกพื้นที่ และ บริษัทฯ จึงขอกำหนดสำหรับการจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง ที่พัก และค่าเดินทางของพนักงาน ที่เข้ารับการอบรม / สัมมนานอกพื้นที่
จึงมีอัตราค่าเบี้ยเลี้ยง/ค่าที่พัก/ค่าเดินทาง ของพนักงานที่เข้ารับการอบรม/สัมมนา ดังนี้
**ลำดับ**
| **ระดับพนักงาน**
| **ค่าเบี้ยเลี้ยง/วัน**
| **ค่าเดินทาง**
|
**ค่าโดยสาร ไป/กลับ**
| **ค่า Taxi ในกรุงเทพ และปริมณฑล**
|
1
| ผู้อำนวยการฝ่าย
ระดับ G6
| 500 บาท
| เครื่องบิน
(Low cost)
| เหมาจ่าย
เที่ยวไป 200 บาท
เที่ยวกลับ 200บาท
|
2
| ผู้จัดการส่วน
ระดับ G5
| 400 บาท
| เครื่องบิน
(Low cost)
|
3
| หัวหน้าแผนก/พนักงาน
ระดับ G4
| 300 บาท
| รถทัวร์ NCA First Class
ปรับอากาศชั้น 1 (21 ที่นั่ง)
|
4
| พนักงาน ระดับ G3
| 300 บาท
| รถทัวร์ NCA Gold Class
ปรับอากาศชั้น 1 (32 ที่นั่ง)
|
5
| พนักงาน ระดับ G1-2
|
**อัตราค่าโดยสาร (ข้อมูล ณ วันที่ 10 มกราคม 2567)**
- เครื่องบิน (Low cost) ได้แก่ สายการบิน Lion Air, Nok Air ,Air Asia, Thai Smile
- รถโดยสาร NCA First Class (21 ที่นั่ง) รถทัวร์ปรับอากาศชั้น 1 ราคา 924 บาท
- รถโดยสาร NCA Gold Class (32 ที่นั่ง) รถทัวร์ปรับอากาศชั้น 1 ราคา 693 บาท
**หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติ**
- การอบรม/สัมมนา หมายถึง การอบรม/สัมมนาตามหัวข้อหรือหลักสูตร ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน โดยได้รับความเห็นชอบและอนุมัติจากผู้บริหารเท่านั้น สำหรับการไปท่องเที่ยวและทัศนศึกษาจะไม่รวมอยู่ในระเบียบปฏิบัตินี้
- ค่าเบี้ยเลี้ยง หมายถึง ค่าปฏิบัติงานนอกสถานที่นอกพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเข้ารับการอบรม/สัมมนา มีระยะเวลาเกินกว่า 24 ชั่วโมง โดย นับตามจำนวนวันที่จัดอบรม/สัมมนาเท่านั้น และ ไม่นับเวลาการเดินทาง ไป-กลับ ไม่ว่าหน่วยงานจะเลี้ยงอาหารหรือไม่ก็จ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงเหมารายวันให้กับพนักงาน
- สถานที่นอกพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หมายถึง ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ได้แก่ กรุงเทพ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม และสมุทรสาคร ส่วนต่างจังหวัดคือจังหวัดอื่นๆนอกเหนือที่ได้กล่าวมา
- ค่าเดินทาง หมายถึง ค่ารถโดยสารประจำทาง/รถไฟ/เครื่องบิน เฉพาะการเดินทางข้ามจังหวัดในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล บริษัทฯจะจ่ายให้ตามสิทธิ์ โดยแบ่งตามระดับของพนักงาน (ให้ยึดราคาจาก เครื่องบิน (Low cost) ได้แก่ สายการบิน Lion Air, Nok Air ,Air Asia, Thai Smile , การรถไฟแห่งประเทศไทย, รถทัวร์ของบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด เป็นเกณฑ์) ส่วนการเดินทางจังหวัดอื่นให้พิจารณาตามเส้นทาง ระยะทาง และราคาตั๋วในแต่ละจังหวัดที่เดินทางไปตามที่จ่ายจริง โดยทางแผนกบุคคจะเป็นผู้จัดหาให้ และให้พนักงานนำหลักฐานการเดินทางให้ทางแผนกบุคคลเมื่อกลับจากการอบรม/สัมมนา
1. เครื่องบิน ให้ใช้ Boarding Pass
2. รถทัวร์ ให้ใช้บัตรเดินทาง
- ค่ารถแท็กซี่ในกรุงเทพ และปริมณฑล หมายถึง ค่าเดินทางจากสถานีขนส่ง/สถานีรถไฟ/สนามบิน - โรงแรมที่พักในวันเดินทางไป และค่าเดินทางจากโรงแรมที่พัก-สถานีขนส่ง/สถานีรถไฟ/สนามบิน ในวันเดินทางกลับ โดยเป็นอัตราเหมาจ่าย และในกรณีต่างจังหวัดให้พิจารณาเป็นกรณีไป
- การจัดหาที่พัก ในกรณีอบรม/สัมมนานอกพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทางแผนกบุคคลจะดำเนินการจัดหาและสำรองห้องพักไว้ให้พนักงาน
1. เมื่ออบรมเสร็จให้พนักงานนำใบเสร็จจากทางโรงแรมกลับมาให้ทางแผนกบุคคล
2. กรณีพนักงานจัดหาที่พักเอง เช่น บ้านพักกับบิดา มารดา ญาติ พี่น้อง เพื่อน ฯลฯ จะไม่ได้รับสิทธิ์ค่าที่พัก โดยให้พนักงานแจ้งกับทางแผนกบุคคลล่วงหน้า
3. กรณีหน่วยงานที่จัดอบรม/สัมมนา ได้ดำเนินการจัดหาที่พัก อาหาร การเดินทาง และรถรับ-ส่ง ไว้ให้กับพนักงานเรียบร้อยแล้ว พนักงานจะได้รับสิทธิ์ เฉพาะค่าเบี้ยเลี้ยง เท่านั้น
- หากมีความจำเป็นที่ไม่สามารถปฏิบัติตามที่กำหนดได้ ให้นำเสนอขออนุมัติผู้บริหารเพื่อขอพิจารณาดำเนินการอย่างอื่นเป็นกรณีไป
- พนักงานที่กลับจากอบรม/สัมมนาแล้ว พนักงานจะต้องนำเอกสารหลักฐานการเงิน/ใบเสร็จรับเงิน ฯลฯ มาให้ทางแผนกบุคคลทุกครั้ง หากไม่มีเอกสารดังกล่าว ถือว่าพนักงานละเลยในหน้าที่
- อัตราค่าที่พัก ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าอาหาร และค่าเดินทาง ที่กำหนดไว้ ตามประกาศนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจ หรือ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้บริหาร
[](https://book.nopadol.com/uploads/images/gallery/2024-01/WtxNAkIxDBegvNP8-image.png)
# WI-HR-009 การตรวจสอบพนักงานลาออก
[](https://book.nopadol.com/uploads/images/gallery/2022-07/image-1656823065781.jpg)
- **วัตถุประสงค์**
เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นขั้นตอนในการปฏิบัติเมื่อพนักงานลาออก หรือ พนักงานขาดงานเกินกว่า 3 วัน ซึ่งจะอธิบายถึงขั้นตอนการลาออกของพนักงาน การตรวจสอบสต๊อกสินค้าที่ดูแลรับผิดชอบ หนี้สินของพนักงานที่คงค้างและค่าใช้จ่ายอื่นใดที่พนักงานจะต้องชำระก่อนวันที่จะลาออก เพื่อนำไปหักค่าใช้จ่ายจากเงินประกันของพนักงาน
- **ขอบข่าย**
เอกสารฉบับนี้เป็นขั้นตอนในการลาออกของพนักงานในบริษัท นพดลพานิช จำกัด ซึ่งจะถือเป็นแนวปฏิบัติของพนักงานทั้งสาขาสำนักงานใหญ่และสาขาแยกต้นเปา สันกำแพง
- **คำจำกัดความ**
เงินประกันพนักงาน หมายถึง เงินที่ทางบริษัทได้เรียกเก็บจากพนักงานเพื่อเป็นหลักประกันหากเกิดความเสียหายขึ้นระหว่างที่พนักงานทำงานอยู่ที่บริษัท
การปรับปรุงสินค้า หมายถึง การนำรายงานผลต่างจากการตรวจนับสินค้ามาปรับจำนวนสินค้าในระบบกับจำนวนสินค้าที่นับได้จริงให้ตรงกัน
- **หน้าที่และความรับผิดชอบ**
หัวหน้างาน/Store Manager
- พิจารณาการลาออกของพนักงาน
- ร่วมตรวจนับสต๊อกสินค้ากับพนักงานที่จะลาออก
- พิจารณาและประเมินค่าเสียหายจากการตรวจนับสต๊อก
ผู้จัดการส่วนบุคคล-ธุรการ
- สอบถามการลาออกของพนักงาน
- ให้ใบลาออกกับพนักงานที่ต้องการลาออก
- ตรวจเช็คหนี้สินคงค้างของพนักงานและเงินประกันพนักงาน
- สรุปเงินประกันพนักงานหลังหักค่าใช่จ่าย
เจ้าหน้าที่ ICC
- ตรวจสอบและยืนยยันผลการนับสต๊อกของพนักงาน
- ปรับปรุงสต๊อกสินค้า
พนักงานที่จะลาออกk
- แจ้งความประสงค์การลาออกต่อหัวหน้างาน/Store Manager และผู้จัดการส่วนบุคคล
- ตรวจนับสต๊อกสินค้าที่ดูแลรับผิดชอบ
- ดำเนินการขอปรับปรุงสินค้าหลังาจากที่ตรวจนับ
เจ้าหน้าที่แผนกบัญชี
- ตรวจสอบเอกสารสรุปค่าเสียหาย , หนี้สินคงค้าง และเงินประกันพนักงาน
เจ้าหน้าที่การเงิน
- เบิกเงินและปิดบัญชีเงินประกันพนักงานของพนักงานที่จะลาออก
#### **ขั้นตอนการปฏิบัติงาน**
**ตรวจสอบสต๊อกสินค้า**
[](https://book.nopadol.com/uploads/images/gallery/2022-07/image-1656823005121.png)
6. รายละเอียดขั้นตอนในการปฏิบัติงาน
การลาออกของพนักงาน มีดังนี้
6.1. พนักงานขาดงานเกินกว่า 3 วัน
6.1.1 หัวหน้างานดำเนินการตรวจสอบว่าพนักงานขาดงานเนื่องจากสาเหตุใด หากไม่สามารถติดต่อพนักงานได้และไม่มาทำงานเกินกว่า 3 วันทำการให้ทางหัวหน้างานแจ้งแผนกบุคคล (HR) ให้ทำหนังสือแจ้งพ้นสภาพงาน
6.1.2 เมื่อพนักงานขาดการติดต่อ 3 วัน แผนกบุคคลทำเอกสารแจ้งพ้นสภาพพนักงานทันทีพร้อมติดตามผลการตรวจนับสต๊อกของหัวหน้างาน เพื่อตรวจสอบความเสียหาย
6.1.3 หัวหน้าแผนกตรวจสอบผลสต๊อกและเซ็นต์รับทราบผลการตรวจนับสต๊อกและส่งให้ทางแผนกบุคคล
6.1.4 สรุปผลสต๊อกและให้ทางแผนกบัญชีเซ็นต์รับเอกสารเพื่อดำเนินการพิจารณาหักเงินประกันการทำงานของพนักงาน
6.2. พนักงานประสงค์ที่จะลาออก
ซึ่งแจ้งหัวหน้างานให้ทราบ ล่วงหน้า 30 วัน โดยมีขั้นตอนการตรวจสอบพนักงานลาออกดังนี้
6.2.1. เมื่อพนักงานที่ประสงค์จะลาออกแจ้งหัวหน้างานแล้ว ทางหัวหน้างาน/Store manager ได้สอบถามเหตุผล รายละเอียดต่างๆของการลาออกและอนุมัติการลาออกของพนักงานแล้ว พนักงานสามารถไปขอใบลาออกได้ที่แผนกบุคคล
6.2.2. เมื่อพนักงานไปขอใบลาออกจากแผนกบุคคลทางผู้จัดการแผนกบุคคลจะสอบถามเหตุผลในการลาออกอีกครั้ง จากนั้นจึงจะมอบใบลาออก (FM-HR-029) และแบบสัมภาษณ์พนักงานที่ลาออก (FM-HR-028) ให้กรอกและให้หัวหน้าแผนกเซ็นอนุมัติใบลาออก
6.2.3. ทางแผนกบุคคลดำเนินการตรวจสอบหนี้สินและเงินประกันของพนักงาน
6.2.4. พนักงานที่จะลาออกและหัวหน้างานร่วมกันตรวจนับสต๊อกสินค้าที่รับผิดชอบ **ภายใน 14 วัน**
6.2.5. เมื่อพนักงานและหัวหน้างานตรวจนับสต๊อกสินค้าเรียบร้อบแล้วจากนั้นนำส่งรายงานผลการตรวจนับสต๊อกสินค้าให้ทางแผนก ICC
6.2.6. แผนก ICC เมื่อได้รับรายงานผลการตรวจนับสต๊อกสินค้าแล้ว ดำเนินการตรวจสอบสต๊อกสินค้าอีกครั้งเพื่อยืนยันผลการตรวจนับ **ภายใน 7 วัน**
- **หากเกิน 21 วัน** นำเข้าที่ประชุมแจ้งผู้บริหารทราบ และติดตามทวงถามในที่ประชุม
- หลังการติดตามแผนกบัญชี ต้องได้รับผลการนับสต๊อค ภายใน 7 วัน หลังจากการทวงถามที่เกิน 30 วัน
6.2.7. เมื่อแผนก ICC ตรวจสอบและยืนยันสต๊อกสินค้าแล้ว นำส่งสรุปผลยืนยันการตรวจนับสต๊อกให้ทางหัวหน้าแผนก/Store Manager เพื่อประเมินค่าเสียหายของสินค้าที่ตรวจนับ โดยแยกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- ไม่มีค่าเสียหายจากการตรวจนับสต๊อกสินค้าที่รับผิดชอบ ทางหัวหน้าแผนกดำเนินการส่งรายงานสรุปค่าเสียหายให้ทางแผนกบุคคลเพื่อสรุปเงินประกันพนักงานหลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ
- มีค่าเสียหายจากการตรวจนับสต๊อกสินค้าที่รับผิดชอบ ทางหัวหน้าแผนกดำเนินการสรุปค่าเสียหายและออกบิลเก็บเงินค่าเสียหายกับพนักงานพร้อมกับขอดำเนินการปรับสต๊อกสินค้ากับทางแผนก ICC จากนั้นส่งรายงานสรุปค่าเสียหายให้ทางแผนกบุคคลเพื่อสรุปเงินประกันพนักงานหลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ
6.2.8. เมื่อทางแผนกบุคคลสรุปเงินประกันพนักงานหลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆแล้ว จากนั้นนำเสนอให้ทางผู้บริหารรับทราบและเซ็นอนุมัติใบลาออกให้กับพนักงาน
6.2.9. เมื่อผู้บริหารเซ็นอนุมัติใบลาออก จากนั้นทางแผนกบุคคลจะส่งเอกสารใบลาออกและรายงานสรุปรายละเอียดค่าเสียหายสินค้าจากการนับสต๊อก , รายงานการปรับปรุงสินค้าจากแผนก ICC , รายงานหนี้สินคงค้างของพนักงาน , รายงานสรุปเงินประกันพนักงานหลังหักค่าใช้จ่าย ให้ทางแผนกบัญชีตรวจสอบความครบถ้วนถูกต้องของเอกสาร
- กรณีที่เอกสารไม่ถูกต้อง ครบถ้วน ทางแผนกบัญชีจะส่งเอกสารกลับไปยังแผนกบุคคลเพื่อแก้ไขและติดตามเอกสารให้ครบถ้วนก่อนจะนำส่งเอกสารให้แผนกการเงินเบิกเงินประกันพนักงานและปิดบัญชีเงินประกันของพนักงาน
- กรณีที่เอกสารถูกต้อง ครบถ้วน ทางแผนกบัญชีจะนำส่งเอกสารให้แผนกการเงินเบิกเงินประกันพนักงานและปิดบัญชีเงินประกันของพนักงาน **รวมระยะเวลาในการตรวจสอบและคืนเงินประกันพนักงาน ๆ ต้องได้รับเงินประกันคืน ภายใน 30 วัน หลังจากที่พนักงานลาออก**
6.2.10. แผนกการเงินแจ้งให้พนักงานมารับเงินประกันคืน โดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร หรือ เข้ามารับด้วยตัวเองที่แผนกการเงินจ่าย
**6.เอกสารอ้างอิง**
- ใบลาออก (FM-HR-029)
- แบบสัมภาษณ์พนักงานที่ลาออก (FM-HR-028)
- รายงานการตรวจนับสินค้า
# WI-HR-010 กระบวนการเปิดบัญชีและคืนเงินประกันพนักงาน
#### วัตถุประสงค์
กระบวนการนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้การดำเนินงานประสานงานเกี่ยวกับกระบวนการเปิดบัญชี-คืนเงินประกันพนักงาน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นระเบียบปฏิบัติในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและปฏิบัติ
กระบวนการ
**รายละเอียดกระบวนการเปิดบัญชีเงินประกันพนักงาน UOB**
1. เมื่อพนักงานใหม่เข้ามาทำงานกับบริษัทฯ แผนกบุคคลทำการอบรมปฐมนิเทศทำสัญญาจ้างและแจ้งเงื่อนไขเรื่องเงินประกันหรือเงินสะสมพนักงานพนักงานทุกตำแหน่ง - ปฐมนิเทศ ชี้แจงกฏระเบียบ ข้อบังคับ
\- แจ้งเงื่อนไขการเก็บเงินประกันหรือเงินสะสมพนักงาน (พนักงาน 8,000 บาท/หัวหน้างาน 10,000 บาท)
2. **เอกสารที่เกี่ยวข้อง
พนักงาน**
1. ใบส่งตัวขอเปิดบัญชีเงินประกันพนักงาน
2.บันทึกข้อตกลงนำบัญชีเงินฝากประกันการทำงาน(ผู้บริหารลงนามแล้ว)
3.ใบคำขอถอนเงินประกันการทำงาน
4.หนังสือยินยอมหักเงินประกันการทำงาน
**แผนกบุคคล**
5. สรุปใบปะหน้าจำนวนพนักงานที่เปิดบัญชี
3\. แผนกบุคคล รวบรวมเอกสารเปิดบัญชีเงินประกัน ที่ลงนามแล้ว นำส่งเอกสารเปิดสมุดบัญชีเงินฝากสะสมให้กับ ธนาคาร UOB
-ทุกเช้าวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ธนาคารมารับ เวลา 10.00 น.
-ทุกวันพุธ พนักงานติดต่อเปิดบัญชี
\- ทุกวันศุกร์ การเงินติดตามถามคืน สมุดบัญชี/ใบคำขอถอนเงินประกัน/ใบบันทึกข้อตกลง
4\. ธนาคารส่งกลับสมุดบัญชีที่มีเลขที่บัญชีแล้ว - การเงิน แจ้งเลขที่บัญชีให้แผนกบุคคล พร้อมส่งเอกสารและใบปะหน้าให้แผนกบัญชี
\- บัญชี ตรวจสอบยอดเงินประกันในสมุดบัญชีและรายงานที่แผนกบุคคลสรุปให้ตรงกัน และเก็บสมุดบัญชี+เอกสารทุกฉบับ
5\. แผนกบุคคลทำการหักเงินประกันพนักงานเดือนละ 500 บาท กรณีพนักงานรายวันให้หักจากงวดการจ่ายเงินเดือนแบ่งเป็น 2 งวด งวดละ 250 บาท จนกว่าจะครบวงเงินประกันที่ตกลงหรือทำสัญญาไว้ หากต่ำกว่านี้ให้อยู่ในดุลพินิจและการพิจารณาการหักตามเห็นสมควร
6\. แผนกบุคคลส่งรายงานเงินประกันที่มีเลขที่บัญชี ส่งให้แผนกบัญชี ไม่เกินวันที่ 7 ของเดือนถัดไป
\- แผนกบัญชีบันทึกการหักเงินประกันพนักงาน
\- แผนกบัญชีส่งเรื่องให้แผนกการเงินทำเช็คเพื่อนำฝาก
\- กรณีโอนเงินประกัน ผ่าน BiBplus UOB แผนกบุคคลทำรายการเงินโอนธนาคาร UOB ให้ผู้บริหารอนุมัติ
7\. แผนกบุคคลแยกรายงานการเบิกเงินหรือนำฝาก
\- พนักงานบัญชีบันทึกการเบิกเงิน DR.เงินประกันรอนำฝาก
\- นำสมุดกลับมาเพื่อตรวจสอบยอดเงินประกันหรือเงินสะสมพนักงานในบัญชี
**รายละเอียดกระบวนการปิดบัญชีเงินประกันพนักงาน UOB และคืนเงินประกันพนักงาน**
1\. เมื่อพนักงานยื่นเอกสารใบลาออก
\- แผนกบุคคลเรียกพนักงานพูดคุยเรื่องการตรวจสอบความเสียหาย การส่งมอบงาน การตรวจสอบสินทรัพย์ในความดูแลของพนักงาน และการส่งผลการตรวจนับสต๊อกกรณีตำแหน่งที่ดูแลสินค้า ตรวจสอบการขายขาดทุนกรณี พนักงานขาย พนักงานจัดซื้อ พนักงานลูกค้าสัมพันธ์
\- แผนกบุคคลแจ้งหัวหน้างานติดตามผลและตรวจสอบความเสียหาย ตรวจสอบการส่งมอบงานให้กับคู่ Buddy และอนุมัติเอกสารการลาออกและเอกสารการส่งมอบงานรวบรวมเอกสารส่งให้กับทางแผนกบุคคลเพื่อพิจารณาเรื่องการคืนเงินประกัน
2\. ผลการตรวจสอบเงินประกันพนักงาน
\- หากตรวจสอบแล้วไม่มีความเสียหายใดๆ ทางแผนกบุคคลส่งเอกสารผลการตรวจสอบให้กับแผนกบัญชีเพื่อทำเงินประกันคืนให้กับพนักงานภายใน 7 วันหลังจากพนักงานลาออก
\- กรณีพนักงานลาออกไม่ถูกต้องติดต่อไม่ได้ให้หัวหน้างานตรวจสอบสต๊อกและความเสียหายแทน หากพบความเสียหายให้หักล้างจากเงินประกันที่สะสม ส่วนต่างโอนคืนให้พนักงานภายใน 7 วัน หลังจากพนักงานลาออก
\- กรณีที่ความเสียหายมากกว่ายอดเงินประกันที่สะสมไว้ ให้ติดต่อและเจรจากับพนักงานเพื่อชดใช้ส่วนต่างที่เหลือ
\- กรณีพนักงานลาออกไม่ถูกต้องโดยไม่ได้ยื่นเอกสารเช่น ขาดงานติดต่อเกิน 3 วัน และบุคคลไม่สามารถติดต่อเพื่อให้พนักงานรับเงินประกันได้เมื่อครบ 1 ปี ไม่มีปัญหาร้องเรียน แผนกบัญชีออกรายงานการขออนุมัติยึดเงินประกันการทำงาน บันทึกเลขที่ประกันเป็นรายได้อื่นๆ
3.- แผนกบัญชีและสินเชื่อ ตรวจสอบหนี้สินคงค้างของพนักงาน /เมคคาเฟ่ ฯลฯ
- แผนกบัญชีบัญชีสรุปเงินประกันของพนักงาน และ ใส่จำนวนเงินในใบคำขอถอนเงิน+สมุดบัญชีเงินประกันส่งให้แผนกบุคคล
- หากไม่มีความเสียหายให้ทำเบิกคืนพนักงานเต็มจำนวน
- กรณีพบความเสียหายให้หักส่วนที่เสียหายคืนบริษัท พร้อมทำใบนำฝากเข้าบัญชีบริษัท
- แแผนกบุคคล ส่งเอกสารเสนอผู้บริหารเซ็นอนุมัติให้คืนเงินประกันกับพนักงาน
- ผู้บริหารอนุมัติ เอกสารใบลาออกได้รับการอนุมัติแล้วให้แจ้งพนักงาน
-พนักงานได้รับการติดต่อจากแผนกบุคคล เซ็นรับทราบจำนวนเงินประกันที่ได้รับคืน พร้อมกับเซ็นรับเอกสารใบคำขอเงินประกัน เพื่อเบิกที่ ธนาคาร
UOB ด้วยตนเอง
- ธนาคารส่งสมุดบัญชี+ใบนำฝากคืนบริษัท หากมีเงินประกันคืนเข้าบริษัท แผนกการเงินบันทึกรับเงินค่าเสียหาย และส่งสมุดบัญชีและใบนำฝากให้แผนกบัญชีลงบันทึก ADE และเมื่อคืนเงินประกันแล้วจะบันทึก RTE ให้เรียบร้อย
**รายละเอียดกระบวนการปิดบัญชีเงินประกันพนักงาน UOB กรณีไม่คืนเงินประกันกรณีพ้นสภาพและ/หรือออกไม่ถูกต้อง**
1. แผนกบัญชีสรุปเงินประกันของพนักงาน และ ทำหนังสือมอบอำนาจให้ แผนกการเงินผู้รับมอบอำนาจ ติดอากรแสตมป์ 10 บาท เสนอผู้บริหารเซ็น
2.ผู้รับมอบอำนาจ (แผนกการเงิน) นำใบถอนเงินประกันพนักงาน และแจ้งธนาคารทราบเป็นการถอนเงินกรณีพนักงานผิดเงื่อนไขเพื่อให้ธนาคารทำเรื่องไว้
3.ไปติดต่อที่ ธนาคาร UOB สาขาซุปเปอร์ไฮเวย์ (เท่านั้น) และนำบัตรประชาชนฉบับจริงพร้อมหนังสือมอบอำนาจ ถอนเงินประกันพนักงานเข้าบัญชี บริษัท ฯเลขบัญชี 809-3-00190-7 มีค่าธรรมเนียม 20 บาท
4.นำไปรับชำระที่แผนกการเงิน พร้อมแนบสมุดบัญชีและเอกสารประกอบนำส่งพร้อมรายงานการส่งเงินประจำวันให้ผู้บริหารตรวจสอบ
5.เมื่อผู้บริหารตรวจรายงานการรับเงินประจำวันเรียบร้อยแล้ว ส่งเอกสารการถอนเงินประกันคืนให้แผนกบัญชีบันทึกใบลดหนี้คืนเงินประกัน (RTE) ในระบบบ้านเชียง(BC) จัดเก็บเอกสารลงกล่องเอกสาร "เงินประกันพนักงานลาออก/พ้นสภาพ" สิ้นสุดกระบวนการ
# WI-HR-011 คูปองอาหารกลางวัน
#### **กระบวนการ**
#### **รายละเอียดกระบวนการ**
1. พนักงาน PC ที่ต้องการรับประทานอาหารที่ห้องครัวให้ติดต่อซื้อคูปองอาหารได้ที่หัวหน้าแผนกแคชเชียร์พร้อมกับลงชื่อ

2. เมื่อได้คูปองอาหารให้นำไปแลกอาหารที่ห้องครัวกับแม่ครัว

3. ทุกเย็นแม่ครัวรวบรวมคูปองอาหารส่งคืนให้แผนกการเงิน
4. หัวหน้าแผนกแคชเชียร์ส่งเงินและรายชื่อพนักงานให้กับแผนกการเงินเพื่อตรวจสอบเงินและคูปองที่ได้รับในแต่ละวัน