บุคคล HR
Human Resource
- JOB DESCRIPTION
- JD-HR-001 ผู้จัดการส่วนบุคคลธุรการ
- JD-HR-002 หัวหน้าแผนกพัฒนาบุคคลากร
- JD-HR-003 สรรหา-ฝึกอบรม
- JD-HR-004 สวัสดิการ-ค่าจ้าง
- JD-AM-001 หัวหน้าแผนกธุรการ
- JD-AM-002 ธุรการบุคคล
- JD-SE-001 เลขานุการ
- JD-AM-003 หัวหน้าแผนกอาคารสถานที่
- งานสรรหา
- WI-HR-001 การสรรหาพนักงาน
- WI-HR-002 การสัมภาษณ์งานเบื้องต้น
- WI-HR-003 การประเมินผลเมื่อรับพนักงานใหม่เข้ามา
- WI-HR-004 ขั้นตอนเมื่อรับพนักงานใหม่เข้ามา
- WI-HR-005 นโยบายการบริหารจัดการเกี่ยวกับพนักงานแนะนำสินค้า (PC)
- งานฝึกอบรม
- งานสวัสดิการ-ค่าจ้าง
- WI-HR-008 ระเบียบการจ่ายเบี้ยเลี้ยงการอบรมหรือสัมนาต่างจังหวัด
- WI-HR-009 การตรวจสอบพนักงานลาออก
- WI-HR-010 กระบวนการเปิดบัญชีและคืนเงินประกันพนักงาน
- WI-HR-011 คูปองอาหารกลางวัน
- งานประเมินผล
JOB DESCRIPTION
JD-HR-001 ผู้จัดการส่วนบุคคลธุรการ
ชื่อตำแหน่ง(ไทย) |
ผู้จัดการส่วนบุคคล-ธุรการ |
ชื่ออังกฤษ |
Human Resource & Administration Manager |
แผนก |
บุคคล-ธุรการ |
ฝ่าย |
อำนวยการ |
ผู้บังคับบัญชา |
ผู้อำนวยการบริหาร |
ระดับตำแหน่งงาน |
G5 |
วัตถุประสงค์ (Job Purpose)
นำเสนอแผนงานนโยบาย การพัฒนากระบวนการเพื่อสนับสนุนความสำเร็จของเป้าหมายทางธุรกิจขององค์กร และควบคุมตรวจสอบให้ปฏิบัติตามแผนงาน กำกับดูแลวางแผนอัตรากำลังคน,ตรวจสอบงานสรรหาว่าจ้าง,บริหารค่าตอบแทน ,ฝึกอบรม,พัฒนาบุคคลากร,ประเมินผล,แรงงานสัมพันธ์,งานด้านธุรการ,ซ่อมบำรุงและอาคารสถานที่่ , จัดซื้อจัดจ้าง และป้องกันการสูญเสีย |
ความรับผิดชอบหลัก (Key Responsibilities)
หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก (Key Responsibilities and Activities) |
วัตถุประสงค์หลักของงาน (Key Objectives) |
ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน (Performance Indicators) |
วางแผนกำลังคนและสรรหาว่าจ้าง - กำหนดนโยบายในการบริหารงานบุคคล - วางแผนกำลังคนทั้งระยะสั้นและระยะยาว - วางแผนกสรรหาบุคลากร - วางแผนการคัดเลือกบุคลากร - ให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการสรรหา - อนุมัติสัญญาว่าจ้าง |
- มีกำลังคนที่เหมาะสม - หาบุคลากรได้ตรงตาม Spec. - ต้นทุนด้านบุคลากรเหมาะสม - หาบุคลากรได้ทันเวลา - สามารถหาบุคลากรภายในทดแทนตำแหน่งที่ออกได้ |
- จำนวนครั้งที่บุคลากรขาด/เกิน - จำนวนครั้งที่ต้องมีการเลิกจ้าง เนื่องจากบุคลากรเกิน - % การสรรหาได้ตรง Spec. - % การสรรหาได้ทันเวลา - % การทดแทนจากบุคคลภายใน |
งานพัฒนาและฝึกอบรม - วางแผนกลยุทธ์ในการพัฒนาและฝึกอบรม |
- ประสิทธิภาพในการฝึกอบรม - ประสิทธิผล (การพัฒนาบุคลากร) |
- % การจัดฝึกอบรมได้ตามแผน - % บุคลากรผ่านการทดสอบ - % บุคลากรที่มีทักษะเพิ่มขึ้น |
- วางแผนการพัฒนาฝึกอบรมทั้งระยะสั้นและระยะยาว - ติดตามผลการดำเนินการฝึกอบรม - ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการพัฒนาและฝึกอบรม |
- พัฒนาทักษะการขายให้กับพนักงานขาย |
- เดือนละไม่น้อยกว่า 4 ครั้ง - จัดฝึกอบรมได้ตามกฏหมายกำหนด คือ ร้อยละ 50 /ปี ของจำนวนพนักงานทั้งหมด |
หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก (Key Responsibilities and Activities) |
วัตถุประสงค์หลักของงาน (Key Objectives) |
ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน (Performance Indicators) |
งานบริหารผลตอบแทน - กำหนดนโยบายด้านผลตอบแทน - พัฒนา/ทบทวนระบบการจ่ายผลตอบแทน - สำรวจเปรียบเทียบผลตอบแทนกับองค์การอื่น - ให้คำปรึกษาและแนะนำผู้บริหารเกี่ยวกับการจ่ายผลตอบแทน - ออกแบบและกำหนดรูปแบบการจ่ายผลตอบแทน |
- แข่งขันได้ - ดึงดูดบุคลากรภายนอกได้ - เป็นธรรมกับบุคลากร - ความพึงพอใจของบุคลากร - ต้นทุนบุคลากรที่เหมาะสม - ความถูกต้อง |
- % ของผลตอบแทนเมื่อเทียบกับตลาดท้องถิ่น - จำนวนครั้งที่เกิดผลกระทบต่อการจ้างบุคลากรภายใน - % ความพึงพอใจของบุคลากรต่อผลตอบแทน - จำนวนครั้งที่ผิดพลาดต่อการจ่ายผลตอบแทน เดือนละไม่เกิน 5 ราย - จำนวนครั้งที่มีข้อร้องเรียนเรื่องจ่ายค่าตอบแทน เดือนละไม่เกิน 2 ราย |
งานสวัสดิการ - กำหนดนโยบายด้านสวัสดิการให้แก่พนักงาน - ควบคุมดูแลการเบิกจ่ายสวัสดิการประกันสังคม กองทุน และสวัสดิการอื่นๆ |
- ความถูกต้อง - ทันเวลา - ความพึงพอใจของบุคลากร |
- จำนวนข้อร้องเรียนของพนักงานเกี่ยวกับการเบิกจ่ายสวัสดิการ - จำนวนครั้งที่จัดทำรายงานประกันสังคม ผิดพลาด เดือนละไม่เกิน 2 ราย |
การจัดการทั่วไป - ดูแลระบบคุณภาพต่างๆ - บริหารงานบุคลากร - วางแผนและจัดทำงบประมาณ - เข้าร่วมกิจกรรมบริษัทตามที่ได้รับมอบหมาย - งานอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย |
- ปฏิบัติงานสอดคล้องกับข้อกำหนดของระบบคุณภาพ - ความพึงพอใจของพนักงาน - ความแม่นยำในการวางแผนงบประมาณ - การเข้าร่วมกิจกรรม - ผลสำเร็จของงานที่ได้รับมอบหมาย |
- จำนวนข้อบกพร่อง - อัตราการลาออกไม่เกิน 5 %ของพนักงานทั้งหมด - อัตราการป่วย สาย ขาด ลา - อัตราการเข้าร่วมกิจกรรม - % ความสำเร็จของงานโครงการเทียบกับแผนงาน |
ความยากของงาน/ความเสี่ยง/ข้อควรระวัง (Major Challenges)
- เป็นงานที่ต้องประสานผลประโยชน์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างซึ่งมักจะขัดกัน - ต้องรับผิดชอบต่อความเป็นอยู่ของบุคลากรทั้งในและนอกเวลางาน ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงาน - ต้องบริหารคนทุกคนในองค์การ แต่ไม่มีอำนาจในการสั่งการหรือบังคับบัญชาทุกคนได้ - เป็นงานที่รู้ข้อมูลที่เป็นความลับทั้งขององค์การและบุคลากร |
ขอบเขตงานของผู้ใต้บังคับบัญชา (Subordinate's Responsibilities)
ตำแหน่ง (Position) |
ขอบเขตงานโดยย่อ (Job Scope) |
พนักงานสวัสดิการ-ค่าจ้าง |
รับผิดชอบในการจ่ายค่าจ้าง ผลตอบแทนและสวัสดิการ |
พนักงานสรรหา-ฝึกอบรม |
รับผิดชอบงานด้านการสรรหาและพัฒนาบุคลากรฝึกอบรมพนักงาน |
อำนาจดำเนินการ (Financial Responsibilities/Authorization)
เรื่อง (Item) |
ระดับอำนาจอนุมัติ (Amount/Authorized level) |
||
อนุมัติได้เอง (Own Decision) |
ต้องขอคำแนะนำ (Consulted by Superior) |
นำเสนอผู้บังคับบัญชา (Superior Approval) |
|
อนุมัติว่าจ้างบุคลากรต่ำกว่าผู้จัดการ |
/ |
||
อนุมัติว่าจ้างบุคลากรระดับผู้จัดการ |
/ |
||
อนุมัติการว่าจ้างบุคลากรระดับผู้บริหาร |
/ |
การทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น (Working Relationship)
หน่วยงาน/ตำแหน่งงานที่ติดต่อ |
เรื่องที่ต้องติดต่อ |
ความถี่ |
ทุกหน่วยงาน |
ประสานเพื่อวางแผน ตัดสินใจแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร |
ทุกสัปดาห์ |
หน่วยงานราชการ เช่น ประกันสังคม สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน |
ดำเนินการในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากองค์การ |
ไม่แน่นอน |
ผู้ให้บริการภายนอก เช่น บริษัทประกันภัย ฯลฯ |
เจรจาต่อรองเรื่องเงื่อนไขในการให้บริการ |
ไม่แน่นอน |
คุณสมบัติประจำตำแหน่ง (Job Specifications)
1.มีความรู้เรื่องกฎหมายแรงงาน ประกันสังคม 5. โปรแกรม MS Office ,Internet
2. มีความสามารถในการใช้โสตทัศนูปกรณ์ 6. ขับรถยนต์ได้และมีใบอนุญาตขับขี่
3. มีความสามารถในการพูด ฟัง เขียน ภาษาอังกฤษได้ 7. มีบุคลิกภาพดี
4. พิมพ์ดีดไทย อังกฤษ สัมผัสได้
วุฒิการศึกษา (Education Background)
ระดับปริญญาตรี การบริหารทรัพยากรมนุษย์ หรือ บริหารธุรกิจ หรือ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ |
ประสบการณ์การทำงาน (Professional Experiences
ประสบการณ์งานด้านบุคคลอย่างน้อย 10 ปี |
ความสามารถประจำตำแหน่ง (Competencies)
ความรู้ (Knowledge) |
ทักษะ (Skills) |
ความสามารถด้านความคิด/บุคลิกภาพ (Mental Abilities/Personalities) |
- นโยบายองค์การ - กฎหมายแรงงาน - กฎระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง - ลักษณะธุรกิจขององค์การ - โครงสร้างการบริหารจัดการ |
- คอมพิวเตอร์ - ภาษาอังกฤษ |
- การวางแผนกลยุทธ์ - การโน้มน้าว - การเจรจาต่อรอง - ภาวะผู้นำ - การตัดสินใจ - การควบคุมอารมณ์ |
คุณสมบัติอื่น ๆ (Others)
สามารถปฏิบัติงานนอกเวลาทำงานปกติได้ และสามารถปฏิบัติงานได้ทั้งในและนอกสถานที่ |
JD-HR-002 หัวหน้าแผนกพัฒนาบุคคลากร
ชื่อตำแหน่ง(ไทย) |
หัวหน้าแผนกพัฒนาบุคลากร |
ชื่ออังกฤษ |
Human Resource Manager |
แผนก |
บุคคล-ธุรการ |
ฝ่าย |
อำนวยการ |
ผู้บังคับบัญชา |
ผู้จัดการส่วนบุคคล-ธุรการ |
ระดับตำแหน่งงาน |
G4 |
วัตถุประสงค์ (Job Purpose)
รับผิดชอบการเสนอนโยบายในการบริหารงานบุคลากร บริหารงานด้านสรรหาว่าจ้าง วางแผนอัตรากำลังคน พัฒนาและฝึกอบรม บริหารค่าตอบแทน การประเมินผลงาน และแรงงานสัมพันธ์ เพื่อให้บุคลากรมีศักยภาพที่เหมาะสมและมีความพึงพอใจในการทำงานกับองค์กร |
ความรับผิดชอบหลัก (Key Responsibilities)
หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก (Key Responsibilities and Activities) |
วัตถุประสงค์หลักของงาน (Key Objectives) |
ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน (Performance Indicators) |
อัตรากำลังคน/งานสรรหา/งานคัดเลือก - เสนอนโยบายในการบริหารงานบุคคล - วางแผนอัตรากำลังคนตามโครงสร้าง - วางแผนการสรรหาบุคลากรแรงงานไทย แรงงานต่างด้าว และการจ้างงานคนพิการ - ควบคุมการคัดเลือกสัมภาษณ์บุคลากร - ให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการสรรหาบุคลากร - ควบคุมการสรรหาผู้สมัครงานตามช่องทางต่างๆ - ดำเนินการสัมภาษณ์และคัดเลือกร่วมกับหน่วยงานต้นสังกัด -ติดต่อเจรจากับบริษัทจัดหางานภายนอก |
- มีอัตรากำลังคนที่เหมาะสมตามโครงสร้างขององค์กร - หาบุคลากรได้ตรงตามคุณสมบัติที่หน่วยงานต้องการและได้ทันเวลา - สามารถหาบุคลากรภายในทดแทนตำแหน่งที่ออกได้ |
- การสรรหาได้ตรง ตามคุณสมบัติที่หน่วยงานต้องการและเป็นไปตามโครงสร้างของบริษัท - % การจ้างงานคนพิการ (100 คน ต่อ คนพิการ 1 คน) -อัตราพนักงานลาออกไม่เกิน 5% |
งานว่าจ้าง - ควบคุม ตรวจสอบการทำสัญญาจ้างงาน - นำเสนอขออนุมัติค่าใช้จ่ายในการลงโฆษณาประกาศรับสมัครงาน - ดำเนินการและควบคุมการปฐมนิเทศ/พนักงานใหม่พบผู้บริหาร - นำเสนอขออนุมัติรับพนักงาน/การทำสัญญาจ้าง - ควบคุมการติดตามการประเมินผลการทดลองงานพนักงานใหม่ |
- ความถูกต้้องในการว่าจ้างตามระเบียบของบริษัท - ความถูกต้องของสัญญาจ้าง - ดำเนินการภายในเวลาที่กำหนด |
- ไม่มีความผิดพลาดในการทำสัญญาจ้าง |
หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก (Key Responsibilities and Activities) |
วัตถุประสงค์หลักของงาน (Key Objectives) |
ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน (Performance Indicators) |
งานพัฒนาและฝึกอบรม - เสนอแผนในการพัฒนาคนให้ตรงกับแผนกลยุทธ์ขององค์กร เพื่อจะได้พัฒนาคนให้สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัท - วางแผนการพัฒนาฝึกอบรมทั้งระยะสั้นและระยะยาว - ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการพัฒนาและฝึกอบรม - วิเคราะห์ความต้องการในการฝึกอบรม - จัดทำแผนการฝึกอบรมประจำปี - นำเสนอแผนการฝึกอบรมประจำปี - ควบคุมดำเนินการจัดฝึกอบรม - สรุปผลการประเมินผลและติดตามผลการฝึกอบรมต่อผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง |
- จัดทำแผนฝึกอบรมได้ตรงกับความต้องการ - พัฒนาบุคลากรให้มีทักษะความสามารถเพิ่มขึ้นและตรงกับความต้องการของหน่วยงาน
|
- จัดฝึกอบรมได้ตามแผนไม่น้อยกว่า 80% - อบรมความรู้สินค้าหรืองานบริการ อย่างน้อย 4 ครั้ง/เดือน - จัดฝึกอบรมได้ตามกฏหมายกำหนด คือ ร้อยละ 50 ของจำนวนพนักงานทั้งหมดและยื่นเอกสารฝึกอบรมต่อศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ |
งานบริหารค่าจ้าง/เงินเดือน/ผลตอบแทน - เสนอนโยบายด้านค่าจ้างเงินเดือนและค่าตอบแทน ตามอัตราค่าแรงขั้นต่ำที่กฏหมายกำหนด - จัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างค่าจ้าง - นำเสนอข้อมูลในการปรับอัตราค่าจ้างเริ่มต้น - นำเสนอการปรับขึ้นค่าจ้างเงินเดือนตามผลงานของพนักงาน - พัฒนา/ทบทวนระบบการจ่ายค่าจ้างเงินเดือนผลตอบแทน - สำรวจเปรียบเทียบค่าจ้างเงินเดือนผลตอบแทนกับตลาดแรงงาน - ให้คำปรึกษาและแนะนำผู้บริหารเกี่ยวกับการจ่ายค่าตอบแทน - ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับค่าจ้างในตลาดแรงงาน - ควบคุม ตรวจสอบการจัดทำเอกสารการจ่ายค่าจ้างเงินเดือนประจำเดือน (รายวัน-รายเดือน) - ควบคุม ตรวจสอบการจัดทำเอกสารนำส่งข้อมูลประกันสังคม กองทุนเงินทดแทน - ควบคุม ตรวจสอบการจัดทำเอกสารการนำส่ง |
- ค่าจ้างเงินเดือนแข่งขันได้กับตลาดแรงงานที่ใกล้เคียงได้ - ดึงดูดบุคลากรภายนอกได้ - ความพึงพอใจของบุคลากร - จ่ายค่าจ้างได้ถูกต้อง ตรงเวลา - ไม่ขัดต่อกฎหมาย - ค่าจ้างเงินเดือนค่าตอบแทนของบริษัทสามารถดึงดูดและรักษาพนักงานไว้ได้ - นำส่งภาษีได้ถูกต้องและตรงเวลา |
- จำนวนครั้งที่จ่ายค่าจ้างผิดพลาด เดือนละไม่เกิน 5 ราย - ไม่มีการทำรายงานประกันสังคม ผิดพลาด |
หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก (Key Responsibilities and Activities) |
วัตถุประสงค์หลักของงาน (Key Objectives) |
ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน (Performance Indicators) |
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา - ควบคุม ตรวจสอบ เงินประกันพนักงาน |
||
งานประเมินผล - ควบคุม ตรวจสอบการประเมินผลพนักงานทดลองงาน,การประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปีของพนักงานโดยยึดหลักผลงานที่มีความเป็นธรรม ยุติธรรม - นำเสนอพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง โยกย้ายตำแหน่งให้เหมาะสมตามผลการปฏิบัติงาน - นำเสนอผลการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานต่อผู้บริหาร |
- ประเมินผลงานประจำปีตามผลการปฏิบัติงาน |
- การประเมินผลงานของพนักงานเสร็จทันภายในเดือน พฤศจิกายนของทุกปี |
งานบริหารแรงงานสัมพันธ์ - วางแผนการจัดกิจกรรมแรงงานสัมพันธ์ - ควบคุม ดูแล ดำเนินการจัดกิจกรรมแรงงานสัมพันธ์ - สร้างให้พนักงานมีทัศนคติเชิงบวกต่อบริษัท ผู้บริหารและหัวหน้างาน - ติดตามการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายแรงงาน - ปรับปรุง/ทบทวนกฎระเบียบข้อบังคับในการทำงาน - ชี้แจง ให้ความรู้กับพนักงานปฏิบัติตามนโยบายของบริษัท เช่น กฎระเบียบวินัย ขั้นตอนการทำงาน การตรงต่อเวลา ความซื่อสัตย์ ฯลฯ - ประชุมร่วมกับตัวแทนพนักงาน - วางแผนสื่อสารระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง - ให้คำปรึกษาแก่หัวหน้างานเกี่ยวกับการบริหารคน บริหารงาน การลงโทษทางวินัย - แก้ไขปัญหาข้อพิพาทภายในองค์กร - วางตัวเป็นกลาง ยุติธรรม เชื่อถือได้ และเป็นที่ไว้วางใจในการรักษาความลับส่วนตัวของพนักงานและบริษัท |
- เกิดความสัมพันธ์อันดีภายในองค์กร - กฎระเบียบข้อบังคับในการทำงานถูกต้องตามกฎหมายแรงงาน - พนักงานเกิดความจงรักภักดีต่อองค์กร - พนักงานเห็นว่างานบุคคลเป็นผู้ให้คำปรึกษาที่ดีช่วยหาวิธีแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม - พนักงานเข้าใจในกฎระเบียบของบริษัท - ลงโทษทางวินัยได้ถูกต้องตามลำดับขั้น |
-ไม่มีปัญหาข้อพิพาทแรงงาน -ไม่มีการประท้วง/หยุดงาน -จำนวนใบเตือนการลงโทษทางวินัยไม่เกิน 1% ของพนักงานทั้งหมด |
หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก (Key Responsibilities and Activities) |
วัตถุประสงค์หลักของงาน (Key Objectives) |
ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน (Performance Indicators) |
งานสวัสดิการ - เสนอข้อมูลเกี่ยวกับการจัดสวัสดิการให้แก่พนักงาน อย่างเหมาะสมตามกฎหมาย - ดำเนินการเลือกตั้งคณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบการและนำส่งข้อมูลให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด - ควบคุมดูแลการเบิกจ่ายสวัสดิการพนักงาน,กองทุนประกันสังคม กองทุนเงินทดแทน และสวัสดิการอื่นๆ - สำรวจสภาพแวดล้อมในการทำงาองค์กรนและจัดสวัสดิการให้กับพนักงานอย่างเหมาะสม |
- พนักงานได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม
และสวัสดิการอื่นๆ |
- ไม่มีข้อร้องเรียนของพนักงานเกี่ยวกับการจัดสวัสดิการ |
การจัดการทั่วไป - ดูแลระบบคุณภาพต่างๆ - บริหารบุคลากร - วางแผนและจัดทำงบประมาณ - เข้าร่วมกิจกรรมบริษัทตามที่ได้รับมอบหมาย - งานอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย |
- ปฏิบัติงานสอดคล้องกับข้อกำหนดของระบบคุณภาพ - การเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท - ผลสำเร็จของงานที่ได้รับมอบหมาย |
- จำนวนข้อบกพร่อง (CAR) ไม่เกิน 1 ใบ/เดือน - อัตราการลาออกไม่เกิน 5 %ของพนักงานทั้งหมด |
ความยากของงาน/ความเสี่ยง/ข้อควรระวัง (Major Challenges)
- เป็นงานที่ต้องประสานผลประโยชน์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างซึ่งมักจะขัดแย้งกันและต้องทำให้ทุกฝ่ายพอใจ - เป็นงานที่พนักงานมองว่าอยู่ฝ่ายบริษัท คอยจ้องจับผิดพนักงาน - ต้องรับผิดชอบต่อความเป็นอยู่ของบุคลากรทั้งในและนอกเวลางาน ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงาน - ต้องบริหารคนทุกคนในบริษัท แต่ไม่มีอำนาจในการสั่งการหรือบังคับบัญชาทุกคนได้ - เป็นงานที่รู้ข้อมูลที่เป็นความลับทั้งของบริษัทและพนักงาน - เป็นงานที่ต้องทำงานภายในเวลาที่กำหนด ในขณะเดียวกันก็ต้องทำงานภายใต้ข้อจำกัดของปัจจัยภายนอก - ถ้าคัดเลือกคนผิดพลาดจะก่อให้เกิดปัญหาต่อองค์กรทั้งระยะสั้นและระยะยาว - ต้องหาคนที่มีคุณภาพ ภายใต้เงื่อนไขการจ้างงานของบริษัท - ต้องตรวจสอบเอกสารการจ้างงานอย่างละเอียด เพราะมีผลทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน - เป็นงานที่ต้องบริการให้พนักงานทุกคนพึงพอใจ ภายใต้ระเบียบข้อบังคับของบริษัท - ความผิดพลาดเกี่ยวกับกฎหมายแรงงานมีผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัทฯ |
ขอบเขตงานของผู้ใต้บังคับบัญชา (Subordinate's Responsibilities)
ตำแหน่ง (Position) |
ขอบเขตงานโดยย่อ (Job Scope) |
พนักงานสวัสดิการ-ค่าจ้าง |
รับผิดชอบในการจ่ายค่าจ้าง เงินเดือน นำส่งภาษี ผลตอบแทนและสวัสดิการของพนักงาน |
พนักงานสรรหา-ฝึกอบรม |
รับผิดชอบงานด้านการสรรหา คัดเลือกใบสมัครเบื้องต้นและพัฒนาบุคลากรฝึกอบรมพนักงาน |
อำนาจดำเนินการ (Financial Responsibilities/Authorization)
เรื่อง (Item) |
ระดับอำนาจอนุมัติ (Amount/Authorized level) |
||
อนุมัติได้เอง (Own Decision) |
ต้องขอคำแนะนำ (Consulted by Superior) |
นำเสนอผู้บังคับบัญชา (Superior Approval) |
|
ขอออนุมัติงบประมาณในการลงโฆษณารับสมัครงาน |
/ |
||
ขออนุมัติว่าจ้างบุคลากรต่ำกว่าผู้จัดการ |
/ |
||
ขออนุมัติว่าจ้างบุคลากรระดับผู้จัดการ |
/ |
||
ขออนุมัติการว่าจ้างบุคลากรระดับผู้บริหาร |
/ |
||
ขออนุมติการจ่ายค่าจ้าง/เงินเดือน/ผลตอบแทน/สวัสดิการประจำเดือน |
/ |
||
ขออนุมัติงบประมาณการจัดฝึกอบรมประจำปี |
/ |
||
ขออนุมัติแก้ไขกฎระเบียบข้อบังคับบริษัท |
/ |
การทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น (Working Relationship)
หน่วยงาน/ตำแหน่งงานที่ติดต่อ |
เรื่องที่ต้องติดต่อ |
ความถี่ |
ทุกหน่วยงาน |
- ให้คำปรึกษา ตัดสินใจแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับพนักงาน - ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกฎระเบียบข้อบังคับของบริษัท - ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการลงโทษทางวินัย - ประสานงานเกี่ยวกับปัญหาค่าจ้าง เงินเดือน ผลตอบแทน - ประสานงานการจัดฝึกอบรมประจำปี - ประสานงานการจัดกิจกรรมแรงงานสัมพันธ์ - ประสานงานเกี่ยวกับสวัสดิการพนักงาน |
ไม่แน่นอน |
หน่วยงานราชการ.- - สำนักงานประกันสังคม - สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ - ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ - สำนักงานจัดหางานจังหวัดเชียงใหม่ - สํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด |
- ดำเนินการในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท |
ไม่แน่นอน |
ผู้ให้บริการภายนอก เช่น บริษัทประกันภัย โรงพยาบาล ฯลฯ |
เจรจาต่อรองเรื่องเงื่อนไขในการให้บริการ |
ไม่แน่นอน |
คุณสมบัติประจำตำแหน่ง (Job Specifications)
-
มีความรู้เรื่องกฎหมายแรงงาน ประกันสังคม แรงงานสัมพันธ์
-
มีความสามารถในการใช้โสตทัศนูปกรณ์ เครื่องใช้สำนักงาน
-
พิมพ์ดีดไทย อังกฤษ สัมผัสได้
-
ขับรถยนต์ได้และมีใบอนุญาตขับขี่
-
มีความสามารถในการพูด ฟัง เขียน ภาษาอังกฤษได้
-
มีบุคลิกภาพดี มีมนุษย์สัมพันธ์
วุฒิการศึกษา (Education Background)
ระดับปริญญาตรี การบริหารทรัพยากรมนุษย์ หรือ บริหารธุรกิจ หรือ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ |
ประสบการณ์การทำงาน (Professional Experiences
1. ประสบการณ์งานด้านบุคคลอย่างน้อย 5 ปี |
ความสามารถประจำตำแหน่ง (Competencies)
ความรู้ (Knowledge) |
ทักษะ (Skills) |
ความสามารถด้านความคิด/บุคลิกภาพ (Mental Abilities/Personalities) |
- นโยบายองค์กร - กฎหมายแรงงาน - กฎระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง - ลักษณะธุรกิจขององค์กร - โครงสร้างการบริหารจัดการ - โครงสร้างเงินเดือน - จิตวิทยาการบริหารงานบุคคล |
- คอมพิวเตอร์ - ภาษาอังกฤษ - ศิลปะในการใช้ภาษา |
- การวางแผนกลยุทธ์ - การโน้มน้าว - การเจรจาต่อรอง - ภาวะผู้นำ - การตัดสินใจ - การควบคุมอารมณ์ - การสื่อสาร - การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า - การประสานงาน - ความละเอียดรอบคอบ - การจัดลำดับความสำคัญของงาน - การติดตามงาน - ความคิดริ่เริ่มสร้างสรรค์ - จิตบริการ (SERVICE MIND) - การทำงานเป็นทีม - ความอดทน |
คุณสมบัติอื่น ๆ (Others)
สามารถปฏิบัติงานนอกเวลาทำงานปกติได้ และสามารถปฏิบัติงานได้ทั้งในและนอกสถานที่ |
JD-HR-003 สรรหา-ฝึกอบรม
ชื่อตำแหน่ง(ไทย) |
พนักงานสรรหา-ฝึกอบรม |
ชื่ออังกฤษ |
Recruitment-Training Officer |
แผนก |
บุคคล-ธุรการ |
ฝ่าย |
อำนวยการ |
ผู้บังคับบัญชา |
หัวหน้าแผนกพัฒนาบุคลากร |
ระดับตำแหน่งงาน |
G3 |
วัตถุประสงค์ (Job Purpose)
- ดำเนินการสรรหาคัดเลือกพนักงานตามความต้องการของหน่วยงาน โดยการสรรหาตาม Job describtion - รับผิดชอบประกาศรับสมัครพนักงานในสื่อต่าง ๆ เช่น เวปไซต์บริษัท Job North Thailand ป้ายประกาศ สถาบันการศึกษา ออกบู๊ทจัดหางาน ฯลฯ - เก็บรวบรวมและคัดเลือกใบสมัครงาน ประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการดำเนินการคัดเลือกสัมภาษณ์ - ดำเนินการจัดเตรียมการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ / พนักงานใหม่พบผู้บริหาร /กิจกรรมสัมพันธ์ - สำรวจความต้องการในการฝึกอบรม ประสานงานในการดำเนินกิจกรรมฝึกอบรมและติดตามผล - ดำเนินการจัดฝึกอบรมพนักงานทั้งภายในและภายนอกตามแผนพัฒนาบุคลากรประจำปี - จัดเก็บสถิติการฝึกอบรมพนักงาน ทัศนศึกษาทั้งในและต่างประเทศ - เพื่อให้ระบบการสื่อสารภายในและภายนอกมีประสิทธิภาพตรงตามวัตถุประสงค์ของงาน - ดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารการจ้างแรงงานต่างด้าว - ดูแลการสรรหา/คัดเลือกพนักงาน PC เข้าพื้นที่ขาย |
ความรับผิดชอบหลัก (Key Responsibilities)
หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก (Key Responsibilities and Activities) |
วัตถุประสงค์หลักของงาน (Key Objectives) |
ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน (Performance Indicators) |
- สำรวจอัตราตำแหน่งงานว่าง / สรุปอัตรากำลังคน - หาข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันศึกษาและแหล่งงาน - ประสานลงโฆษณากับสื่อหรืออินเตอร์เน็ต - สัมภาษณ์เบื้องต้นและรวบรวมใบสมัคร - คัดใบสมัครที่มีคุณภาพ/ตรงตามคุณสมบัติ - นัดหมายสัมภาษณ์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสัมภาษณ์ - การจัดทำทะเบียนการรับสมัครงานและการจัดเก็บสถิติข้อมูลการสมัครงาน - สรุปสถิติผลการสรรหาพนักงานประจำเดือน - ติดต่อเจรจากับบริษัทจัดหางานภายนอก |
- ข้อมูลอัตรากำลังขาด/เกิน - ได้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน - ได้ใบสมัครเพียงพอ - ได้ใบสมัครที่มีคุณภาพ - ได้ใบสมัครทันเวลา - ความถูกต้องครบถ้วนของเอกสารใบสมัครงาน - ความถูกต้องของการนัดหมาย/ประสานงาน |
- จำนวนครั้งที่ข้อมูลผิดพลาดเป็น 0 - สรรหาตำแหน่งงานว่างแต่ละตำแหน่งให้ได้ภายใน 30 วัน |
หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก (Key Responsibilities and Activities) |
วัตถุประสงค์หลักของงาน (Key Objectives) |
ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน (Performance Indicators) |
- ดำเนินการจัดเตรียมการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ / พนักงานใหม่พบผู้บริหาร /กิจกรรมแรงงานสัมพันธ์ - สำรวจความต้องการในการฝึกอบรม - สรุปผลและนำผลการสำรวจเสนอผู้บังคับบัญชา - ติดต่อประสานงานวิทยากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - จัดทำเอกสารเสนอขออนุมัติอบรมภายใน/ภายนอก - ดำเนินการจัดอบรม - สรุปผลการประเมิน/ติดตามผลการฝึกอบรมและนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชา - จัดทำรายงานการฝึกอบรมประจำปีส่งศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน |
- พนักงานใหม่ได้รับการปฐมนิเทศก่อนเริ่มงาน - ทำตารางการฝึกอบรมประจำเดือน - จัดฝึกอบรมได้ตามแผน - ความพึงพอใจของผู้เข้ารับการฝึกอบรม - ความพร้อมของการจัดฝึกอบรม - ติดตามผลการฝึกอบรมได้ครบถ้วน |
- การฝึกอบรมให้บรรลุเป้าหมายและงบประมาณที่กำหนด - จัดฝึกอบรมพนักงานได้ตามเกณฑ์ที่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานกำหนดไม่น้อยกว่า 50% ของพนักงานทั้งหมด - จำนวนผู้เข้าฝึกอบรมไม่น้อยกว่า 80% |
งานกิจกรรมแรงงานสัมพันธ์ - ประสานงานจัดกิจกรรมแรงงานสัมพันธ์ - ประเมินสภาพแวดล้อมในการทำงานและติดตามผลการรับสมัครพนักงานใหม่เข้ามาทำงาน - รับข้อร้้องเรียนของพนักงาน - ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการแก้ปัญหา |
- ได้ข้อมูลปัญหาจากสภาพการทำงานเช่น เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน สภาพงาน สภาพแวดล้อม และ อื่น ๆ - ทราบถึงปัญหาของการลาออกของพนักงานใหม่ - ปัญหาของพนักงานได้รับการดำเนินการแก้ไข |
- ร้อยละของพนักงานลาออกไม่เกิน 5% |
ผังองค์กร และ JD - จัดทำผังโครงสร้างการบริหาร - จัดทำใบกำหนดหน้าที่งาน |
- อัฟเดทผังโครงสร้างการบริหารงานประจำเดือน - อัฟเดท Job Description แต่ละแผนก |
- ปรับผังโครงสร้างการบริหารให้เป็นปัจจุบัน เดือนละ 1 ครั้ง - พนักงานรับทราบและเข้าใจหน้าที่งานแต่ละตำแหน่ง |
หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก (Key Responsibilities and Activities) |
วัตถุประสงค์หลักของงาน (Key Objectives) |
ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน (Performance Indicators) |
งานต่างด้าว/บุคคลพื้นที่สูง - การแจ้งแรงงานต่างด้าวเข้า-ออก - การต่ออายุใบอนุญาตทำงาน - การต่อ VISA , PASSPORT - การรายงานตัว 90 วัน ต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง |
- การแจ้งเข้า-ออก พนักงานต่างด้าวตรงตามเงื่อนไขที่กฎหมายแรงงานกำหนด - การต่ออายุใบอนุญาตทำงานให้ถูกต้อง - การจัดทำเอกสารรายงานตัวของพนักงานต่างด้าวให้ทันรอบระยะเวลาที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำหนด |
- การจ้างแรงงานต่างด้าวเป็นไปตามกฎหมายแรงงานที่กำหนด - % ของการต่อใบอนุญาตทำงานต่างด้าวล่าช้าเป็น 0 |
พนักงาน PC - ประสานแผนกบริหารสินค้า ผู้จัดการร้านและ Sale Vendor เรื่องการรับสมัครพนักงาน และการเข้า-ออก ของพนักงาน PC - ประสานงานส่งพนักงาน PC สัมภาษณ์กับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง - ประสานงานเกี่ยวกับการส่งตัวพนักงาน PC เข้าพื้นที่ - การจัดทำทะเบียนประวัติพนักงาน PC - ดูแลการรับเข้า-ลาออกของพนักงาน PC - จัดทำรายงานบันทึกเวลาการปฏิบัติงานของพนักงาน PC - ดูแลให้พนักงาน PCปฏิบัติตามกฏระเบียบของบริษัท |
- พนักงาน PC เข้าพื้นที่ขายตามกระบวนการ - พนักงาน PC รับทราบและปฏิบัติตามกฏระเบียบของบริษัท |
- การสรรหาพนักงาน PC เข้าพื้นที่ได้ทันเวลา |
เอกสารเตือนพนักงาน - จัดทำเอกสารเตือนการทำผิดกฎระเบียบของพนักงานตามลำดับขั้น |
- เพื่อให้พนักงานปฏิบัติตามกฎระเบียบที่บริษัทกำหนด - เพื่อให้การทำงานของพนักงานบรรลุเป้าหมาย |
- พนักงานปฏิบัติตามกฎระเบียบบริษัท |
คู่มือปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง |
ความยากของงาน/ความเสี่ยง/ข้อควรระวัง (Major Challenges)
- ความสามารถในด้านการวิเคราะห์งาน - เป็นงานที่ต้องทำภายในเวลาที่กำหนด - ความสามารถในการประสานงานกับหน่วยงานภายใน – นอกองค์กร เพื่อให้สามารถดำเนินงานไปตามแผน - การตรวจสอบเอกสารผู้สมัครงานอย่างละเอียด เพราะถ้าเกิดข้อผิดพลาดอาจส่งผลกระทบระยะยาว - การแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าที่เหมาะสม - เป็นงานที่ต้องประสานงานระหว่างวิทยากร หน่วยงานต้นสังกัดและผู้เข้ารับการฝึกอบรม - การจัดฝึกอบรมมีความหลากหลายทั้งเนื้อหา รูปแบบ วิทยากร และ ผู้เข้ารับการฝึกอบรม - เป็นงานที่ต้องประสานผลประโยชน์ที่ขัดแย้งกันให้ทุกฝ่ายพอใจ - เป็นงานที่พนักงานมองว่าอยู่ฝ่ายบริษัทคอยจ้องจับผิดพนักงาน |
ขอบเขตงานของผู้ใต้บังคับบัญชา (Subordinate's Responsibilities)
ตำแหน่ง (Position) |
ขอบเขตงานโดยย่อ (Job Scope) |
อำนาจดำเนินการ (Financial Responsibilities/Authorization)
เรื่อง (Item) |
ระดับอำนาจอนุมัติ (Amount/Authorized level) |
||
อนุมัติได้เอง (Own Decision) |
ต้องขอคำแนะนำ (Consulted by Superior) |
นำเสนอผู้บังคับบัญชา (Superior Approval) |
|
การเลือกสื่อในการประกาศตำแหน่งงาน |
/ |
||
เลือกใบสมัครที่จะเรียกสัมภาษณ์ |
/ |
||
ขออนุมัติรับพนักงาน |
/ |
||
เสนอโครงการฝึกอบรม |
/ |
การทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น (Working Relationship)
หน่วยงาน/ตำแหน่งงานที่ติดต่อ |
เรื่องที่ต้องติดต่อ |
ความถี่ |
ทุกหน่วยงาน/ภายใน |
- สรรหาบุคลากรให้ตามใบขอเพิ่มกำลังคน - ประสานเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ - ประสานงานฝึกอบรมภายใน - ประสานงานประเมินผล |
- ตามระยะเวลาที่กำหนดของงาน - ตามใบขอเพิ่มกำลังคน |
หน่วยงาน/ตำแหน่งงานที่ติดต่อ |
เรื่องที่ต้องติดต่อ |
ความถี่ |
บริษัทต่างๆ , หน่วยงานราชการ |
- จัดอบรมภายนอกบริษัท - ส่งเอกสารฝึกอบรมตามกฎหมายกำหนด - แจ้งตำแหน่งงานว่าง / ประกาศ - การต่ออายุเอกสารต่างๆ ของพนักงานต่างด้าว |
- ตามแผนงาน - ตามรอบระยะเวลา |
สื่อ |
- การลงโฆษณารับสมัครงาน |
ตามแผนการสรรหา |
ทุกหน่วยงาน |
- ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาของพนักงาน |
ไม่แน่นอน |
คุณสมบัติประจำตำแหน่ง (Job Specifications)
1.มีความรู้เรื่องกฎหมายแรงงาน ประกันสังคม การจัดฝึกอบรม แรงงานสัมพันธ์
2. มีความสามารถในการใช้โสตทัศนูปกรณ์
3. มีความสามารถในการพูด ฟัง เขียน ภาษาอังกฤษได้
4. พิมพ์ดีดไทย อังกฤษ สัมผัสได้
5. โปรแกรม MS Office ,Internet
6. ขับรถยนต์ได้และมีใบอนุญาตขับขี่
7. มีบุคลิกภาพดี
วุฒิการศึกษา (Education Background)
ระดับปริญญาตรี สาขา การบริหารทรัพยากรมนุษย์ , สาขาจิตวิทยา และสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง |
ประสบการณ์การทำงาน (Professional Experiences
1. ประสบการณ์งานด้านบุคคลอย่างน้อย 1-2 ปี |
ความสามารถประจำตำแหน่ง (Competencies)
ความรู้ (Knowledge) |
ทักษะ (Skills) |
ความสามารถด้านความคิด/บุคลิกภาพ (Mental Abilities/Personalities) |
สรรหา 1. ขั้นตอนการสรรหาว่าจ้าง 2. ความรู้เกี่ยวกับกฏหมายแรงงาน |
- คอมพิวเตอร์ - ภาษาอังกฤษ - อุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ - การเป็นผู้ดำเนินการจัดฝึกอบรม |
- การประสานงาน - การสื่อสาร - มนุษยสัมพันธ์ - ความละเอียดรอบคอบ - การให้บริการ |
ฝึกอบรม 1. ขั้นตอนการบริหารงานฝึกอบรม 2. การจัดทำรายงานฝึกอบรมตามที่กฏหมายกำหนด |
||
งานต่างด้าว 1. กฎหมายการจ้างแรงงานต่างด้าว 2. ขั้นตอนการจัดทำเอกสารและการยื่นเอกสารแรงงานต่างด้าว |
||
พนักงาน PC 1.ขั้นตอนกระบวนการรับพนักงาน PC เข้าทำงาน |
||
เอกสารใบเตือนพนักงาน 1. ลำดับขั้นการเตือนพนักงาน |
JD-HR-004 สวัสดิการ-ค่าจ้าง
ชื่อตำแหน่ง(ไทย) |
สวัสดิการ-ค่าจ้าง |
ชื่อตำแหน่ง(อังกฤษ) |
Welfare-Payroll Officer |
แผนก |
บุคคล-ธุรการ |
ฝ่าย |
อำนวยการ |
ผู้บังคับบัญชา |
หัวหน้าแผนกพัฒนาบุคลากร |
ระดับตำแหน่งงาน |
G3 |
วัตถุประสงค์ของตำแหน่งงาน (Job Purpose)
- รับผิดชอบการเก็บรวบรวมและตรวจสอบข้อมูลทะเบียนประวัติพนักงาน สถิติการมาปฏิบัติงานของพนักงาน - ดำเนินการจัดทำรายงานที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายค่าจ้าง เพื่อให้การจ่ายค่าจ้างเงินเดือนถูกต้องและทันเวลา - รับผิดชอบการเบิกจ่ายสวัสดิการพนักงาน การนำส่งรายงานเกี่ยวกับสวัสดิการ เพื่อให้พนักงานได้รับสวัสดิการที่ถูกต้องและทันเวลา - รับผิดชอบในการประสานงาน เพื่อให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงาน - จัดเก็บสถิติการปฏิบัติงานของพนักงาน |
ความรับผิดชอบหลัก (Key Responsibilities)
หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก (Key Responsibilities and Activities) |
วัตถุประสงค์หลักของงาน (Key Objectives) |
ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน (Performance Indicators) |
งานทะเบียนประวัติพนักงาน - จัดทำทะเบียนประวัติพนักงานเข้าใหม่ - จัดทำสัญญาจ้างงาน - จัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน หนังสือรับรองการทำงาน |
- ข้อมูลทะเบียนประวัติพนักงานครบถ้วนถูกต้อง |
- ไม่มีข้อมูลผิดพลาด |
งานบันทึกเวลาทำงาน - ดึงข้อมูลบันทึกเวลาเข้างานของพนักงานจากเครื่องสแกนนิ้ว - ตรวจสอบข้อมูลเวลาเข้า-ออกงาน - ประสานงานเรื่องเอกสารกับหน่วยงานต้นสังกัด - สรุปสถิติเวลาทำงานของพนักงาน |
- สรุปสถิติเวลาทำงานให้ถูกต้อง ครบถ้วน เสร็จทันเวลา |
- ไม่มีข้อมูลผิดพลาดในการตรวจสอบสถิติเวลาทำงานของพนักงาน |
งานคำนวณและจ่ายค่าจ้าง(รายวัน/รายเดือน) - คำนวณข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ - ตรวจสอบผลการคำนวณ - สรุปรายงานการจ่ายค่าจ้างเงินเดือนและรายงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น เงินกองกลาง เงินประกัน ฯลฯ - เสนอผู้บังคับบัญชาอนุมัติ - นำส่งข้อมูลให้ทางธนาคาร |
- การจ่ายค่าจ้างถูกต้องและครบถ้วน |
- การจ่ายเงินเดือนผิดพลาดไม่เกิน 1 ราย/เดือน |
หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก (Key Responsibilities and Activities) |
วัตถุประสงค์หลักของงาน (Key Objectives) |
ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน (Performance Indicators) |
- สรุปยอดเงินประกันพนักงาน - จัดทำสลิปเงินเดือนให้พนักงาน |
||
งานรายงานและภาษี - จัดทำข้อมูลรายงานการนำส่งประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน - จัดทำและนำส่งข้อมูลประกันอุบัติเหตุ - จัดทำรายงานภาษีเงินได้ของพนักงาน - อำนวยความสะดวกในการกรอกแบบเพื่อยื่นภาษีบุคคลธรรมดาให้พนักงาน |
- ความถูกต้องของรายงานครบถ้วนและนำส่งตามกำหนดเวลา |
- ไม่มีรายงานผิดพลาดและส่งตรงตามกำหนดเวลา 100% |
- รวบรวมข้อมูลใบประเมินผลพนักงานทดลองงาน - รวบรวมข้อมูลประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปีเพื่อพิจารณาปรับค่าจ้าง |
- คะแนนประเมินผลพนักงานที่บรรลุเป้าหมายตัวชี้วัดของแผนก |
- สามารถส่งแบบประเมินผลพนักงานทดลองงานทุกเดือน - ขออนุมัติบรรจุพนักงานภายในระยะเวลา 119 วัน - สรุปและส่งรายงานประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปี ภายในเดือน พฤศจิกายนของทุกปี |
งานเบิกจ่ายสวัสดิการ - ประสานงานการเบิกจ่ายประกันสังคม และกองทุนเงินทดแทน - ดูแลการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล - ดูแลการเบิกจ่ายสวัสดิการอื่นๆ |
- ความถูกต้อง - ทันเวลา - พนักงานได้รับสิทธิครบถ้วน |
- เอกสารที่เบิกจ่ายครบถ้วน 100% |
งานดูแลพนักงาน - ดูแลเยี่ยมไข้พนักงานที่เจ็บป่วย/คลอดบุตร - ประสานงานกรณีพนักงาน/ครอบครัวเสียชีวิต |
- เอาใจใส่ดูแลได้ทั่วถึง |
- พนักงานหรือ/ครอบครัวพนักงานเกิดความพึงพอใจ จากการดูแลของทางบริษัท |
งานตรวจสอบข้อมูลพนักงานลาออก/พ้นสภาพ - ประสานงานแผนกที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบเอกสารใบลาออก - ตรวจสอบใบลาออกพนักงานและความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างทำงาน |
- ข้อมูลการตรวจสอบความเสียหาย หนี้สินพนักงาน เงินประกันพนักงาน มีความถูกต้องและครบถ้วนสมบูรณ์ |
- ไม่มีข้อผิดพลาดในการตรวจสอบเอกสารใบลาออก |
- สรุปความเสียหาย หนี้สินพนักงาน เงินประกันพนักงาน - ประสานแผนกกการเงินเพื่อตั้งเบิกเงินประกันคืนพนักงาน |
ความยากของงาน/ความเสี่ยง/ข้อควรระวัง (Major Challenges)
- เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับค่าตอบแทนของพนักงาน ต้องเก็บรักษาความลับ - เป็นงานประจำที่มีรายละเอียดมากและต้องทำในกำหนดวันที่แน่นอน - เป็นงานที่ต้องบริการให้พนักงานทุกคนพึงพอใจ ภายใต้ระเบียบข้อบังคับของบริษัท - เป็นงานที่มีเอกสารจำนวนมาก อาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ง่าย - ต้องมีความรู้เกี่ยวกับกฏหมายแรงงานเพื่อลดข้อร้องเรียนทางกฏหมาย |
ขอบเขตงานของผู้ใต้บังคับบัญชา (Subordinate's Responsibilities)
ตำแหน่ง (Position) |
ขอบเขตงานโดยย่อ (Job Scope) |
อำนาจดำเนินการ (Financial Responsibilities/Authorization)
เรื่อง (Item) |
ระดับอำนาจอนุมัติ (Amount/Authorized level) |
||
อนุมัติได้เอง (Own Decision) |
ต้องขอคำแนะนำ (Consulted by Superior) |
นำเสนอผู้บังคับบัญชา (Superior Approval) |
|
ขออนุมัติการจ่ายค่าจ้างเงินเดือน |
/ |
||
การพิจารณาสิทธิในการเบิกสวัสดิการ |
/ |
||
การอนุมัติการเบิกจ่ายสวัสดิการ |
/ |
การทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น (Working Relationship)
หน่วยงาน/ตำแหน่งงานที่ติดต่อ |
เรื่องที่ต้องติดต่อ |
ความถี่ |
ทุกหน่วยงาน |
- ประสานงานเกี่ยวกับข้อมูลเวลาทำงาน - ดำเนินการเบิกสวัสดิการ การเขียนใบลา สิทธิประกันสังคมต่างๆ |
ทุกวัน |
สรรพากร |
นำส่งภาษีประจำเดือน |
ทุกเดือน |
ธนาคาร |
นำส่งข้อมูลการจ่ายเงินเดือน |
ทุกเดือน |
สำนักงานประกันสังคม |
- นำส่งรายงาน/ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของพนักงาน - ดำเนินการเบิกสวัสดิการและสิทธิต่างๆ ของพนักงาน |
- ทุกเดือน - ไม่แน่นอน |
บริษัทประกันชีวิต |
นำส่งรายงาน / ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของพนักงาน |
ทุกเดือน |
คุณสมบัติประจำตำแหน่ง (Job Specifications)
1. มีความรู้เรื่องกฎหมายแรงงาน ประกันสังคม และภาษี
2. มีความสามารถในการใช้โสตทัศนูปกรณ์
3. มีความสามารถในการพูด ฟัง เขียน ภาษาอังกฤษได้
4. พิมพ์ดีดไทย อังกฤษ สัมผัสได้
5. โปรแกรม MS Office , Business plus , โปรแกรมบันทึกลายนิ้วมือ , Internet
6. ขับรถยนต์ได้และมีใบอนุญาตขับขี่
7. มีบุคลิกภาพดี
วุฒิการศึกษา (Education Background)
ปริญญาตรี สาขาการบริหารทรัพยากรมนุษย์ |
ประกาศนียบัตร/ใบรับรองทางวิชาชีพ/ใบอนุญาต (Certification/Licensing)
ประสบการณ์การทำงาน (Professional Experiences)
- ประสบการณ์ทำงานด้านค่าจ้าง/สวัสดิการ ไม่น้อยกว่า 1-2 ปี |
ความสามารถประจำตำแหน่ง (Competencies)
ความรู้ (Knowledge) |
ทักษะ (Skills) |
ความสามารถด้านความคิด/บุคลิกภาพ (Mental Abilities/Personalities) |
-ระเบียบการบริหารค่าจ้างและสวัสดิการของบริษัท -ระเบียบข้อบังคับในการทำงาน -ข้อมูลการทำงานของพนักงาน - สิทธิประโยชน์พนักงาน - ระเบียบการเบิกสวัสดิการของบริษัท - โครงสร้างของหน่วยงาน -กฎหมายแรงงาน - กฎหมายเกี่ยวกับประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน - กฏหมายเกี่ยวกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา - การประกันชีวิตและอุบัติเหตุหมู่ |
- คอมพิวเตอร์ - ภาษาอังกฤษ - โปรแกรม Payroll - การใช้เครื่องบันทึกเวลาทำงาน |
- การจัดการลำดับความสำคัญของงาน - ความละเอียดรอบคอบ - มนุษยสัมพันธ์ - การให้บริการ - การประสานงาน - การเก็บรักษาความลับ - การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า - การควบคุมอารมณ์ |
JD-AM-001 หัวหน้าแผนกธุรการ
ชื่อตำแหน่ง(ไทย) |
หัวหน้าแผนกธุรการ |
ชื่ออังกฤษ |
Administration Manager |
แผนก |
บุคคล-ธุรการ |
ฝ่าย |
บุคคล-ธุรการ |
ผู้บังคับบัญชา |
ผู้จัดการแผนกบุคคล-ธุรการ |
ระดับตำแหน่งงาน |
G4 |
วัตถุประสงค์ (Job Purpose)
รับผิดชอบการกำหนดนโยบายในการบริหารงานธุรการ งานจัดซื้อ-จัดจ้าง งานอาคารสถานที่ งานความปลอดภัย งานยานพาหนะ และงานป้องการความสูญเสีย เพื่อสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานต่างๆ |
ความรับผิดชอบหลัก (Key Responsibilities)
หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก (Key Responsibilities and Activities) |
วัตถุประสงค์หลักของงาน (Key Objectives) |
ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน (Performance Indicators) |
งานจัดซื้อ-จัดจ้าง - กำหนดแนวทางและวางแผนงานระบบงานจัดซื้อ-จัดจ้าง - ควบคุมดูแลสต๊อกวัสดุครุภัณฑ์และสินค้าสมนาคุณ - ควบคุมดูแลและตรวจสอบใบเบิกจ่ายสินค้า |
- มีการวางแผนการจัดซื้อได้พอดีกับความต้องการ - สต๊อกสินค้าถูกต้อง - เอกสารการเบิกจ่ายสินค้าถูกต้อง |
- ไม่มีสินค้าขาดสต๊อกและสินค้า Deadstock - สต๊อกสินค้าถูกต้อง 100% - เอกสารเบิกจ่ายสินค้าถูกต้อง 100% |
งานธุรการ - ตรวจสอบดูแลเรื่องการรับส่งเอกสารให้ถูกต้อง - ดูแลเรื่องความสะอาดภายในพื้นที่บริษัท - ดูแลและจัดการในส่วนงานหอพัก |
- การรับส่งเอกสารมีความถูกต้องและรวดเร็ว - ภายในพื้นที่บริษัทมีความสะอาด - เพิ่มรายได้จากหอพักและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการในส่วนงานหอพัก |
- ต้องไม่มีข้อผิดพลาดของการรับส่งเอกสาร - ข้อร้องเรียนในเรื่องความไม่สะอาด ไม่เกิน 2 ครั้ง/เดือน - ผู้เช่าห้องพักไม่น้อยกว่า 80%ของจำนวนห้องพัก |
งานซ่อมบำรุงและอาคารสถานที่ - กำหนดแนวทางการซ่อมบำรุงเครื่องจักรอุปกรณ์และอาคารสถานที่ - ควบคุมดูแลค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง |
- เครื่องจักรอุปกรณ์และอาคารสถานที่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและมีความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน - การใช้อาคารสถานที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด - มีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมในการซ่อมบำรุง |
- ดำเนินการซ่อมบำรุงทันที่ที่มีการแจ้งซ่อม - ไม่มีการเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากไม่ได้มีการซ่อมบำรุงเครื่องจักรอุปกรณ์และอาคารสถานที่ |
หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก (Key Responsibilities and Activities) |
วัตถุประสงค์หลักของงาน (Key Objectives) |
ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน (Performance Indicators) |
งานความปลอดภัย - กำหนดแนวทางในการบริหารงานด้านความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน - ควบคุมและตรวจสอบการปฏิบัติงานในสถานที่ทำงานให้มีความปลอดภัย - กำหนดระเบียบการปฏิบัติงานให้เกิดความปลอดภัย |
- สถานที่ทำงานมีความปลอดภัยทั้งภายในและรอบบริเวณบริษัท - ปฏิบัติตามกฏหมายเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน |
- ต้องไม่มีอุบัติเหตุร้ายอันเนื่องจากการปฏิบัติงานจนต้องหยุดงานเกิน 3 วัน |
งานยานพาหนะ - ควบคุมดูแลและตรวจสอบการซ่อมบำรุงยานพาหนะ - ควบคุมเรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงยานพาหนะ - ควบคุมไม่ให้เกิดอุบัติเหตุจากการใช้ยานพาหนะ |
- มีการซ่อมบำรุงยานพาหนะตามแผนที่กำหนดไว้ - ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงยานพาหนะมีความเหมาะสม - ผู้ขับขี่และทรัพย์สินมีความปลอดภัย |
- ต้องดำเนินการตรวจสอบ/ซ่อมตามขั้นตอนภายในวันที่รับแจ้ง - รถเสียระหว่างการใช้งานไม่เกิน 2 ครั้ง/คัน/เดือน - ต้องไม่มีการต่อทะเบียนรถยนต์ล่าช้าภายในระยะเวลาที่กำหนด |
งานตรวจสอบเพื่อป้องกันการสูญเสีย - ควบคุมดูแลพื้นที่ภายในบริษัทไม่ให้เกิดความสูญเสียทั้งด้านทรัพย์สินและบุคลากร |
- ตรวจสอบและสอดส่องพนักงานไม่ให้ส่อไปในทางทุจริต - ติดตามและร่วมแก้ไขกรณีเกิดเหตุการณ์ทุจริตหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในบริษัท - เสนอแนะวิธีการแก้ไข หรือแนวทางที่เป็นประโยชน์เพื่อป้องกันการสูญเสีย |
- สืบสวนข้อเท็จจริงและสรุปผลให้เสร็จสิ้นภายใน 5 วัน |
การจัดการทั่วไป - บริหารบุคลากรภายใต้บังคับบัญชา - วางแผนและจัดทำงบประมาณประจำปี - เข้าร่วมกิจกรรมบริษัทฯ ตามที่ได้รับมอบหมาย - งานอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย |
- พนักงานปฏิบัติงานได้มีประสิทธิภาพ - ความแม่นยำในการวางแผนงบประมาณ - การเข้าร่วมกิจกรรม - ผลสำเร็จของงานที่ได้รับมอบหมาย |
- ความแตกต่างระหว่างค่าใช้จ่ายจริงเทียบกับงบประมาณที่กำหนดไม่เกิน 20 % - อัตราการเข้าร่วมกิจกรรมของผู้ใต้บังคับบัญชาไม่น้อยกว่า 90% |
ความยากของงาน/ความเสี่ยง/ข้อควรระวัง (Major Challenges)
- ต้องดูแลงานบริการที่หลากหลายให้กับทุกคนในบริษัทและบุคคลภายนอก โอกาสเกิดข้อร้องเรียนมีมากเพราะความต้องการแต่ละคน แต่ละหน่วยงานแตกต่างกัน ในขณะที่บริษัทมีทรัพยากรจำกัด - ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอยู่ตลอดเวลา - ยากต่อการควบคุมการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะบางงานต้องออกไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ - ต้องมีศิลปะในการสื่อสาร มอบหมายงานและติดตามงาน เพื่อลดความขัดแย้งในการปฏิบัติงาน - การดึงความรู้ความสามารถของพนักงานออกมาใช้เพื่อประโยชน์ในงานของบริษัท |
ขอบเขตงานของผู้ใต้บังคับบัญชา (Subordinate's Responsibilities)
ตำแหน่ง (Position) |
ขอบเขตงานโดยย่อ (Job Scope) |
พนักงานจัดซื้อจัดจ้าง |
จัดซื้อวัสดุสำนักงานให้เหมาะสมกับความต้องการ |
พนักงานป้องกันการสูญเสีย |
แนวทางป้องกันการทุจริตหรือสูญหายของทรัพย์สินบริษัท |
พนักงานซ่อมบำรุงอาคารสถานที่ |
อำนวยความสะดวกด้านการจัดอาคารสถานที่และการซ่อมแซมต่างๆ |
พนักงานธุรการ |
รับผิดชอบด้านเอกสาร การรับส่ง และการอำนวยความสะดวกต่างๆ |
พนักงานธุรการยานยนต์ |
รับผิดชอบด้านการดูแล บำรุงรักษา การจัดตารางการใช้งานยานยนต์ |
อำนาจดำเนินการ (Financial Responsibilities/Authorization)
เรื่อง (Item) |
ระดับอำนาจอนุมัติ (Amount/Authorized level) |
||
อนุมัติได้เอง (Own Decision) |
ต้องขอคำแนะนำ (Consulted by Superior) |
นำเสนอผู้บังคับบัญชา (Superior Approval) |
|
อนุมัติเบิกจ่าย ครุภัณฑ์ |
/ |
||
อนุมัติขอใช้รถยนต์บริการ |
/ |
||
อนุมัติค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมต่างๆ |
/ |
การทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น (Working Relationship)
หน่วยงาน/ตำแหน่งงานที่ติดต่อ |
เรื่องที่ต้องติดต่อ |
ความถี่ |
ทุกหน่วยงาน |
ประสานงานแก้ไขปัญหาในงานธุรการ |
ไม่แน่นอน |
ฝ่ายบัญชีและการเงิน |
เบิกจ่ายค่าใช้จ่าย |
ทุกสัปดาห์ |
ให้บริการบุคคลภายนอก |
เจรจาเงื่อนไขการให้บริการ ประสานงานแก้ไขปัญหา |
ไม่แน่นอน |
คุณสมบัติประจำตำแหน่ง (Job Specifications)
วุฒิการศึกษา (Education Background)
ระดับปริญญาตรี ไม่จำกัดสาขา |
ประกาศนียบัตร/ใบรับรองทางวิชาชีพ/ใบอนุญาต (Certification/Licensing)
ประสบการณ์การทำงาน (Professional Experiences
-ประสบการณ์ด้านการบริหารธุรการ ไม่น้อยกว่า 10 ปี |
ความสามารถประจำตำแหน่ง (Competencies)
ความรู้ (Knowledge) |
ทักษะ (Skills) |
ความสามารถด้านความคิด/บุคลิกภาพ (Mental Abilities/Personalities) |
- ลักษณะการดำเนินธุรกิจของบริษัท - โครงสร้างการบริหารงาน - แผนผังของอาคารสถานที่ - ความรู้เกี่ยวกับการบริหารอาคาร ยานพาหนะ - กฎหมายที่เกี่ยวข้อง - ระเบียบการติดต่อราชการ |
- คอมพิวเตอร์ - ภาษาอังกฤษ - สามารถขับรถยนต์ได้พร้อมมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ |
- การวางแผน - การตัดสินใจแก้ไขปัญหา - การประสานงาน - ภาวะผู้นำ - มนุษยสัมพันธ์ - การควบคุมอารมณ์ - มีทัศนะคติเชิงบวก |
คุณสมบัติอื่น ๆ (Others)
สามารถปฏิบัติงานนอกเวลาทำงานปกติได้ และสามารถปฏิบัติงานได้ทั้งในและนอกสถานที่ |
JD-AM-002 ธุรการบุคคล
ชื่อตำแหน่ง(ไทย) |
พนักงานธุรการบุคคล |
ชื่อตำแหน่ง(อังกฤษ) |
Human Resource Admin |
แผนก |
บุคคล-ธุรการ |
ฝ่าย |
บุคคล-ธุรการ |
ผู้บังคับบัญชา |
หน.แผนกธุรการ |
ระดับตำแหน่งงาน |
G3 |
วัตถุประสงค์ของตำแหน่งงาน (Job Purpose)
- เพื่อให้ระบบการสื่อสารภายใน และภายนอกมีประสิทธิภาพตรงตามวัตถุประสงค์ของงานนั้น - รับผิดชอบในการรับ-ต่อโทรศัพท์ ต้อนรับแขกของบริษัท และรับส่งโทรสาร เพื่อให้เกิดความสะดวกในการติดต่องานของหน่วยงานต่างๆ - รับผิดชอบการรับส่งเอกสารระหว่างบริษัทกับหน่วยงานภายนอก เพื่อให้ได้รับเอกสารที่ถูกต้อง ครบถ้วนและทันเวลา - ดูแลและควบคุมการทำความสะอาดและความเรียบร้อยของส่วนงานแม่บ้าน - ดูแลความเรียบร้อยของสำนักงานและห้องประชุม |
ความรับผิดชอบหลัก (Key Responsibilities)
หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก (Key Responsibilities and Activities) |
วัตถุประสงค์หลักของงาน (Key Objectives) |
ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน (Performance Indicators) |
- รับงานจากพนักงานเดินเอกสารหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - ทำการแยกประเภทเอกสารหรือจดหมาย - คัดแยกจดหมายหรือพัสดุที่รับมาจากไปรษณีย์ - ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับเอกสาร - จัดทำรายงานผลการรับส่งเอกสารประจำวันลงทะเบียน รับ-ส่ง - วางแผนการเดินทาง |
- รับส่งเอกสารได้ถูกต้อง ครบถ้วน - รับส่งเอกสารได้ทันตามเวลา - ผู้รับ-ส่ง เอกสารเกิดความพึงพอใจ - เอกสารสมบูรณ์ - เอกสารไม่สูญหาย/เสียหาย |
- ส่งเอกสารได้ทันเวลา 100% - เอกสารไม่สูญหาย 100% |
ดูแลแม่บ้าน - ตรวจสอบการทำงานของแม่บ้าน - ควบคุมการทำงานของแม่บ้าน - การจัดเตรียมห้องประชุมให้พร้อมใช้งาน |
- ตรวจสอบความสะอาดและความเรียบร้อย - การจัดห้องประชุมให้พร้อมใช้งานและทันเวลา |
- จำนวนครั้งที่พบเจอการทำความสะอาดของแม่บ้านไม่เรียบร้อย ไม่เกิน 2 ครั้ง/เดือน - จำนวนครั้งที่จัดห้องประชุมไม่เสร็จทันตามเวลาที่กำหนดไม่เกิน 1 ครั้ง/เดือน |
หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก (Key Responsibilities and Activities) |
วัตถุประสงค์หลักของงาน (Key Objectives) |
ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน (Performance Indicators) |
ตู้ล๊อกเกอร์ - จัดทำทะเบียนตู้ล๊อกเกอร์ |
- จัดทำทะเบียนตู้ล็อคเกอร์ให้เป็นปัจจุบัน - การรับ-จ่าย กุญแจตู้ล๊อกเกอร์ - การตรวจสอบสภาพตู้ล็อกเกอร์ ว่างให้พร้อมใช้งาน |
- ทะเบียนตู้ล็อคเกอร์ต้องถูกต้อง 100% - จัดตู้ล็อกเกอร์ได้เพียงพอกับความต้องการ |
ความยากของงาน/ความเสี่ยง/ข้อควรระวัง (Major Challenges)
- ต้องรับ-ส่ง เอกสารจำนวนมากและหลายประเภท อาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้ - มักมีงานด่วนแทรกเสมอ ทำให้การทำงานไม่เป็นไปตามแผน - ต้องมีความคล่องตัวและรวดเร็วในการปฏิบัติงาน |
ขอบเขตงานของผู้ใต้บังคับบัญชา (Subordinate's Responsibilities)
ตำแหน่ง (Position) |
ขอบเขตงานโดยย่อ (Job Scope) |
พนักงานทำความสะอาด (คู่สัญญา) |
ดูแลตรวจสอบการทำความสะอาดของพนักงานทำความสะอาด |
อำนาจดำเนินการ (Financial Responsibilities/Authorization)
เรื่อง (Item) |
ระดับอำนาจอนุมัติ (Amount/Authorized level) |
||
อนุมัติได้เอง (Own Decision) |
ต้องขอคำแนะนำ (Consulted by Superior) |
นำเสนอผู้บังคับบัญชา (Superior Approval) |
|
การทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น (Working Relationship)
หน่วยงาน/ตำแหน่งงานที่ติดต่อ |
เรื่องที่ต้องติดต่อ |
ความถี่ |
ไปรษณีย์ |
รับ-ส่งเอกสาร |
ทุกวัน |
ฝ่ายสินเชื่อ การเงิน บัญชี |
รับ-ส่งเอกสารทางบัญชี และเอกสารทางการเงิน |
ทุกวัน |
หน่วยงานภายนอก/ลูกค้า |
รับ-ส่งเอกสาร งานบริการทำความสะอาด เอกสารสัญญาเช่าหอพัก |
ทุกวัน |
แผนกพัฒนาระบบ |
รวบรวมและนำส่งข้อมูล KPI ของแผนกบุคคล-ธุรการ |
เดือนละครั้ง |
ทุกแผนก |
รับ-ส่งเอกสาร และประสานงาน |
ทุกวัน |
คุณสมบัติประจำตำแหน่ง (Job Specifications)
- มีความคล่องตัวในการทำงาน
- มีความสามารถในการประสานงานที่ดี
- สามารถขับรถยนต์ได้และมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์
วุฒิการศึกษา (Education Background)
ระดับ ปวส.- ปริญญาตรี สาขา การจัดการ , การบริหารธุรกิจ , สาขาการบริหารทรัพยากรมนุษย์ หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง |
ประกาศนียบัตร/ใบรับรองทางวิชาชีพ/ใบอนุญาต (Certification/Licensing)
ประสบการณ์การทำงาน (Professional Experiences)
- ต้องมีประสบการณ์ในการทำงานด้านธุรการอย่างน้อย 2 ปี |
ความสามารถประจำตำแหน่ง (Competencies)
ความรู้ (Knowledge) |
ทักษะ (Skills) |
ความสามารถด้านความคิด/บุคลิกภาพ (Mental Abilities/Personalities) |
- ขั้นตอนการรับ-ส่งเอกสาร - ประเภทและลักษณะของเอกสาร - ขั้นตอนการติดต่อประสานงาน - ชื่อหน่วยงานและชื่อพนักงานในแต่ละหน่วยงาน - ระเบียบขั้นตอนการรับโทรศัพท์ |
- ขับรถยนต์ได้ - ทักษะด้านภาษาอังกฤษในการสื่อสารเบื้องต้น |
- การวางแผนการเดินทาง - การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า - การให้บริการ - ความละเอียดรอบคอบ - การจัดลำดับความสำคัญของงาน - มีมนุษยสัมพันธ์ดี |
ความรู้ (Knowledge) |
ทักษะ (Skills) |
ความสามารถด้านความคิด/บุคลิกภาพ (Mental Abilities/Personalities) |
- ข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ - สัญญาเช่าและระเบียบการเช่าหอพัก |
- สามารถปฏิบัติงานภายใต้สภาวะกดดันได้ดี |
JD-SE-001 เลขานุการ
ชื่อตำแหน่ง(ไทย) |
เลขานุการ |
ชื่อตำแหน่ง(อังกฤษ) |
Secretary |
แผนก |
บุคคล |
ฝ่าย |
บุคคล |
ผู้บังคับบัญชา |
กรรมการผู้จัดการ |
ระดับตำแหน่งงาน |
G3 |
วัตถุประสงค์ของตำแหน่งงาน (Job Purpose)
เพื่อติดต่อประสานงานกับแผนกต่างๆ บุคคลภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับดูแลเอกสาร จัดเก็บเอกสารต่างๆ ของผู้บริหารอย่างถูกต้อง |
ความรับผิดชอบหลัก (Key Responsibilities)
หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก (Key Responsibilities and Activities) |
วัตถุประสงค์หลักของงาน (Key Objectives) |
ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน (Performance Indicators) |
การจัดประชุม - นัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอก - ติดตามประสานงานเรื่องสถานที่และเวลา - บันทึกแจ้งผู้ที่เกี่ยวข้อง - จัดเตรียมรายละเอียดการประชุม - บันทึกและจัดทำรายงานการประชุม |
- ความถูกต้องของเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการประชุม - ประชุมได้ตรงตามกำหนด - ผู้เข้าร่วมประชุมครบ - ไม่มีปัญหาติดขัดในการประชุม |
- จำนวนครั้งที่มีการแก้ไขจากผู้บังคับบัญชา - จำนวนครั้งที่มีการท้วงติงจากหน่วยงานที่ติดต่อ - จำนวนครั้งที่เอกสารผิดพลาด - %งานที่ติดต่อล่าช้า |
จดหมายผู้บริหาร - จัดทำทะเบียนจดหมายเข้าออกลงรับเพื่อนำเสนอผู้บริหาร - นำจดหมายจัดเก็บเข้าแฟ้มเมื่อผู้บริหารรับทราบแล้ว - การโต้ตอบจดหมายกับบุคคลและหน่วยงานภายในภายนอก - การจัดทำบันทึกภายใน |
- ผู้บริหารรับทราบข่าวสารครบถ้วน ถูกต้อง ตรงเวลา - การจัดเก็บเอกสารผู้บริหารได้อย่างถูกต้อง |
- จำนวนครั้งที่ส่งเอกสารล่าช้า - จำนวนครั้งที่จัดเก็บเอกสารผิดพลาด - จำนวนครั้งที่หาเอกสารไม่เจอ/สูญหาย |
การนัดหมายของผู้บริหาร - เช็คตารางนัดหมาย - บันทึกหมายลงตารางนัดหมาย - ส่งเมลล์แจ้งตารางนัดหมาย - แจ้งผู้บริหารก่อนวันนัดหมาย |
- ติดตามและจดจำตารางนัดหมายผู้บริหาร - แจ้งเตือนวันนัดหมายให้ผู้บริหารรับทราบ |
- จำวนครั้งที่แจ้งตารางนัดหมายผิดพลาด - จำนวนครั้งที่ลืมแจ้งเตือนก่อนวันนัดหมาย |
หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก (Key Responsibilities and Activities) |
วัตถุประสงค์หลักของงาน (Key Objectives) |
ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน (Performance Indicators) |
การเดินทางของผู้บริหาร - ประสานเรื่องการเดินทาง - ประสานเรื่องที่พัก - จองตั๋วการเดินทางตามตารางนัดหมาย กรณีต้องเดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ |
- การเดินทางอย่างราบรื่นและเป็นไปตามกำหนดการ |
- จำวนครั้งที่จองตั๋วการเดินทางผิดพลาด |
งานประสานงานและงานต้อนรับ - รับงานจากผู้บังคับบัญชา - ติดต่อประสานงานกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอก - อำนวยความสะดวกระหว่างผู้บังคับบัญชากับบุคคลที่เกี่ยวข้อง |
- ความถูกต้องของเอกสาร - ความชัดเจนของการสื่อสาร - ทันเวลา - ความพึงพอใจของบุคคลที่เกี่ยวข้อง - ประหยัดค่าใช้จ่าย |
- จำนวนครั้งที่ประสานงานผิดพลาด - จำนวนข้อร้องเรียนจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง - จำนวนครั้งที่ประสานงานไม่ทันเวลา |
งานเอกสาร - รับโทรศัพท์ - จัดแฟ้มเอกสาร - พิมพ์งาน - ค้นหาเอกสารทำลายเอกสาร - รับส่งเอกสารกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง |
- ความถูกต้องของเอกสาร - ทันเวลา - ความพึงพอใจของบุคคลที่เกี่ยวข้อง |
- จำนวนครั้งเอกสารผิดพลาด - จำนวนครั้งที่เอกสารสูญหาย - จำนวนครั้งที่ส่งเอกสารผิด - จำนวนครั้งที่ส่งเอกสารล่าช้า - จำนวนครั้งที่มีการร้องเรียน |
งานอื่น ๆ - งานอื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บริหาร |
- ดำเนินการเรียบร้อย ถูกต้อง ตรงเวลา - ความพึงพอใจของผู้บริหาร |
ความยากของงาน/ความเสี่ยง/ข้อควรระวัง (Major Challenges)
- ต้องทำงานกับผู้บริหารระดับสูงทั้งภายในและภายนอก - ต้องทำงานที่เป็นเรื่องสำคัญและเป็นความลับขององค์กร/ผู้บริหาร - ความผิดพลาดอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรได้ |
ขอบเขตงานของผู้ใต้บังคับบัญชา (Subordinate's Responsibilities)
ตำแหน่ง (Position) |
ขอบเขตงานโดยย่อ (Job Scope) |
อำนาจดำเนินการ (Financial Responsibilities/Authorization)
เรื่อง (Item) |
ระดับอำนาจอนุมัติ (Amount/Authorized level) |
||
อนุมัติได้เอง (Own Decision) |
ต้องขอคำแนะนำ (Consulted by Superior) |
นำเสนอผู้บังคับบัญชา (Superior Approval) |
|
การขอตั้งเบิกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ |
/ |
||
การทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น (Working Relationship)
หน่วยงาน/ตำแหน่งงานที่ติดต่อ |
เรื่องที่ต้องติดต่อ |
ความถี่ |
กรรมการผู้จัดการ |
การแจ้งตารางนัดหมาย |
ทุกวัน |
หน่วยงานภายใน |
ประสานงาน ติดตามงาน/ข้อมูล |
ทุกวัน |
บุคคลภายนอก |
ประสานงานนัดหมาย/เลี้ยงรับรอง |
ไม่แน่นอน |
คุณสมบัติประจำตำแหน่ง (Job Specifications)
วุฒิการศึกษา (Education Background)
ปริญญาตรีการบริหารธุรกิจ สาขาเลขานุการ / การจัดการ |
ประกาศนียบัตร/ใบรับรองทางวิชาชีพ/ใบอนุญาต (Certification/Licensing)
ประสบการณ์การทำงาน (Professional Experiences)
มีประสบการณ์ในการทำงานด้านเลขานุการไม่น้อยกว่า 3 ปี |
ความสามารถประจำตำแหน่ง (Competencies)
ความรู้ (Knowledge) |
ทักษะ (Skills) |
ความสามารถด้านความคิด/บุคลิกภาพ (Mental Abilities/Personalities) |
- กฎระเบียบบริษัท - การดำเนินงานของบริษัท - ผังการบริหารงาน - การประชุมบอร์ดบริหาร |
- คอมพิวเตอร์ - ภาษาอังกฤษ - การบันทึกรายงานการประชุม |
- การประสานงาน - ความละเอียดรอบคอบ - มนุษยสัมพันธ์ - การติดตามงาน - การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า - การเจรจาต่อรอง - ความคิดสร้างสรรค์ - บุคลิกภาพคล่องแคล่ว - การสื่อสาร |
คุณสมบัติอื่น ๆ (Others)
- มีความรับผิดชอบ - มีความซื่อสัตย์ - มีความตรงต่อเวลา - สามารถทำงานภายใต้สภาวะกดดันได้ |
JD-AM-003 หัวหน้าแผนกอาคารสถานที่
ชื่อตำแหน่ง(ไทย) |
หัวหน้าแผนกอาคารสถานที่ |
ชื่ออังกฤษ |
Head of Facilities Department |
แผนก |
บุคคล-ธุรการ |
ฝ่าย |
บุคคล-ธุรการ |
ผู้บังคับบัญชา |
ผู้จัดการแผนกบุคคล-ธุรการ |
ระดับตำแหน่งงาน | G4 |
วัตถุประสงค์ (Job Purpose)
รับผิดชอบการกำหนดนโยบายในการบริหารงานอาคารสถานที่ งานซ่อมแซม ปรับปรุง ภายในบริษัทฯ งานป้องการความสูญเสีย เพื่อสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานต่างๆ รวมถึงดูแลงานสวนและการทำเกษตรต่างๆ ให้เป็นไปตามเป้ามายที่กำหนด |
ความรับผิดชอบหลัก (Key Responsibilities)
หน้าที่หลัก/กิจกรรมหลัก(Key Responsibilities and Activities) | วัตถุประสงค์หลักของงาน(Key Objectives) | ตัวชี้วัดผลงานของตำแหน่งงาน(Performance Indicators) |
1. งานซ่อมบำรุงและอาคารสถานที่ - กำหนดแนวทางการซ่อมบำรุงเครื่องจักรอุปกรณ์และอาคารสถานที่ - ควบคุมดูแลค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง |
- เครื่องจักรอุปกรณ์และอาคารสถานที่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและมีความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน - การใช้อาคารสถานที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด - มีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมในการซ่อมบำรุง |
- ดำเนินการซ่อมบำรุงทันที่ที่มีการแจ้งซ่อม - ไม่มีการเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากไม่ได้มีการซ่อมบำรุงเครื่องจักรอุปกรณ์และอาคารสถานที่ |
2. งานความปลอดภัย - กำหนดแนวทางในการบริหารงานด้านความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน - ควบคุมและตรวจสอบการปฏิบัติงานในสถานที่ทำงานให้มีความปลอดภัย - กำหนดระเบียบการปฏิบัติงานให้เกิดความปลอดภัย |
- สถานที่ทำงานมีความปลอดภัยทั้งภายในและรอบบริเวณบริษัทฯ - ปฏิบัติตามกฏหมายเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน |
- ต้องไม่มีอุบัติเหตุร้ายอันเนื่องจากการปฏิบัติงานจนต้องหยุดงานเกิน 3 วัน |
3. งานตรวจสอบเพื่อป้องกันการสูญเสีย - ควบคุมดูแลพื้นที่ภายในบริษัทไม่ให้เกิดความสูญเสียทั้งด้านทรัพย์สินและบุคลากร |
- ตรวจสอบและสอดส่องพนักงานไม่ให้ส่อไปในทางทุจริต - ติดตามและร่วมแก้ไขกรณีเกิดเหตุการณ์ทุจริตหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในบริษัท - เสนอแนะวิธีการแก้ไข หรือแนวทางที่เป็นประโยชน์เพื่อป้องกันการสูญเสีย |
- สืบสวนข้อเท็จจริงและสรุปผลให้เสร็จสิ้นภายใน 5 วัน |
4. งานพ่อบ้านและคนสวน - ควบคุมการทำงานของคนสวนและงานเกษตร |
|
- ผลผลิตเป็นไปตามเป้าหมาย |
5. การจัดการทั่วไป - บริหารบุคลากรภายใต้บังคับบัญชา - วางแผนและจัดทำงบประมาณประจำปี - เข้าร่วมกิจกรรมบริษัทฯ ตามที่ได้รับมอบหมาย - งานอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย |
- พนักงานปฏิบัติงานได้มีประสิทธิภาพ - ความแม่นยำในการวางแผนงบประมาณ - การเข้าร่วมกิจกรรม - ผลสำเร็จของงานที่ได้รับมอบหมาย |
- ความแตกต่างระหว่างค่าใช้จ่ายจริงเทียบกับงบประมาณที่กำหนดไม่เกิน 20 % - อัตราการเข้าร่วมกิจกรรมของผู้ใต้บังคับบัญชาไม่น้อยกว่า 90% |
ความยากของงาน/ความเสี่ยง/ข้อควรระวัง (Major Challenges)
- ต้องดูแลงานบริการที่หลากหลายให้กับทุกคนในบริษัทฯ และบุคคลภายนอก โอกาสเกิดข้อร้องเรียนมีมากเพราะความต้องการแต่ละคน แต่ละหน่วยงานแตกต่างกัน ในขณะที่บริษัทฯ มีทรัพยากรจำกัด - ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอยู่ตลอดเวลา - ยากต่อการควบคุมการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะบางงานต้องออกไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ - ต้องมีศิลปะในการสื่อสาร มอบหมายงานและติดตามงาน เพื่อลดความขัดแย้งในการปฏิบัติงาน - การดึงความรู้ความสามารถของพนักงานออกมาใช้เพื่อประโยชน์ในงานของบริษัท |
ขอบเขตงานของผู้ใต้บังคับบัญชา (Subordinate's Responsibilities)
ตำแหน่ง (Position) | ขอบเขตงานโดยย่อ (Job Scope) |
พนักงานป้องกันการสูญเสีย | แนวทางป้องกันการทุจริตหรือสูญหายของทรัพย์สินบริษัท |
พนักงานซ่อมบำรุงอาคารสถานที่ | อำนวยความสะดวกด้านการจัดอาคารสถานที่และการซ่อมแซมต่างๆ |
พนักงานคนสวน | ดูแลบำรุงรักษาไม้ดอกไม้ประดับภายในบริษัทฯ และงานสวนเกษตร |
อำนาจดำเนินการ (Financial Responsibilities/Authorization)
เรื่อง (Item) | ระดับอำนาจอนุมัติ (Amount/Authorized level) | ||
อนุมัติได้เอง(Own Decision) | ต้องขอคำแนะนำ(Consulted by Superior) | นำเสนอผู้บังคับบัญชา(Superior Approval) | |
อนุมัติค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมต่างๆ | / |
การทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น (Working Relationship)
หน่วยงาน/ตำแหน่งงานที่ติดต่อ | เรื่องที่ต้องติดต่อ | ความถี่ |
ทุกหน่วยงาน | ประสานงานแก้ไขปัญหาในงานธุรการ | ไม่แน่นอน |
ฝ่ายบัญชีและการเงิน | เบิกจ่ายค่าใช้จ่าย | ทุกสัปดาห์ |
ให้บริการบุคคลภายนอก | เจรจาเงื่อนไขการให้บริการประสานงานแก้ไขปัญหา | ไม่แน่นอน |
คุณสมบัติประจำตำแหน่ง (Job Specifications)
วุฒิการศึกษา (Education Background)
ระดับปริญญาตรี ไม่จำกัดสาขา |
ประกาศนียบัตร/ใบรับรองทางวิชาชีพ/ใบอนุญาต (Certification/Licensing)
ประสบการณ์การทำงาน (Professional Experiences
-ประสบการณ์ด้านการบริหารธุรการ ไม่น้อยกว่า 10 ปี |
ความสามารถประจำตำแหน่ง (Competencies)
ความรู้(Knowledge) | ทักษะ(Skills) | ความสามารถด้านความคิด/บุคลิกภาพ(Mental Abilities/Personalities) |
- ลักษณะการดำเนินธุรกิจของบริษัท - โครงสร้างการบริหารงาน - แผนผังของอาคารสถานที่ - กฎหมายที่เกี่ยวข้อง - ระเบียบการติดต่อราชการ |
- คอมพิวเตอร์- ภาษาอังกฤษ - สามารถขับรถยนต์ได้พร้อมมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ |
- การวางแผน - การตัดสินใจแก้ไขปัญหา - การประสานงาน - ภาวะผู้นำ - มนุษยสัมพันธ์ - การควบคุมอารมณ์ - มีทัศนะคติเชิงบวก |
คุณสมบัติอื่น ๆ (Others)
สามารถปฏิบัติงานนอกเวลาทำงานปกติได้ และสามารถปฏิบัติงานได้ทั้งในและนอกสถานที่ |
งานสรรหา
WI-HR-001 การสรรหาพนักงาน
1. วัตถุประสงค์
เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติให้กับพนักงานสรรหาได้ถือปฏิบัติในการสรรหาคัดเลือกพนักงานได้ตรงตามความต้องการของหน่วยงานและองค์กร
2. ขอบข่าย
ครอบคลุมการสรรหาคัดเลือกพนักงานทุกตำแหน่งงานของบริษัท
3. คำจำกัดความ
หัวหน้างาน หมายถึง หัวหน้าแผนก, ผู้จัดการส่วน, Section Manager, Service Division, Sale Division
สื่อ หมายถึง ใบแจ้งตำแหน่งงานว่าง, หนังสือพิมพ์, ประกาศป้ายหน้าบริษัท
4. หน้าที่และความรับผิดชอบ
4.1 ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารกลาง
- เป็นผู้อนุมัติการขอพนักงานเพิ่ม กรณีเพิ่มตำแหน่งงาน
- เป็นผู้อนุมัติรับพนักงานเข้าทำงาน
- เป็นผู้อนุมัติบรรจุพนักงาน
4.2 ผู้จัดการส่วนบุคคล
- เป็นผู้พิจารณาใบขออนุมัติรับพนักงาน
- เป็นผู้เลือกสื่อที่ใช้ในการลงประกาศรับสมัครงาน
- เป็นผู้สัมภาษณ์ผู้สมัครงานรอบ 2
4.3 หัวหน้างาน
- ดำเนินการขอเพิ่มพนักงาน
- เป็นผู้สัมภาษณ์และประเมินการสัมภาษณ์ของผู้สมัครงานรอบ 2
- เป็นผู้ประเมินผลทดลองงาน และประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปี
4.4 พนักงานสรรหา
- จัดทำสื่อ
- ตรวจสอบเอกสารใบสมัครงาน
- เป็นผู้สัมภาษณ์เบื้องต้น
- จัดเก็บเอกสารผู้ไม่ผ่านการพิจารณา
- แจกใบประเมินผลทดลองงานพร้อมจัดเก็บ
- จัดทำแบบฟอร์มเสนอบรรจุพนักงาน
4.5 พนักงานสวัสดิการค่าจ้าง
- รับพนักงานใหม่ ชี้แจงกฎข้อบังคับในการทำงาน
- จัดทำสัญญาจ้างต่าง ๆ
- แจกแบบฟอร์มการประเมินผลการปฏิบัติงาน
- พนักงานทั่วไปพร้อมเก็บรวบรวมข้อมูลและสรุปผล
5. เอกสารอ้างอิง
ใบเสนอราคาสื่อพิมพ์ต่าง ๆ
- ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
กระบวนการ เอกสารที่เกี่ยวข้อง
6.1. การขออนุมัติรับพนักงาน
6.1.1. กรณีรับทดแทน/รับเพิ่ม หัวหน้างานนำแบบฟอร์ม FM-HR-001 ใบขออนุมัติรับพนักงาน กรอก
รายละเอียดและนำส่งผู้จัดการส่วนบุคคล เพื่อนำเสนอขออนุมัติต่อผู้อำนวยการฝ่ายบริหารกลาง
6.1.2. กรณีไม่อนุมัติรับพนักงานเพิ่ม ให้พนักงานสรรหาแจ้งหัวหน้างาน และลงบันทึกเหตุผลในใบขอ
อนุมัติรับพนักงาน และจัดเก็บเอกสาร
6.2. เมื่อได้รับการอนุมัติรับพนักงานจากผู้อำนวยการฝ่ายบริหารกลาง พนักงานสรรหาจัดทำสื่อต่าง ๆ เพื่อนำเสนอให้ผู้จัดการส่วนบุคคลคัดเลือกสื่อลงประกาศ
6.2.1 ขั้นตอนการรับสมัครงาน
- พนักงานสรรหานำใบสมัครงาน (ประจำ,ลูกจ้างชั่วคราว) ให้บุคลากรภายนอกที่เข้ามาติดต่อ
สมัครงานกรอกรายละเอียดให้ครบถ้วนพร้อมตรวจสอบหลักฐานการสมัครงานให้ถูกต้องครบถ้วน และสัมภาษณ์เบื้องต้นโดยสอบถามข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับประวัติของผู้สมัครงาน และคุณสมบัติลักษณะพิเศษที่ตรงกับตำแหน่งงานที่รับตาม Job Description
- กรณีที่มีการทดสอบความสามารถเฉพาะด้าน หรือ ทดลองงานในบางตำแหน่งงานให้หัวหน้า
งานเป็นผู้ประเมินผลลงแบบฟอร์ม FM-HR-002 แบบประเมินความสามารถเฉพาะด้าน และพนักงานสรรหาเป็นผู้เก็บรวบรวมผลประเมินเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในการสัมภาษณ์ขั้นต่อไป
- กรณีที่ไม่ผ่านการคัดเลือก เอกสารนำเก็บและดำเนินการรับสมัครคัดเลือกใหม่
- กรณีที่ผ่านการคัดเลือก มีการสัมภาษณ์รอบที่สอง โดยมีหัวหน้างาน ผู้จัดการส่วนบุคคลเป็น
ผู้สัมภาษณ์พนักงานในระดับปฏิบัติงานและผู้อำนวยการฝ่ายบริหารกลางจะเป็นผู้สัมภาษณ์พนักงานในระดับหัวหน้างานซึ่งทุกครั้งจะมีการประเมินผลการสัมภาษณ์ของผู้สมัครงานลงใน FM-HR-004 ใบประเมินผลการสัมภาษณ์ผู้สมัครงาน
กรณีที่ไม่ผ่าน การคัดเลือก เอกสารนำเก็บ
กรณีที่ผ่านการคัดเลือกตกลงรับเข้าทำงาน ผู้จัดการส่วนบุคคลเป็นผู้กำหนดวันเริ่มงานและมอบ
หมายให้พนักงานสรรหาเป็นผู้แจ้งรายละเอียดการมาเริ่มงานให้ผู้สมัครทราบ
6.2.2 ขั้นตอนการรับเข้าทำงาน พนักงานสวัสดิการค่าจ้างจัดทำสัญญาจ้าง ดังนี้
FM-HR-019 สัญญาจ้างพนักงานรายวัน สำหรับพนักงานรายวัน
FM-HR-017 สัญญาจ้างทดลองงาน สำหรับพนักงานรายเดือน โดยมีกำหนดระยะเวลาทดลองงาน
4 เดือน/ 120 วัน
และชี้แจงกฎระเบียบข้อบังคับในการทำงานให้พนักงานใหม่ทราบ พร้อมทั้งแจกคู่มือการปฏิบัติงาน ดำเนินการมอบหมายให้พนักงานธุรการแจกชุดยูนิฟอร์ม, กุญแจตู้ล็อคเกอร์ (ถ้ามี) และดำเนินการให้พนักงานสรรหาถ่ายรูปทำบัตรพนักงาน พนักงานสวัสดิการค่าจ้างพาพนักงานใหม่แนะนำให้เพื่อนพนักงานในบริษัทรู้จัก
เมื่อมีการรับพนักงานใหม่ในบางตำแหน่งงานต้องมีการเวียนงานตามโปรแกรมเวียนงานที่ทางส่วนงานบุคคลได้จัดทำขึ้นตามนโยบายบริษัทฯ โดยพนักงานสรรหาจะเป็นผู้ประสานงานกับทางแผนกต่าง ๆ ที่ต้องเข้าไปเวียนงาน
6.2.3 การประเมินผลพนักงานช่วงทดลองงาน
พนักงานสรรหาเป็นผู้นำแบบฟอร์ม FM-HR-015 แบบประเมินผลการปฏิบัติงานพนักงานทดลอง
งาน 1-2 ให้หัวหน้างานเป็นผู้ประเมินทุกเดือน ในทุกเดือนให้หัวหน้างานพิจารณาจะมีการต่อทดลองงานหรือไม่
ไม่ต่อทดลองงาน พนักงานสรรหานำผลแจ้งผู้จัดการส่วนบุคคล เพื่อดำเนินการแจ้งพนักงานเลิกจ้าง
ต่อทดลองงาน พนักงานสรรหานำผลประเมินกลับเป็นผู้สรุปคะแนนเพื่อ ดำเนินการนำแบบฟอร์ม
FM-HR-016 แบบประเมินผลการปฏิบัติงานพนักงานทดลองงาน 3 ให้หัวหน้างานเมื่ออายุงานครบ 3 เดือนให้หัวหน้างานพิจารณาเห็นควรบรรจุหรือไม่ เมื่อได้ผลการประเมินผลทดลองครบทุกชุดพนักงานสรรหาจะนำผลที่ได้มาคำนวณและทำการสรุปคะแนน กรอกรายละเอียดลงบน FM-HR-020 แบบฟอร์มเสนอบรรจุพนักงาน เพื่อนำเสนอให้ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารกลางเป็นผู้พิจารณาอนุมัติ
กรณีไม่ผ่านทดลองงาน → แจ้งเลิกจ้าง
กรณีผ่านทดลองงาน → พนักงานสวัสดิการค่าจ้างจัดทำ FM-HR-018 สัญญาจ้างเป็นพนักงานประจำ
6.2.4 การประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปี
พนักงานที่บรรจุเป็นพนักงานประจำทางบริษัท จะมีการติดตามผลการปฏิบัติในทุก ๆ ปี โดยมีการประเมินผลการปฏิบัติงานทุก 6 เดือนปีละ 2 ครั้งโดยใช้ FM-HR-023 แบบฟอร์มการประเมินผลการปฏิบัติงาน – พนักงานทั่วไป พนักงานสวัสดิการค่าจ้างเป็นผู้ดำเนินการจัดเตรียมเอกสาร ซึ่งทางหัวหน้างานจะเป็นผู้ให้คะแนนประเมิน ต่อจากนั้นพนักงานสวัสดิการค่าจ้างเป็นผู้จัดเก็บและสรุปผลการประเมินประจำปี นำเสนอให้ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารกลาง
- เอกสารที่เกี่ยวข้อง
- FM-HR-001 ใบขออนุมัติรับพนักงาน
- FM-HR-002 แบบประเมินความสามารถเฉพาะด้าน
- FM-HR-004 ใบประเมินผลการสัมภาษณ์ผู้สมัครงาน
- FM-HR-015 แบบประเมินผลการปฏิบัติงานพนักงานทดลองงาน 1-2
- FM-HR-016 แบบประเมินผลการปฏิบัติงานพนักงานทดลองงาน 3
- FM-HR-017 สัญญาจ้างทดลองงาน สำหรับพนักงานรายเดือน
- FM-HR-018 สัญญาจ้างเป็นพนักงานประจำ
- FM-HR-019 สัญญาจ้างพนักงานรายวัน สำหรับพนักงานรายวัน
- FM-HR-020 แบบฟอร์มเสนอบรรจุพนักงาน
WI-HR-002 การสัมภาษณ์งานเบื้องต้น
1. วัตถุประสงค์
เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อควบคุมมาตรฐานในการปฏิบัติงานของส่วนบุคคล-ธุรการ ในเรื่องของ “การสัมภาษณ์งานเบื้องต้น” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ PM-HR-001 การสรรหาคัดเลือกพนักงาน เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในด้านการสอบถามประวัติและข้อมูลต่างๆ ของผู้สมัครงาน.
2. ขอบข่าย
เอกสารฉบับนี้ใช้เป็นคู่มือในการสัมภาษณ์งานเบื้องต้น ในการรับสมัครพนักงานของ บริษัท นพดลพานิช จำกัด
3. หน้าที่และความรับผิดชอบ
3.1 ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารกลาง
สัมภาษณ์ผู้สมัครงานในรอบที่ 2
3.3 ผู้จัดการส่วนบุคคล
สัมภาษณ์ผู้สมัครงานในรอบที่ 2
3.4 พนักงานสรรหา
ตรวจเช็คใบสมัครงานและหลักฐานต่างๆ ให้ครบถ้วนและ สัมภาษณ์ผู้สมัครงานเบื้องต้น
4. คำจำกัดความ
4.1 ใบสมัครงาน หมายถึง ใบสมัครที่ใช้สำหรับสมัครงานในตำแหน่งของพนักงานรายเดือน
4.2 ใบสมัครงาน (ลูกจ้างชั่วคราว) หมายถึง ใบสมัครที่ใช้สำหรับสมัครงานในตำแหน่งของพนักงานรายวัน
4.3 ผู้สัมภาษณ์ หมายถึง พนักงานสรรหา
4.4 ผู้สมัครงาน หมายถึง บุคคลที่มาสมัครงานกับทางบริษัทฯ
4.5 หัวหน้างาน หมายถึง ผู้จัดการแผนกหรือหัวหน้างานของแผนกที่ต้องการรับพนักงานใหม่
5. วิธีปฏิบัติงาน
5.1 รับสมัครงาน
- ถามผู้สมัครงานว่าสมัครงานในตำแหน่งใด
- ส่งใบสมัครงานให้ถูกประเภทกับผู้สมัคร
- ตรวจเช็คใบสมัครงาน / หลักฐานต่างๆ
- ตรวจเช็คใบสมัครงานว่าผู้สมัครกรอกข้อมูลครบหรือไม่ ถ้ากรอกไม่ครบให้นำไปกรอกใหม่
- ตรวจเช็คหลักฐานที่ใช้ในการสมัครงาน ดังนี้
-
- รูปถ่าย 1 นิ้ว หรือ 2 นิ้ว 1 ใบ
- สำเนาบัตรประชาชน 1 ใบ
- สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ใบ
- สำเนาวุฒิการศึกษา 1 ฉบับ
- สำเนาใบประกาศต่างๆ (ถ้ามี)
- หนังสือรับรองการทำงาน
- สำเนาเอกสารรับรองการผ่านเกณฑ์ทหาร
ถ้าขาดหลักฐานในส่วนใด ให้ถามผู้สมัครงานว่านำมาด้วยหรือไม่
6. สัมภาษณ์ผู้สมัครงานเบื้องต้น มีหลักเกณฑ์ต่างๆ ดังนี้
6.1 การพิจารณาการแต่งกายของผู้สมัคร ควรมีข้อพิจารณา ดังนี้
- การแต่งกายของผู้สมัครงาน สุภาพ , สะอาด , เรียบร้อย , เหมาะสมหรือไม่
- กรณีผู้สมัครชายควรจะโกนหนวดเคราให้เรียบร้อยไม่พับแขนเสื้อ , กรณีผู้สมัครหญิงไม่ควรใส่กระโปรงสั้นหรือยาวจนเกินไป,ทรงผมของผู้สมัครเหมาะสมหรือไม่
- หากผู้สมัครที่ยังแต่งชุดนิสิตนักศึกษามาสัมภาษณ์ อาจแสดงถึงความไม่เตรียมพร้อมในการทำงาน
6.2 รูปแบบการสัมภาษณ์
1. การสัมภาษณ์โดยมีการกำหนดคำถามไว้ก่อนล่วงหน้า (Structured Interview) ซึ่งจะทำให้ผู้สมัครแต่ละรายได้รับคำถามในลักษณะเดียวกัน ทำให้สามารถสังเกตความแตกต่างในการตอบคำถาม การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ตลอดจนทราบรายละเอียดในเรื่องต่าง ๆ จากผู้สมัครได้เป็นแบบเดียวกัน
2. การสัมภาษณ์โดยไม่มีการกำหนดคำถามไว้ก่อน (Unstructured Interview) ใช้เพื่อทดสอบไหวพริบ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของผู้สมัคร
3. การสัมภาษณ์แบบจำลองเหตุการณ์ (Situation Interview) ใช้เพื่อให้ผู้สมัครได้แก้ไขปัญหาต่าง ๆ หรืออาจมีกรณีศึกษาเพื่อให้ผู้สมัครได้ตัดสินใจ
7. ประเภทคำถามที่ใช้ในการสัมภาษณ์
- คำถามแบบปิด (Close ended) คือคำถามที่ผู้สัมภาษณ์เจาะจงให้ผู้สมัครตอบเพียงว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” เช่น การถามว่า “ที่คุณต้องการจะเปลี่ยนงานเพราะคุณมีความขัดแย้งกับหัวหน้างานใช่หรือไม่?”
- คำถามแบบเปิด (Open ended) เป็นคำถามที่ผู้สัมภาษณ์ต้องการทราบความคิดเห็น ตลอดจนต้องการทราบทัศนคติในด้านต่าง ๆ จากผู้สมัคร เช่น คุณมีวิธีการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับเพื่อนร่วมงานในที่ทำงานใหม่ได้อย่างไร??”
- คำถามทวนให้ผู้สมัครแสดงความมั่นใจ เพื่อทดสอบว่าผู้สมัครพูดหรือมั่นใจเช่นนั้นจริง ๆ เช่น “เมื่อสักครู่คุณบอกว่าคุณต้องการจะเปลี่ยนงาน โดยไม่ได้มีสาเหตุจากความขัดแย้งในที่ทำงานใช่หรือไม่??”
- คำถามหยั่ง เป็นคำถามที่ต้องการหาเหตุผล ความเชื่อ และทัศนคติของผู้สมัคร เช่น “คุณลาออกจากงานทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้งานใหม่เลยหรือ?? ทำไมจึงทำเช่นนั้น??”
- คำถามหลัก ๆ ที่ใช้ในการสัมภาษณ์
คำถามเกี่ยวกับชีวิต และครอบครัวของผู้สมัคร เช่น
- ขอให้คุณเล่าชีวิตในวัยเด็กให้ผู้สัมภาษณ์ทราบเบื้องต้น
- บุคคลใดในครอบครัวที่คุณรัก และคิดว่ามีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของคุณ
- คุณมีเป้าหมายในชีวิตอย่างไร
คำถามเกี่ยวกับการศึกษาและกิจกรรมขณะที่เรียน
- ขอให้คุณเล่าประวัติการศึกษาให้ผู้สัมภาษณ์ทราบ
- คุณคิดว่าจะสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการศึกษามาประยุกต์ใช้ในงานได้อย่างไร
- ขณะที่เรียนอยู่ คุณทำกิจกรรมอะไรหรือไม่ ตำแหน่งใด
คำถามเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา
- ขอให้คุณเล่าประสบการณ์ทำงานตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน
- ในบรรดาที่ทำงานที่ผ่านมาคุณชอบที่ไหนมากที่สุด เพราะอะไร
- เหตุใดคุณจึงต้องการเปลี่ยนงาน
- คุณมีจุดมุ่งหมายสูงสุดในชีวิตการทำงานอย่างไร
- คุณคิดว่าผลตอบแทนเช่น เงินเดือน หรือสวัสดิการเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการพิจารณาเปลี่ยนงานหรือไม่ เพราะอะไร
คำถามเกี่ยวกับทัศนคติ และการควบคุมอารมณ์
- คุณเคยมีความคิดที่ขัดแย้งกับนโยบายของบริษัทบ้างหรือไม่ ยกตัวอย่างให้เห็นชัด
- ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่มีความก้าวหน้าในบริษัทแล้วคุณจะทำอย่างไรต่อไป
คำถามทั่วไป
- คุณคิดว่าคุณมีจุดเด่นในด้านใด
- คุณดื่มเหล้า หรือสูบบุหรี่บ้างหรือไม่ สุขภาพของคุณตอนนี้เป็นอย่างไร
- คุณมีงานอดิเรกอะไรบ้าง หรือคุณชอบเล่นกีฬาอะไร
8. ข้อควรตระหนักในการเป็นผู้สัมภาษณ์งาน
- ควรเป็นฝ่าย “ฟัง” มากกว่าเป็นฝ่าย “พูด” เพื่อที่จะได้สามารถ “อ่าน” ผู้สมัคร หรือเก็บข้อมูลจากผู้สมัครให้ได้มากที่สุดเพื่อประกอบการตัดสินใจ
- ควรหลีกเลี่ยงความลำเอียงในลักษณะ Stereo Type กล่าวคือ ความรู้สึกที่ท่านถูกชะตา หรือไม่ถูกชะตากับผู้สมัครในครั้งแรกที่พบกัน (First Impression) ให้มากที่สุด เพราะผู้สมัครอาจไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านคิด ท่านควรใช้ข้อมูลและเหตุผลในการพิจารณามากกว่าการใช้ “ความรู้สึก”
- ควรปิดท้ายการสัมภาษณ์ด้วยให้ผู้สมัครงานสอบถามสิ่งที่ยังสงสัยข้องใจ เพื่อความกระจ่างชัดในเรื่องต่าง ๆ
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
- FM-HR-004 แบบประเมินผลการสัมภาษณ์ผู้สมัคร
WI-HR-003 การประเมินผลเมื่อรับพนักงานใหม่เข้ามา
วัตถุประสงค์
เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อควบคุมมาตรฐานในการปฏิบัติงานของส่วนบุคคล-ธุรการในเรื่องของ “การประเมินผลพนักงานทดลองงาน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ การสรรหาคัดเลือกพนักงาน (PM-HR-001) เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในด้านการประเมินผลพนักงานทดลองงาน
ขอบข่าย
เอกสารฉบับนี้ เป็นวิธีการประเมินผลพนักงานทดลองงาน ของบริษัท นพดลพานิช จำกัด ที่ได้ปฏิบัติงานทดลองงานครบ 3 เดือน เพื่อประเมินผล บรรจุเป็นพนักงานประจำ
อุปกรณ์/เครื่องมือ
ไม่มี
หน้าที่และความรับผิดชอบ
ผู้จัดการส่วนบุคคล-ธุรการ
สรุปผลของแบบประเมินแล้วนำเสนอผู้บริหาร
พนักงานสรรหา
ส่งแบบประเมินและเก็บแบบประเมินจากหัวหน้างานในแต่ละเดือนจนครบ 3 เดือน
สรุปหาคะแนนเฉลี่ยจากแบบประเมินทั้ง 3 เดือน
คำจำกัดความ
แบบประเมิน หมายถึง แบบประเมินผลการปฏิบัติงานพนักงานทดลองงาน
หัวหน้างาน หมายถึง ผู้จัดการหรือหัวหน้าแผนกที่ต้องประเมินพนักงานใหม่ในแผนกของตนเอง
พนักงานทดลองงาน หมายถึง พนักงานใหม่ที่เข้าทำงานโดยที่อายุงานยังไม่ครบ 4 เดือน
เอกสารอ้างอิง
การสรรหาคัดเลือกพนักงาน (PM-HR-001)
วิธีปฏิบัติ
7.1 เขียนแบบประเมินผลการปฏิบัติงานพนักงานทดลองงาน
7.1.1 เขียน แบบประเมินผลการปฎิบัติงานพนักงานทดลองงาน 1-2 (FM-HR-015) ส่งให้หัวหน้างานสำหรับประเมินพนักงานทดลองงานในเดือนที่ 1 และ 2 ตามลำดับ
7.1.2 เก็บแบบประเมินผลการปฎิบัติงานพนักงานทดลองงาน 1-2 (FM-HR-015) จากหัวหน้างานตอนปลายเดือนที่ 1 และ 2 ตามลำดับ
7.1.3 ในแต่ละเดือนให้หัวหน้างานพิจารณาว่าสมควรต่อทดลองงานหรือไม่
ถ้าไม่ต่อทดลองงานให้พนักงานสรรหาแจ้งผลแก่ผู้จัดการส่วนบุคคลเพื่อดำเนินการแจ้งเลิกจ้างพนักงาน
ถ้าต่อทดลองงานให้เขียนแบบประเมินผลฯ แบบประเมินผลการปฎิบัติงานพนักงานทดลองงาน 3 (FM-HR-016) ส่งให้หัวหน้างานสำหรับประเมินพนักงานทดลองงานในเดือนที่ 3
7.1.4 เก็บแบบประเมินฯ แบบประเมินผลการปฎิบัติงานพนักงานทดลองงาน 3 (FM-HR-016) จากหัวหน้างานตอนปลายเดือนที่3
7.2 คิดคะแนน
7.2.1 นับคะแนนในแบบประเมินว่าได้เท่าใด แล้วนำไปคูณกับ 100 และหาร 55 เพื่อทำให้คะแนนเป็นแบบร้อยละ เช่น คะแนน (34 x 100) / 55 = 61.81 % (ถ้ามีเศษทศนิยม ให้คงเศษไว้ 2 หลัก)
7.2.2 นำคะแนนที่คิดเป็นร้อยละของผู้ประเมินทั้งหมดในเดือนนั้นๆ มาหาค่าเฉลี่ย สมมุติเดือนที่ 1 มีผู้ประเมิน 2 คน ก็ให้นำคะแนนร้อยละ ของผู้ประเมินทั้ง 2 คน มาบวกกันแล้วหาร 2 เช่น (65.12+58.68) / 2 = 61.90 %
7.3 นำคะแนนเฉลี่ยของแบบประเมินทั้ง 3 เดือนมาคิดคะแนนเฉลี่ยอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นคะแนนประเมินผลพนักงานทดลองงานที่แท้จริง สมมุติคะแนนทั้ง 3 เดือนเป็นดังนี้
เดือนที่ 1 ได้ 61.90 คะแนน
เดือนที่ 2 ได้ 66.54 คะแนน
เดือนที่ 3 ได้ 60.33 คะแนน
นำมาหาค่าเฉลี่ย (61.9+66.54+60.33) / 3 = 62.92 คะแนน
7.4 สรุปคะแนนแบบประเมินผลในแบบฟอร์มเสนอบรรจุพนักงาน แบบฟอร์มเสนอบรรจุพนักงาน (FM-HR-020) พร้อมกับข้อมูลอื่นๆ ของพนักงาน
7.5 นำแบบฟอร์มเสนอบรรจุพนักงาน แบบฟอร์มเสนอบรรจุพนักงาน (FM-HR-020) เสนอผู้จัดการฝ่ายบุคคล
8. เอกสารที่เกี่ยวข้อง
การสรรหาคัดเลือกพนักงาน (PM-HR-001)
แบบฟอร์มเสนอบรรจุพนักงาน (FM-HR-020)
แบบประเมินผลการปฎิบัติงานพนักงานทดลองงาน 1-2 (FM-HR-015)
แบบประเมินผลการปฎิบัติงานพนักงานทดลองงาน 3 (FM-HR-016)
WI-HR-004 ขั้นตอนเมื่อรับพนักงานใหม่เข้ามา
-
วัตถุประสงค์
เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อควบคุมมาตรฐานในการปฏิบัติงานของส่วนบุคคล - ธุรการ ในเรื่องของ
“การรับพนักงานใหม่” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ การสรรหาคัดเลือกพนักงาน (PM-HR-001) เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในด้านการรับพนักงานใหม่
-
ขอบข่าย
เอกสารฉบับนี้เป็นวิธีการรับพนักงานใหม่ ของบริษัท นพดลพานิช จำกัด เพื่อควบคุมมาตรฐานในการปฏิบัติงานของฝ่ายบุคคล
-
อุปกรณ์/เครื่องมือ
คอมพิวเตอร์
-
หน้าที่และความรับผิดชอบ
พนักงานสวัสดิการค่าจ้าง
-
เปิดแฟ้มประวัติพนักงานใหม่
-
ชี้แจงกฎระเบียบ และ สวัสดิการที่พนักงานได้รับ
-
แจกคู่มือพนักงาน
-
แนะนำพนักงานใหม่กับเพื่อนพนักงานทุกแผนก
-
จัดทำเอกสารทะเบียนใช้งานระบบคอมพิวเตอร์
-
บันทึกประวัติลงโปรแกรม Payroll
พนักงานสรรหา – ฝึกอบรม
-
ถ่ายรูปพนักงาน
-
จัดทำบัตรพนักงาน
พนักงานป้องกันการสูญเสีย
-
แจกอุปกรณ์ป้องกันภัยในการทำงาน
พนักงานธุรการ
-
แจกชุดฟอร์มบริษัท, กุญแจตู้ล็อคเกอร์
ผู้จัดการส่วนพัฒนาระบบ
-
เพิ่มสิทธิ์การใช้งานระบบคอมพิวเตอร์
-
คำจำกัดความ
Job Description เป็นคำบรรยายลักษณะงาน บอกถึงหน้าที่ความรับผิดชอบ และคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้น ๆ รวมถึงการขึ้นตรงกับสายการบังคับบัญชา
-
เอกสารอ้่างอิง
PM-HR-001 การสรรหาคัดเลือกพนักงาน
-
วิธีปฏิบัติงาน
7.1 เปิดแฟ้มประวัติพนักงานใหม่
พนักงานสวัสดิการค่าจ้างต้องนำประวัติพนักงานที่รับเข้ามาทำงานใหม่ เขียนชื่อ – นามสกุล ลงสมุดแฟ้มประวัติพนักงาน เพื่อเรียงลำดับรหัสพนักงาน และให้เบิกแฟ้มแขวนเพื่อนำเอกสารเก็บใส่แฟ้ม พร้อมจัดทำหัวแฟ้มโดยใส่ชื่อ – นามสกุล พร้อมตั้งรหัสพนักงาน
การตั้งรหัสพนักงานใหม่มีทั้งหมด 5 หลัก xxxxx โดยให้ 2 ตัวหน้าเป็นรหัสปีพุทธศักราชของไทย แล้วต่อด้วยเลขท้ายอีก 3 หลัก เช่น นายสมนึก บุญคง เข้ามาเริ่มงานวันที่ 14/5/50 เป็นพนักงานใหม่คนที่ 11 ของปี จะมีรหัสพนักงานดังนี้ 50011
7.2 การจัดทำสัญญาจ้าง
สำหรับพนักงานรายเดือน ให้ใช้แบบฟอร์ม สัญญาจ้างทดลองงาน (FM-HR-017) โดยพนักงานสวัสดิการค่าจ้างเป็นผู้กรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มให้ครบถ้วนแล้วให้ผู้จัดการส่วนบุคคล-ธุรการลงลายมือชื่อในช่องแทนนายจ้าง และพนักงานใหม่ลงลายมือชื่อในช่องลูกจ้าง
สำหรับพนักงานรายวัน ให้ใช้แบบฟอร์ม หนังสือสัญญาจ้างพนักงานรายวัน (FM-HR-019) โดยพนักงานสวัสดิการค่าจ้างเป็นผู้กรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มให้ครบถ้วนแล้วให้ผู้จัดการส่วนบุคคล-ธุรการลงลายมือชื่อในช่องบริษัท และพนักงานใหม่ลงลายมือชื่อในช่องพนักงาน
7.3 พนักงานสวัสดิการค่าจ้างเป็นผู้ชี้แจงกฎระเบียบ, สวัสดิการของบริษัทให้พนักงานใหม่ทราบ พร้อมทั้งบอกถึงหน้าที่ความรับผิดชอบโดยแนบเอกสาร Job Description และคู่มือพนักงาน.แจกให้พนักงานใหม่
- พนักงานธุรการดำเนินการแจกชุดฟอร์มให้กับทุกตำแหน่งงาน ส่วนกุญแจตู้ล็อกเกอร์สำหรับพนักงานในส่วนโฮมมาร์ทแม็กซ์ และบางตำแหน่งงานในส่วนสำนักงานที่จำเป็นต้องใช้
- เจ้าหน้าที่ป้องกันการสูญเสียเป็นผู้แจกอุปกรณ์ป้องกันภัย สำหรับพนักงานแผนกคลังสินค้า, จัดส่ง
- พนักงานสรรหา-ฝึกอบรมเป็นผู้ดำเนินการถ่ายรูปเพื่อทำบัตรประจำตัวพนักงาน
7.4 การแนะนำพนักงานใหม่กับเพื่อนพนักงานจะดำเนินการโดยพนักงานสวัสดิการค่าจ้าง โดยนำพนักงานใหม่เดินแนะนำที่ละแผนก ขั้นตอนต้องแนะนำกับตำแหน่งผู้จัดการ หัวหน้างานของแผนกนั้น ๆ ก่อนแล้วจึงไล่ลำดับไปที่พนักงานแต่ละคนจนครบทุกคนในแต่ละแผนก แล้วจึงส่งพนักงานใหม่ให้กับหัวหน้างาน
7.5 การจัดทำทะเบียนผู้ใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ จัดทำโดยพนักงานสวัสดิการค่าจ้าง เข้าระบบคอมพิวเตอร์ โดยมีขั้นตอนดังนี้ ไฟล์ Q:\HR\01 แบบฟอร์ม\ แบบฟอร์มงานบุคคล\ ทะเบียนผู้ใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ เมื่อเลือกไฟล์ได้ถูกต้องแล้วให้กรอกรายละเอียด รหัสพนักงาน ชื่อ-นามสกุลภาษาไทย, ภาษาอังกฤษ ตำแหน่งงาน แผนกที่สังกัด เมื่อกรอกครบถ้วนให้ออกรายงานแล้วนำส่งผู้จัดการส่วนพัฒนาระบบ เพื่อเพิ่มสิทธิการใช้งานในระบบคอมพิวเตอร์ เอกสารตามรูปภาพข้างล่าง
5.1 แบบฟอร์มทะเบียนผู้ใช้งานระบบคอมพิวเตอร์
7.6 พนักงานสวัสดิการค่าจ้างทำการเปิดแบบฟอร์ม บันทึกสถิติการทำงาน (FM-HR-022) ให้กับพนักงานใหม่ โดยกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับพนักงานใหม่ รหัสพนักงาน ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ วันเดือนปีเริ่มงาน ตำแหน่งงาน แล้วนำแบบฟอร์ม บันทึกสถิติการทำงาน (FM-HR-022) เก็บใส่แฟ้มสถิติพนักงานรายเดือน – วัน เพื่อลงเวลามาทำงานของพนักงาน
7.7 การบันทึกประวัติพนักงานใหม่ในระบบคอมพิวเตอร์
7.7.1 คลิก Nopadol เพื่อใส่รหัสผ่าน
7.7.2 ให้เลือกไอคอนโปรแกรมเงินเดือนตามรูป
7.7.3 ใส่รหัสผ่านแล้วคลิก ถูกต้อง
7.7.4 เมื่อใส่รหัสผ่านถูกต้อง จะเข้ามาสู่หน้าจอแฟ้มพนักงานให้ชี้ลูกศรบนพื้นที่เปล่าด้านขวามือแล้วคลิกขวาจะมีแถบเมนูขึ้นให้คลิกเลือกเมนู เพิ่มพนักงาน ตามรูป
7.7.5 หน้าต่าง ชื่อ – สกุล ให้กรอกรายละเอียดให้ครบทุกช่องตามรูปภาพข้างล่าง
7.7.6 หน้าต่าง เงินเดือน ให้กรอกรายละเอียด และเลือกรายการให้ครบทุกช่องตามรูปภาพข้างล่าง
7.7.7 หน้าต่าง ภาษีเงินได้ ให้กรอกรายละเอียด และเลือกรายการให้ครบทุกช่องตามรูปภาพข้างล่าง
7.7.8 หน้าต่าง เงินค้ำประกัน-กู้-ผ่อน ให้กรอกรายละเอียด และเลือกรายการให้ครบทุกช่องตามรูปภาพข้างล่าง
7.7.9 หน้าต่าง คู่สมรส (ถ้ามี) ให้กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน
7.7.10 หน้าต่าง แฟ้มบุคคล ให้กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน
7.7.11 หน้าต่าง การศึกษา ให้เพิ่มรายละเอียดตามรูปภาพข้างล่าง
7.7.12 หน้าต่าง ประวัติการทำงาน (ถ้าเคยทำงานมาก่อน) ให้เพิ่มรายละเอียดตามรูปภาพ
8. เอกสารที่เกี่ยวข้อง
-
บันทึกสถิติการทำงาน (FM-HR-022)
-
สัญญาจ้างทดลองงาน (FM-HR-017)
หนังสือสัญญาจ้างพนักงานรายวัน (FM-HR-019)
WI-HR-005 นโยบายการบริหารจัดการเกี่ยวกับพนักงานแนะนำสินค้า (PC)
ด้วยบริษัท นพดลพานิช จำกัด มีนโยบายการบริหารจัดการเกี่ยวกับพนักงานแนะนำสินค้า (PC) ที่เข้าปฏิบัติงานประจำในพื้นที่ขายของบริษัท นพดลพานิช จำกัด ดังนี้
- พนักงานแนะนำสินค้า (PC) เมื่อจะเข้าประจำพื้นที่บริษัทฯ จะต้องผ่านการสัมภาษณ์กับผู้จัดการร้าน, Section Manager, ผู้จัดการแผนกบริหารสินค้า และแผนกบุคคล เพื่อคัดเลือกพนักงานตามคุณสมบัติที่บริษัทฯกำหนด
- หากได้รับการอนุมัติให้เข้าปฏิบัติงาน บริษัทต้นสังกัดจะต้องมีหนังสือส่งตัวแจ้งเข้าพื้นที่อย่างน้อย 7 วัน
- ก่อนเข้าปฏิบัติงานพนักงานแนะนำสินค้า (PC) จะต้องนับสต๊อคและตรวจเช็คสินค้าที่จะดูแลรับผิดชอบ เพื่อเซ็นรับสต๊อคสินค้าก่อนเข้าปฏิบัติงานหรือหลังจากเข้างานภายใน 14 วัน หากไม่มีการยืนยันสต๊อคเข้าและเกิดความเสียหาย บริษัทฯต้นสังกัด/Supplierจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
- หากพนักงานจะลาออก หรือ บริษัทฯ ต้นสังกัด มีการโยกย้ายพนักงานไปประจำร้านอื่น ให้แจ้งผู้จัดการร้าน หรือ Section Manager ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน และดำเนินการตรวจนับสต๊อคและยืนยันสต๊อคให้เรียบร้อยก่อนออก และให้แจ้งบริษัทฯ และบริษัทฯต้นสังกัดทราบ หากเกิดผลต่างของสต๊อคสินค้า พนักงานแนะนำสินค้า (PC)และบริษัทฯต้นสังกัด/Supplierจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
- พนักงานแนะนำสินค้า (PC) จะต้องถือปฏิบัติตามกฎระเบียบของบริษัทอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามระเบียบ แผนกบุคคลจะตักเตือนและแจ้งต้นสังกัด เพื่อขอเปลี่ยนพนักงานแนะนำสินค้า (PC) คนใหม่เข้าปฏิบัติแทน
- พนักงานแนะนำสินค้า (PC) สามารถผลักดันและกระตุ้นยอดขายสินค้าของตนเอง และสินค้าภายในร้านได้ โดยบริษัทฯ ได้จัดให้มีค่า Incentive เพิ่มให้พนักงานที่ทำยอดขายตามเงื่อนไขที่บริษัทฯกำหนด โดยจะโอนเข้าบัญชีธนาคารให้พนักงานทุกสิ้นเดือน
- บริษัทฯ ใช้ระบบการบันทึกเวลาปฏิบัติงานผ่านระบบออนไลน์และ Application ผ่านมือถือ เพื่อจัดการระบบการลงเวลาทำงาน การกำหนดกะการทำงาน-วันหยุด การขออนุมัติการลา การจัดทำเอกสารเวลาทำงาน ให้ถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็ว และคล่องตัวมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการงานบุคคล ซึ่งพนักงานสามารถติดต่อขอเอกสารการลงเวลาปฏิบัติงานประจำเดือน เพื่อนำส่งบริษัทต้นสังกัดได้ที่แผนกบุคคล บริษัทฯ จึงขอเรียกเก็บค่าดำเนินงานการบริหารจัดการพนักงานแนะนำสินค้า (PC) ในสังกัดของท่านในระยะเวลาที่ปฏิบัติงานที่บริษัท นพดลพานิช จำกัด เป็นเงินจำนวนคนละ 50 บาท ต่อเดือน โดยพนักงานสามารถชำระเงินได้ที่แผนกการเงิน ภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอให้พนักงานทุกคนปฏิบัติตามนโยบาย อย่างเคร่งครัด จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกันและปฏิบัติตามนโยบายตั้งแต่ วันที่ 25 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป
งานฝึกอบรม
WI-HR-006 การจัดอบรมความรู้สินค้า
1. วัตถุประสงค์
เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อควบคุมมาตรฐานในการปฏิบัติงานของส่วนบุคคล-ธุรการในเรื่องของการจัดอบรมความรู้สินค้า” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ การฝึกอบรมบุคลากร (PM-HR-002) เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในด้านการจัดฝึกอบรมความรู้สินค้า
2. ขอบข่าย
เอกสารนี้เป็นวิธีการปฏิบัติงาน ในการฝึกอบรม ความรู้สินค้า ให้กับพนักงานของ
บริษัท นพดลพานิช จำกัด ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่จะอบรม เพื่อเพิ่มทักษะ และความรู้ในรายละเอียดของสินค้านั้นๆ ให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในตัวสินค้ามากยิ่งขึ้น
3. อุปกรณ์/เครื่องมือ
ไม่มี
4. หน้าที่และความรับผิดชอบ
1. พนักงานฝึกอบรม
แจ้งแผนกบริหารสินค้าติดต่อบริษัท Supplier เข้ามาอบรมความรู้สินค้าจัดทำตารางอบรมความรู้สินค้าประจำเดือนและแจ้งให้พนักงานรับทราบจัดเตรียมวิธีการฝึกอบรมทั้งแบบอบรมในห้องอบรมและแบบอบรมผ่าน google meetสรุปคะแนนผลสอบความรู้สินค้าและรายชื่อผู้เข้าอบรมให้ผู้จัดการหรือหัวหน้าแผนกรับทราบ
2. เจ้าหน้าที่บริษัท Supplier
เป็นวิทยากรอบรมให้ความรู้ออกข้อสอบในการทดสอบความรู้สินค้า
5. คำจำกัดความ
ผู้เข้าอบรม หมายถึง พนักงานที่มีรายชื่อเข้าอบรมความรู้สินค้า
วิทยากร หมายถึง เจ้าหน้าที่จากบริษัท Supplier ที่เข้ามาอบรม
แบบทดสอบ หมายถึง แบบทดสอบความรู้สินค้าที่เจ้าหน้าที่บริษัท Supplier เตรียมมา
6. เอกสารอ้างอิง
ขั้นตอนการฝึกอบรมบุคลากร (PM-HR-002)
7. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
8. วิธีปฏิบัติงาน
8.1 ประสานบริหารสินค้าจัดอบรมสินค้าช่วงต้นเดือนของทุกเดือนและติดตามผลเป็นระยะเพื่อมีการจัดอบรมครบ 4 ครั้ง/เดือน ตามเป้าหมาย KPI กำหนด
8.2 ส่งตารางวันว่างสำหรับอบรมความรู้สินค้าให้แผนกบริหารสินค้า เพื่อให้แผนกบริหารสินค้าติดต่อกับ บริษัท Supplier กำหนดวันอบรมความรู้สินค้า
8.3 การอบรมความรู้สินค้าจาก Supplier ทุกครั้งจะต้องให้แผนกบริหารสินค้าประสานงานกับ
Supplier เพื่อขอแบบทดสอบวัดผลพนักงาน
8.4 จัดทำตารางอบรมความรู้สินค้าที่กำหนดวันอบรมแล้วจากแผนกบริหารสินค้า
8.5 นำข้อมูลตารางจัดอบรมมาจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ให้พนักงานทราบล่้วงหน้าว่าจะมีการ
จัดอบรมความรู้สินค้าผ่านช่องทางต่างๆ Mail,Line,Telegram /ใบเซ็นต์ชื่อรับทราบ
8.6 เมื่อใกล้ถึงวันอบรมให้จัดเอกสารใบเซ็นต์ชื่อส่งให้ผู้จัดการหรือหัวหน้าแผนกแจ้งให้
พนักงานในแผนกเซ็นต์ชื่อรับทราบวัน เวลา ในการฝึกอบรม ล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 วัน
8.7 จัดทำแบบทดสอบอบรมความรู้สินค้าลงใน Google Form ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน
8.8 กรณีอบรมผ่าน Google Meet ให้สร้างลิงค์ส่งให้ Supplier ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน
8.9 เพื่อเตรียมความพร้อมนัดทดสอบระบบและการนำเสนอผ่านหน้าจอกับวิทยากรล่วงหน้า
20 นาที
8.10 กรณีที่มีการจัดอบรมที่ห้องอบรมให้นัด Supplier มาล่วงหน้าก่อนการฝึกประมาณ 30 นาที
เพื่อมาดำเนินการเซ็ทคอมพิวเตอร์ให้พร้อมก่อนพนักงานเข้าห้องอบรม
8.11 จัดเตรียมห้องประชุมสำหรับการอบรมความรู้สินค้า ปลั๊กไฟ แอร์ ไมล์ ลำโพง โปรเจกเตอร์
8.12 คอยประสานงานอำนวยความสะดวกให้กับทีมงานวิทยากรระหว่างการอบรมและเสริฟน้ำ
วิทยากร
8.13 ส่งลิงค์ Google Form ให้พนักงานทำแบบทดสอบทันทีหลังฝึกอบรมเสร็จ
8.14 สรุปผลคะแนนแบบทดสอบและรายชื่อผู้เข้าอบรมความรู้สินค้าให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ KPI
กำหนด
8.15 หลังสรุปผลสอบและรายชื่อผู้เข้าร่วมอบรมให้ให้ผู้จัดการแต่ละแผนกรับทราบและ
กระตุ้นพนักงานที่ไม่เข้าร่วมอบรมให้เข้าร่วมอบรม
9. เอกสารที่เกี่ยวข้อง
การฝึกอบรมบุคลากร (PM-HR-002)
แบบทดสอบผ่าน google Form
แบบสรุปผลการฝึกอบรม Check List รายชื่อเข้าร่วมอบรม
แบบสรุป ผลการทดสอบความรู้สินค้าและใบเซ็นต์ชื่อ
WI-HR-007 การฝึกอบรมพนักงาน
- วัตถุประสงค์
ขั้นตอนการจัดฝึกอบรมฉบับนี้ทำขึ้น เพื่อใช้ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติในการจัดฝึกอบรมพนักงานภายในบริษัทฯ
- ขอบข่าย
ใช้เป็นแบบแผนในการจัดฝึกอบรม
- คำจำกัดความ
MD หมายถึง กรรมการผู้จัดการ
ผู้เข้าอบรม หมายถึง พนักงานที่มีรายชื่อต้องเข้าร่วมอบรม
- หน้าที่และความรับผิดชอบ
ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารกลาง , MD
- พิจารณาอนุมัติแผนฝึกอบรม
ผู้จัดการส่วนบุคคล-ธุรการ
- จัดทำแผนฝึกอบรม
พนักงานฝึกอบรม
- สำรวจความต้องการในการฝึกอบรม
- จัดทำหนังสือเวียนแจ้งผู้เข้าอบรม
- ดำเนินการจัดฝึกอบรม
- สรุปผลการฝึกอบรม
- ทำประวัติการฝึกอบรมของพนักงาน
- สรุปการดำเนินการตามแผนฝึกอบรม
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
กระบวนการ เอกสารที่เกี่ยวข้อง
5.1. รวบรวมความต้องการฝึกอบรม
พนักงานฝึกอบรมส่งแบบสำรวจความต้องการฝึกอบรมพนักงาน แบบสำรวจความต้องการฝึกอบรมพนักงาน(FM-HR-013) ให้ผู้จัดการส่วน/หัวหน้าแผนก/Section Manager ต่าง ๆแล้วนำมาสรุปหัวข้อที่พนักงานต้องการให้จัดฝึกอบรม
- พนักงานฝึกอบรมรับหลักสูตรฝึกอบรมจากฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
- พนักงานฝึกอบรมรับข้อมูลจากแผนกบริหารสินค้าเพื่ออบรมความรู้เกี่ยวกับสินค้าให้กับพนักงาน
- พนักงานฝึกอบรมรับ VCD T-time ชุดใหม่จากบริษัท ซิเมนต์ไทย เพื่อนำมาจัดอบรมดู VCD T-time ให้แก่พนักงาน
- แผนฝึกอบรมประจำปีเดิม
5.2. จัดทำแผนฝึกอบรม
- ผู้จัดการส่วนบุคคลทำแผนฝึกอบรมประจำปี แผนฝึกอบรมประจำปี (FM-HR-008) โดยระบุรายละเอียด เช่น หลักสูตร , ระดับผู้เข้าอบรม , จำนวนผู้อบรม , จำนวนชั่วโมง , งบประมาณ
- กรณีมีหัวข้ออบรมนอกเหนือจากแผนฝึกอบรมประจำปี ให้พนักงานเขียนแบบฟอร์มขอเข้ารับการฝึกอบรมนอกแผน แบบขอเข้ารับการฝึกอบรมนอกแผน (FM-HR-009)
5.3. นำเสนออนุมัติแผนอบรมประจำปี
ผู้จัดการส่วนบุคคลนำแผนฝึกอบรมประจำปี แผนฝึกอบรมประจำปี (FM-HR-008) เสนอแก่ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารกลาง / MD เพื่อพิจารณาอนุมัติแผนฝึกอบรม และงบประมาณ
กรณีที่ไม่อนุมัติ ให้ดำเนินการแก้ไข ปรับปรุงแผนฝึกอบรมแล้วนำเสนอใหม่
5.4. เตรียมการฝึกอบรม
5.4.1 ประสานงานกับแผนกบริหารสินค้า กำหนดวัน-เวลาที่ทาง Suppiler เข้ามาอบรม จากนั้น
จัดทำหนังสือเวียนแจ้งให้พนักงานทราบ
5.4.2 กำหนดวัน-เวลาที่จะจัดอบรมดู VCD T-time จากนั้นจัดทำหนังสือเวียนแจ้งให้พนักงานทราบ
5.4.3 กรณีอบรมโดยวิทยากรภายนอก / อบรมนอกสถานที่
5.4.3.1 ผู้จัดการส่วนบุคคลติดต่อประสานงานกับวิทยากรและติดต่อหาข้อมูลสถานที่จัดฝึกอบรม
5.4.3.2 ผู้จัดการส่วนบุคคลจัดทำโครงการฝึกอบรมนำเสนอแก่ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารกลาง / MD เพื่อพิจารณาอนุมัติ
5.4.3.3 เขียนใบขออนุญาตใช้ห้องประชุมบริษัทฯ สำหรับเตรียมห้องฝึกอบรม
5.5. ดำเนินการฝึกอบรม
พนักงานฝึกอบรมจัดเตรียมห้องประชุมและอุปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกอบรมให้เรียบร้อย และดำเนินการฝึกอบรมเมื่อถึงกำหนดเวลา
- จัดอบรมความรู้สินค้า ให้วิทยากรจากบริษัท Suppiler เป็นผู้อบรมให้ความรู้ โดยมีข้อสอบ Pre-Test และ Post-Test ทดสอบก่อนและหลังการอบรม
- จัดอบรมดู VCD T-time โดยเปิด VCD T-timeให้พนักงานดู เมื่อดู VCD จบ ให้พนักงานที่เข้าอบรมทำแบบทดสอบ VCD T-time
- กรณีอบรมนอกสถานที่ ให้วิทยากรภายนอกเป็นผู้อบรม และพนักงานฝึกอบรมเป็นผู้ประสานงานระหว่างดำเนินการฝึกอบรม
- พนักงานฝึกอบรมบันทึกการจัดฝึกอบรม แบบบันทึกการจัดฝึกอบรม (FM-HR-010)
5.6. ประเมินผลการฝึกอบรม
5.6.1 สรุปคะแนนข้อสอบ Pre-Test และ Post-Test ของการอบรมความรู้สินค้า
5.6.2 สรุปคะแนนข้อสอบ VCD T-time นำไปติดบอร์ดแจ้งให้พนักงานทราบ
5.6.3 สรุปแบบประเมินผลการฝึกอบรม แบบประเมินผลอบรม (FM-HR-011)
5.6.4 สรุปปัญหาการอบรมภายนอกสถานที่
5.7. สรุปทำประวัติการฝึกอบรม
พนักงานฝึกอบรมทำบันทึกข้อมูลการเข้าอบรมของพนักงานแต่ละคน ในประวัติการฝึกอบรมพนักงาน (FM-HR-012)
5.8. สรุปการดำเนินการตามแผนฝึกอบรมฝึกอบรม
พนักงานฝึกอบรมสรุปผลการดำเนินการฝึกอบรมทั้งหมดตามแผนฝึกอบรมประจำปีทุก 6 เดือน
6.เอกสารอ้างอิง
- แบบทดสอบ Pre-Test และ Post-Test ความรู้สินค้า
- แบบทดสอบ VCD T-time
- แผนฝึกอบรมประจำปี (FM-HR-008)
- แบบขอเข้ารับการฝึกอบรมนอกแผน (FM-HR-009)
- แบบบันทึกการจัดฝึกอบรม (FM-HR-010)
- แบบประเมินผลอบรม (FM-HR-011)
- ประวัติการฝึกอบรมพนักงาน (FM-HR-012)
แบบสำรวจความต้องการฝึกอบรมพนักงาน (FM-HR-013)
งานสวัสดิการ-ค่าจ้าง
WI-HR-008 ระเบียบการจ่ายเบี้ยเลี้ยงการอบรมหรือสัมนาต่างจังหวัด
การจ่ายเบี้ยเลี้ยงและอื่นๆ
สำหรับการเข้ารับการอบรม / สัมมนานอกพื้นที่ (ต่างจังหวัด)
ตามที่บริษัทฯ มีนโยบายในการส่งพนักงานเข้ารับอบรม/สัมมนา เพื่อเพิ่มพูนความรู้ และทักษะการทำงานทั้งในและนอกพื้นที่ และ บริษัทฯ จึงขอกำหนดสำหรับการจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง ที่พัก และค่าเดินทางของพนักงาน ที่เข้ารับการอบรม / สัมมนานอกพื้นที่
จึงมีอัตราค่าเบี้ยเลี้ยง/ค่าที่พัก/ค่าเดินทาง ของพนักงานที่เข้ารับการอบรม/สัมมนา ดังนี้
ลำดับ |
ระดับพนักงาน |
ค่าเบี้ยเลี้ยง/วัน |
ค่าเดินทาง |
|
ค่าโดยสาร ไป/กลับ |
ค่า Taxi ในกรุงเทพ และปริมณฑล |
|||
1 |
ผู้อำนวยการฝ่าย ระดับ G6 |
500 บาท |
เครื่องบิน (Low cost) |
เหมาจ่าย เที่ยวไป 200 บาท เที่ยวกลับ 200บาท |
2 |
ผู้จัดการส่วน ระดับ G5 |
400 บาท |
เครื่องบิน (Low cost) |
|
3 |
หัวหน้าแผนก/พนักงาน ระดับ G4 |
300 บาท |
รถทัวร์ NCA First Class ปรับอากาศชั้น 1 (21 ที่นั่ง) |
|
4 |
พนักงาน ระดับ G3 |
300 บาท |
รถทัวร์ NCA Gold Class ปรับอากาศชั้น 1 (32 ที่นั่ง) |
|
5 |
พนักงาน ระดับ G1-2 |
อัตราค่าโดยสาร (ข้อมูล ณ วันที่ 10 มกราคม 2567)
- เครื่องบิน (Low cost) ได้แก่ สายการบิน Lion Air, Nok Air ,Air Asia, Thai Smile
- รถโดยสาร NCA First Class (21 ที่นั่ง) รถทัวร์ปรับอากาศชั้น 1 ราคา 924 บาท
- รถโดยสาร NCA Gold Class (32 ที่นั่ง) รถทัวร์ปรับอากาศชั้น 1 ราคา 693 บาท
หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติ
- การอบรม/สัมมนา หมายถึง การอบรม/สัมมนาตามหัวข้อหรือหลักสูตร ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน โดยได้รับความเห็นชอบและอนุมัติจากผู้บริหารเท่านั้น สำหรับการไปท่องเที่ยวและทัศนศึกษาจะไม่รวมอยู่ในระเบียบปฏิบัตินี้
- ค่าเบี้ยเลี้ยง หมายถึง ค่าปฏิบัติงานนอกสถานที่นอกพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเข้ารับการอบรม/สัมมนา มีระยะเวลาเกินกว่า 24 ชั่วโมง โดย นับตามจำนวนวันที่จัดอบรม/สัมมนาเท่านั้น และ ไม่นับเวลาการเดินทาง ไป-กลับ ไม่ว่าหน่วยงานจะเลี้ยงอาหารหรือไม่ก็จ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงเหมารายวันให้กับพนักงาน
- สถานที่นอกพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หมายถึง ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ได้แก่ กรุงเทพ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม และสมุทรสาคร ส่วนต่างจังหวัดคือจังหวัดอื่นๆนอกเหนือที่ได้กล่าวมา
- ค่าเดินทาง หมายถึง ค่ารถโดยสารประจำทาง/รถไฟ/เครื่องบิน เฉพาะการเดินทางข้ามจังหวัดในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล บริษัทฯจะจ่ายให้ตามสิทธิ์ โดยแบ่งตามระดับของพนักงาน (ให้ยึดราคาจาก เครื่องบิน (Low cost) ได้แก่ สายการบิน Lion Air, Nok Air ,Air Asia, Thai Smile , การรถไฟแห่งประเทศไทย, รถทัวร์ของบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด เป็นเกณฑ์) ส่วนการเดินทางจังหวัดอื่นให้พิจารณาตามเส้นทาง ระยะทาง และราคาตั๋วในแต่ละจังหวัดที่เดินทางไปตามที่จ่ายจริง โดยทางแผนกบุคคจะเป็นผู้จัดหาให้ และให้พนักงานนำหลักฐานการเดินทางให้ทางแผนกบุคคลเมื่อกลับจากการอบรม/สัมมนา
- เครื่องบิน ให้ใช้ Boarding Pass
- รถทัวร์ ให้ใช้บัตรเดินทาง
- ค่ารถแท็กซี่ในกรุงเทพ และปริมณฑล หมายถึง ค่าเดินทางจากสถานีขนส่ง/สถานีรถไฟ/สนามบิน - โรงแรมที่พักในวันเดินทางไป และค่าเดินทางจากโรงแรมที่พัก-สถานีขนส่ง/สถานีรถไฟ/สนามบิน ในวันเดินทางกลับ โดยเป็นอัตราเหมาจ่าย และในกรณีต่างจังหวัดให้พิจารณาเป็นกรณีไป
- การจัดหาที่พัก ในกรณีอบรม/สัมมนานอกพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทางแผนกบุคคลจะดำเนินการจัดหาและสำรองห้องพักไว้ให้พนักงาน
- เมื่ออบรมเสร็จให้พนักงานนำใบเสร็จจากทางโรงแรมกลับมาให้ทางแผนกบุคคล
- กรณีพนักงานจัดหาที่พักเอง เช่น บ้านพักกับบิดา มารดา ญาติ พี่น้อง เพื่อน ฯลฯ จะไม่ได้รับสิทธิ์ค่าที่พัก โดยให้พนักงานแจ้งกับทางแผนกบุคคลล่วงหน้า
- กรณีหน่วยงานที่จัดอบรม/สัมมนา ได้ดำเนินการจัดหาที่พัก อาหาร การเดินทาง และรถรับ-ส่ง ไว้ให้กับพนักงานเรียบร้อยแล้ว พนักงานจะได้รับสิทธิ์ เฉพาะค่าเบี้ยเลี้ยง เท่านั้น
- หากมีความจำเป็นที่ไม่สามารถปฏิบัติตามที่กำหนดได้ ให้นำเสนอขออนุมัติผู้บริหารเพื่อขอพิจารณาดำเนินการอย่างอื่นเป็นกรณีไป
- พนักงานที่กลับจากอบรม/สัมมนาแล้ว พนักงานจะต้องนำเอกสารหลักฐานการเงิน/ใบเสร็จรับเงิน ฯลฯ มาให้ทางแผนกบุคคลทุกครั้ง หากไม่มีเอกสารดังกล่าว ถือว่าพนักงานละเลยในหน้าที่
- อัตราค่าที่พัก ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าอาหาร และค่าเดินทาง ที่กำหนดไว้ ตามประกาศนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจ หรือ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้บริหาร
WI-HR-009 การตรวจสอบพนักงานลาออก
- วัตถุประสงค์
เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นขั้นตอนในการปฏิบัติเมื่อพนักงานลาออก หรือ พนักงานขาดงานเกินกว่า 3 วัน ซึ่งจะอธิบายถึงขั้นตอนการลาออกของพนักงาน การตรวจสอบสต๊อกสินค้าที่ดูแลรับผิดชอบ หนี้สินของพนักงานที่คงค้างและค่าใช้จ่ายอื่นใดที่พนักงานจะต้องชำระก่อนวันที่จะลาออก เพื่อนำไปหักค่าใช้จ่ายจากเงินประกันของพนักงาน
- ขอบข่าย
เอกสารฉบับนี้เป็นขั้นตอนในการลาออกของพนักงานในบริษัท นพดลพานิช จำกัด ซึ่งจะถือเป็นแนวปฏิบัติของพนักงานทั้งสาขาสำนักงานใหญ่และสาขาแยกต้นเปา สันกำแพง
- คำจำกัดความ
เงินประกันพนักงาน หมายถึง เงินที่ทางบริษัทได้เรียกเก็บจากพนักงานเพื่อเป็นหลักประกันหากเกิดความเสียหายขึ้นระหว่างที่พนักงานทำงานอยู่ที่บริษัท
การปรับปรุงสินค้า หมายถึง การนำรายงานผลต่างจากการตรวจนับสินค้ามาปรับจำนวนสินค้าในระบบกับจำนวนสินค้าที่นับได้จริงให้ตรงกัน
- หน้าที่และความรับผิดชอบ
หัวหน้างาน/Store Manager
- พิจารณาการลาออกของพนักงาน
- ร่วมตรวจนับสต๊อกสินค้ากับพนักงานที่จะลาออก
- พิจารณาและประเมินค่าเสียหายจากการตรวจนับสต๊อก
ผู้จัดการส่วนบุคคล-ธุรการ
- สอบถามการลาออกของพนักงาน
- ให้ใบลาออกกับพนักงานที่ต้องการลาออก
- ตรวจเช็คหนี้สินคงค้างของพนักงานและเงินประกันพนักงาน
- สรุปเงินประกันพนักงานหลังหักค่าใช่จ่าย
เจ้าหน้าที่ ICC
- ตรวจสอบและยืนยยันผลการนับสต๊อกของพนักงาน
- ปรับปรุงสต๊อกสินค้า
พนักงานที่จะลาออกk
- แจ้งความประสงค์การลาออกต่อหัวหน้างาน/Store Manager และผู้จัดการส่วนบุคคล
- ตรวจนับสต๊อกสินค้าที่ดูแลรับผิดชอบ
- ดำเนินการขอปรับปรุงสินค้าหลังาจากที่ตรวจนับ
เจ้าหน้าที่แผนกบัญชี
- ตรวจสอบเอกสารสรุปค่าเสียหาย , หนี้สินคงค้าง และเงินประกันพนักงาน
เจ้าหน้าที่การเงิน
- เบิกเงินและปิดบัญชีเงินประกันพนักงานของพนักงานที่จะลาออก
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
ตรวจสอบสต๊อกสินค้า
- รายละเอียดขั้นตอนในการปฏิบัติงาน
การลาออกของพนักงาน มีดังนี้
6.1. พนักงานขาดงานเกินกว่า 3 วัน
6.1.1 หัวหน้างานดำเนินการตรวจสอบว่าพนักงานขาดงานเนื่องจากสาเหตุใด หากไม่สามารถติดต่อพนักงานได้และไม่มาทำงานเกินกว่า 3 วันทำการให้ทางหัวหน้างานแจ้งแผนกบุคคล (HR) ให้ทำหนังสือแจ้งพ้นสภาพงาน
6.1.2 เมื่อพนักงานขาดการติดต่อ 3 วัน แผนกบุคคลทำเอกสารแจ้งพ้นสภาพพนักงานทันทีพร้อมติดตามผลการตรวจนับสต๊อกของหัวหน้างาน เพื่อตรวจสอบความเสียหาย
6.1.3 หัวหน้าแผนกตรวจสอบผลสต๊อกและเซ็นต์รับทราบผลการตรวจนับสต๊อกและส่งให้ทางแผนกบุคคล
6.1.4 สรุปผลสต๊อกและให้ทางแผนกบัญชีเซ็นต์รับเอกสารเพื่อดำเนินการพิจารณาหักเงินประกันการทำงานของพนักงาน
6.2. พนักงานประสงค์ที่จะลาออก
ซึ่งแจ้งหัวหน้างานให้ทราบ ล่วงหน้า 30 วัน โดยมีขั้นตอนการตรวจสอบพนักงานลาออกดังนี้
6.2.1. เมื่อพนักงานที่ประสงค์จะลาออกแจ้งหัวหน้างานแล้ว ทางหัวหน้างาน/Store manager ได้สอบถามเหตุผล รายละเอียดต่างๆของการลาออกและอนุมัติการลาออกของพนักงานแล้ว พนักงานสามารถไปขอใบลาออกได้ที่แผนกบุคคล
6.2.2. เมื่อพนักงานไปขอใบลาออกจากแผนกบุคคลทางผู้จัดการแผนกบุคคลจะสอบถามเหตุผลในการลาออกอีกครั้ง จากนั้นจึงจะมอบใบลาออก (FM-HR-029) และแบบสัมภาษณ์พนักงานที่ลาออก (FM-HR-028) ให้กรอกและให้หัวหน้าแผนกเซ็นอนุมัติใบลาออก
6.2.3. ทางแผนกบุคคลดำเนินการตรวจสอบหนี้สินและเงินประกันของพนักงาน
6.2.4. พนักงานที่จะลาออกและหัวหน้างานร่วมกันตรวจนับสต๊อกสินค้าที่รับผิดชอบ ภายใน 14 วัน
6.2.5. เมื่อพนักงานและหัวหน้างานตรวจนับสต๊อกสินค้าเรียบร้อบแล้วจากนั้นนำส่งรายงานผลการตรวจนับสต๊อกสินค้าให้ทางแผนก ICC
6.2.6. แผนก ICC เมื่อได้รับรายงานผลการตรวจนับสต๊อกสินค้าแล้ว ดำเนินการตรวจสอบสต๊อกสินค้าอีกครั้งเพื่อยืนยันผลการตรวจนับ ภายใน 7 วัน
- หากเกิน 21 วัน นำเข้าที่ประชุมแจ้งผู้บริหารทราบ และติดตามทวงถามในที่ประชุม
- หลังการติดตามแผนกบัญชี ต้องได้รับผลการนับสต๊อค ภายใน 7 วัน หลังจากการทวงถามที่เกิน 30 วัน
6.2.7. เมื่อแผนก ICC ตรวจสอบและยืนยันสต๊อกสินค้าแล้ว นำส่งสรุปผลยืนยันการตรวจนับสต๊อกให้ทางหัวหน้าแผนก/Store Manager เพื่อประเมินค่าเสียหายของสินค้าที่ตรวจนับ โดยแยกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- ไม่มีค่าเสียหายจากการตรวจนับสต๊อกสินค้าที่รับผิดชอบ ทางหัวหน้าแผนกดำเนินการส่งรายงานสรุปค่าเสียหายให้ทางแผนกบุคคลเพื่อสรุปเงินประกันพนักงานหลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ
- มีค่าเสียหายจากการตรวจนับสต๊อกสินค้าที่รับผิดชอบ ทางหัวหน้าแผนกดำเนินการสรุปค่าเสียหายและออกบิลเก็บเงินค่าเสียหายกับพนักงานพร้อมกับขอดำเนินการปรับสต๊อกสินค้ากับทางแผนก ICC จากนั้นส่งรายงานสรุปค่าเสียหายให้ทางแผนกบุคคลเพื่อสรุปเงินประกันพนักงานหลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ
6.2.8. เมื่อทางแผนกบุคคลสรุปเงินประกันพนักงานหลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆแล้ว จากนั้นนำเสนอให้ทางผู้บริหารรับทราบและเซ็นอนุมัติใบลาออกให้กับพนักงาน
6.2.9. เมื่อผู้บริหารเซ็นอนุมัติใบลาออก จากนั้นทางแผนกบุคคลจะส่งเอกสารใบลาออกและรายงานสรุปรายละเอียดค่าเสียหายสินค้าจากการนับสต๊อก , รายงานการปรับปรุงสินค้าจากแผนก ICC , รายงานหนี้สินคงค้างของพนักงาน , รายงานสรุปเงินประกันพนักงานหลังหักค่าใช้จ่าย ให้ทางแผนกบัญชีตรวจสอบความครบถ้วนถูกต้องของเอกสาร
- กรณีที่เอกสารไม่ถูกต้อง ครบถ้วน ทางแผนกบัญชีจะส่งเอกสารกลับไปยังแผนกบุคคลเพื่อแก้ไขและติดตามเอกสารให้ครบถ้วนก่อนจะนำส่งเอกสารให้แผนกการเงินเบิกเงินประกันพนักงานและปิดบัญชีเงินประกันของพนักงาน
- กรณีที่เอกสารถูกต้อง ครบถ้วน ทางแผนกบัญชีจะนำส่งเอกสารให้แผนกการเงินเบิกเงินประกันพนักงานและปิดบัญชีเงินประกันของพนักงาน รวมระยะเวลาในการตรวจสอบและคืนเงินประกันพนักงาน ๆ ต้องได้รับเงินประกันคืน ภายใน 30 วัน หลังจากที่พนักงานลาออก
6.2.10. แผนกการเงินแจ้งให้พนักงานมารับเงินประกันคืน โดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร หรือ เข้ามารับด้วยตัวเองที่แผนกการเงินจ่าย
6.เอกสารอ้างอิง
- ใบลาออก (FM-HR-029)
- แบบสัมภาษณ์พนักงานที่ลาออก (FM-HR-028)
- รายงานการตรวจนับสินค้า
WI-HR-010 กระบวนการเปิดบัญชีและคืนเงินประกันพนักงาน
วัตถุประสงค์
กระบวนการนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้การดำเนินงานประสานงานเกี่ยวกับกระบวนการเปิดบัญชี-คืนเงินประกันพนักงาน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นระเบียบปฏิบัติในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและปฏิบัติ
กระบวนการ

รายละเอียดกระบวนการเปิดบัญชีเงินประกันพนักงาน UOB
- เมื่อพนักงานใหม่เข้ามาทำงานกับบริษัทฯ แผนกบุคคลทำการอบรมปฐมนิเทศทำสัญญาจ้างและแจ้งเงื่อนไขเรื่องเงินประกันหรือเงินสะสมพนักงานพนักงานทุกตำแหน่ง - ปฐมนิเทศ ชี้แจงกฏระเบียบ ข้อบังคับ
- แจ้งเงื่อนไขการเก็บเงินประกันหรือเงินสะสมพนักงาน (พนักงาน 8,000 บาท/หัวหน้างาน 10,000 บาท) - เอกสารที่เกี่ยวข้อง
พนักงาน
1. ใบส่งตัวขอเปิดบัญชีเงินประกันพนักงาน
2.บันทึกข้อตกลงนำบัญชีเงินฝากประกันการทำงาน(ผู้บริหารลงนามแล้ว)
3.ใบคำขอถอนเงินประกันการทำงาน
4.หนังสือยินยอมหักเงินประกันการทำงาน
แผนกบุคคล
5. สรุปใบปะหน้าจำนวนพนักงานที่เปิดบัญชี
3. แผนกบุคคล รวบรวมเอกสารเปิดบัญชีเงินประกัน ที่ลงนามแล้ว นำส่งเอกสารเปิดสมุดบัญชีเงินฝากสะสมให้กับ ธนาคาร UOB
-ทุกเช้าวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ธนาคารมารับ เวลา 10.00 น.
-ทุกวันพุธ พนักงานติดต่อเปิดบัญชี
- ทุกวันศุกร์ การเงินติดตามถามคืน สมุดบัญชี/ใบคำขอถอนเงินประกัน/ใบบันทึกข้อตกลง
4. ธนาคารส่งกลับสมุดบัญชีที่มีเลขที่บัญชีแล้ว - การเงิน แจ้งเลขที่บัญชีให้แผนกบุคคล พร้อมส่งเอกสารและใบปะหน้าให้แผนกบัญชี
- บัญชี ตรวจสอบยอดเงินประกันในสมุดบัญชีและรายงานที่แผนกบุคคลสรุปให้ตรงกัน และเก็บสมุดบัญชี+เอกสารทุกฉบับ
5. แผนกบุคคลทำการหักเงินประกันพนักงานเดือนละ 500 บาท กรณีพนักงานรายวันให้หักจากงวดการจ่ายเงินเดือนแบ่งเป็น 2 งวด งวดละ 250 บาท จนกว่าจะครบวงเงินประกันที่ตกลงหรือทำสัญญาไว้ หากต่ำกว่านี้ให้อยู่ในดุลพินิจและการพิจารณาการหักตามเห็นสมควร
6. แผนกบุคคลส่งรายงานเงินประกันที่มีเลขที่บัญชี ส่งให้แผนกบัญชี ไม่เกินวันที่ 7 ของเดือนถัดไป
- แผนกบัญชีบันทึกการหักเงินประกันพนักงาน
- แผนกบัญชีส่งเรื่องให้แผนกการเงินทำเช็คเพื่อนำฝาก
- กรณีโอนเงินประกัน ผ่าน BiBplus UOB แผนกบุคคลทำรายการเงินโอนธนาคาร UOB ให้ผู้บริหารอนุมัติ
7. แผนกบุคคลแยกรายงานการเบิกเงินหรือนำฝาก
- พนักงานบัญชีบันทึกการเบิกเงิน DR.เงินประกันรอนำฝาก
- นำสมุดกลับมาเพื่อตรวจสอบยอดเงินประกันหรือเงินสะสมพนักงานในบัญชี
รายละเอียดกระบวนการปิดบัญชีเงินประกันพนักงาน UOB และคืนเงินประกันพนักงาน
1. เมื่อพนักงานยื่นเอกสารใบลาออก
- แผนกบุคคลเรียกพนักงานพูดคุยเรื่องการตรวจสอบความเสียหาย การส่งมอบงาน การตรวจสอบสินทรัพย์ในความดูแลของพนักงาน และการส่งผลการตรวจนับสต๊อกกรณีตำแหน่งที่ดูแลสินค้า ตรวจสอบการขายขาดทุนกรณี พนักงานขาย พนักงานจัดซื้อ พนักงานลูกค้าสัมพันธ์
- แผนกบุคคลแจ้งหัวหน้างานติดตามผลและตรวจสอบความเสียหาย ตรวจสอบการส่งมอบงานให้กับคู่ Buddy และอนุมัติเอกสารการลาออกและเอกสารการส่งมอบงานรวบรวมเอกสารส่งให้กับทางแผนกบุคคลเพื่อพิจารณาเรื่องการคืนเงินประกัน
2. ผลการตรวจสอบเงินประกันพนักงาน
- หากตรวจสอบแล้วไม่มีความเสียหายใดๆ ทางแผนกบุคคลส่งเอกสารผลการตรวจสอบให้กับแผนกบัญชีเพื่อทำเงินประกันคืนให้กับพนักงานภายใน 7 วันหลังจากพนักงานลาออก
- กรณีพนักงานลาออกไม่ถูกต้องติดต่อไม่ได้ให้หัวหน้างานตรวจสอบสต๊อกและความเสียหายแทน หากพบความเสียหายให้หักล้างจากเงินประกันที่สะสม ส่วนต่างโอนคืนให้พนักงานภายใน 7 วัน หลังจากพนักงานลาออก
- กรณีที่ความเสียหายมากกว่ายอดเงินประกันที่สะสมไว้ ให้ติดต่อและเจรจากับพนักงานเพื่อชดใช้ส่วนต่างที่เหลือ
- กรณีพนักงานลาออกไม่ถูกต้องโดยไม่ได้ยื่นเอกสารเช่น ขาดงานติดต่อเกิน 3 วัน และบุคคลไม่สามารถติดต่อเพื่อให้พนักงานรับเงินประกันได้เมื่อครบ 1 ปี ไม่มีปัญหาร้องเรียน แผนกบัญชีออกรายงานการขออนุมัติยึดเงินประกันการทำงาน บันทึกเลขที่ประกันเป็นรายได้อื่นๆ
3.- แผนกบัญชีและสินเชื่อ ตรวจสอบหนี้สินคงค้างของพนักงาน /เมคคาเฟ่ ฯลฯ
- กรณีพบความเสียหายให้หักส่วนที่เสียหายคืนบริษัท พร้อมทำใบนำฝากเข้าบัญชีบริษัท
- ผู้บริหารอนุมัติ เอกสารใบลาออกได้รับการอนุมัติแล้วให้แจ้งพนักงาน
- ธนาคารส่งสมุดบัญชี+ใบนำฝากคืนบริษัท หากมีเงินประกันคืนเข้าบริษัท แผนกการเงินบันทึกรับเงินค่าเสียหาย และส่งสมุดบัญชีและใบนำฝากให้แผนกบัญชีลงบันทึก ADE และเมื่อคืนเงินประกันแล้วจะบันทึก RTE ให้เรียบร้อย
รายละเอียดกระบวนการปิดบัญชีเงินประกันพนักงาน UOB กรณีไม่คืนเงินประกันกรณีพ้นสภาพและ/หรือออกไม่ถูกต้อง
4.นำไปรับชำระที่แผนกการเงิน พร้อมแนบสมุดบัญชีและเอกสารประกอบนำส่งพร้อมรายงานการส่งเงินประจำวันให้ผู้บริหารตรวจสอบ
WI-HR-011 คูปองอาหารกลางวัน
กระบวนการ

รายละเอียดกระบวนการ
- พนักงาน PC ที่ต้องการรับประทานอาหารที่ห้องครัวให้ติดต่อซื้อคูปองอาหารได้ที่หัวหน้าแผนกแคชเชียร์พร้อมกับลงชื่อ
- เมื่อได้คูปองอาหารให้นำไปแลกอาหารที่ห้องครัวกับแม่ครัว
- ทุกเย็นแม่ครัวรวบรวมคูปองอาหารส่งคืนให้แผนกการเงิน
- หัวหน้าแผนกแคชเชียร์ส่งเงินและรายชื่อพนักงานให้กับแผนกการเงินเพื่อตรวจสอบเงินและคูปองที่ได้รับในแต่ละวัน
งานประเมินผล
WI-HR-011 คำอธิบายระดับคะแนนประเมินผลการปฏิบัติงาน
คำอธิบายระดับการให้คะแนนประเมินผลการปฏิบัติงาน
ระดับคะแนน ควรสะท้อนผลลัพธ์จากการลงมือทำงานในหัวข้อนั้นๆ จากมาตรฐาน หรือ ความคาดหวังตามตำแหน่งงาน หรืองานที่ได้รับมอบหมาย โดยให้แนวทางพิจารณาดังนี้
ระดับคะแนน |
ความหมาย |
5 |
มีผลลัพธ์ทะลุทะลวง กระทำตนเป็นต้นแบบ สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นทำตาม มีภาวะผู้นำโน้มน้าวผู้อื่นให้ความร่วมมือ อยากกระทำตามในด้านนั้นๆ |
4 |
มีผลลัพธ์สูงกว่ามาตรฐาน/ เหนือความคาดหวัง/ สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีได้ แต่ยังไม่สามารถส่งผลต่อผู้อื่นให้อยากปฏิบัติตามได้โดยไม่ต้องบังคับ |
3 |
เป็นไปตามมาตรฐาน/ตามที่คาดหวังในระดับที่ใช้การได้ สามารถพึ่งพาในเรื่องนั้นๆ ได้ |
2 |
ผลการปฏิบัติงานไม่เป็นไปตามสัญญา, คำพูดที่ให้ไว้ หรือตามความคาดหวัง |
1 |
ผลการปฏิบัติงานไม่สามารถยอมรับได้ / ต้องปรับปรุงเร่งด่วน / ไม่สามารถพึ่งพาหรือไว้วางใจได้ |