คู่มือปฏิบัติงานขนส่ง
คู่มือปฏิบัติพนักงานขับรถ
ขนส่งสินค้าอย่างคุณภาพ
ขับเคลื่อนด้วยความปลอดภัย
ใส่ใจบริการดุจครอบครัว
บริษัท บ ำรุงผล ขนส่ง จ ำกัด
ที่ตั้ง36/109 โครงกำร RZ BIZ CENTER ถนนคู่ขนำนมอเตอร์เวย์–ร่มเกล้ำ แขวงคลอง
สองต้นนุ่น เขตลำดกระบัง กรุงเทพมหำนคร10520
เลขประจ ำตัวผู้เสียภำษี0-1055-51117-45-5 ส ำนักงำนใหญ่
เบอรติดต่อ 02-3696036 ต่อ312,0969361980 หัวหน้ำแผนกขนส่ง
ข้อห้ามของพนักงานขับรถ ที่ไม่พึงกระทำ เพื่อความปลอดภัย Driver’s Prohibition that shall not conduct for safety
1. ขณะขับรถไม่ควรใช้โทรศัพท์ห้ามใช้โทรศัพท์ทุกกรณีไม่โทร ไม่รับขณะขับรถจะช่วยทำให้ไม่มีสมาธิในการขับ มากยิ่งขึ้น แม้จะเป็นไปได้ยากที่จะไม่รับไม่โทรศัพท์แต่อย่างน้อยถ้าต้องใช้ โทรศัพท์ควร จะมี Small Talk เพื่อช่วยให้การขับขี่รถ
2. ง่วง อย่ำขับ เมา อย่าขับ หากสภาพร่างกายไม่พร้อมไม่ควรขับรถเด็ดขาดเพราะในแต่ละปีมี ผู้เสียชีวิตจาก อุบัติเหตุปีละกว่า 14,000 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตจากการง่วงแล้วขับหลับใน มากถึง 2,800 คน คิดเป็นประมาณร้อยละ 20 ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น มูลค่าความ เสียหายมากถึง ปีละกว่า 20,000 ล้านบาท อุบัติเหตุที่เกิดจากการหลับในค่อนข้างรุนแรงจากคนหลับในขาดสติ ไม่รู้ตัว
3. ห้ามเลี้ยวกะทันหัน การไม่ให้สัญญาณไฟในการขับรถตัวอย่างการขับรถออกจากที่จอด, จอดรถ, กลับ รถหรือการเลี้ยว ถ้าละเลยการให้สัญญาณไฟจะทำให้รถคันอื่นมองไม่เห็นรถ โดยไม่คำนึงถึงผู้ที่ขับตามมา รถคันไหนที่ใช้ความเร็วก็อาจเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน อาจถึงชีวิตและ เดือดร้อนต่อผู้อื่น
4. ห้ามปาดแซงบริเวณคอสะพำน-จุดตัดหรือจุดกลับรถ การรอกลับรถนานขึ้นอยู่กับ พฤติกรรมของคนขับรถ เช่น การไม่ต่อแถว (เสียเวลา) ปาด แซง แทรกพฤติกรรมเหล่านี้อาจ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนถนนได้
5. ห้ามขับคร่อมเลน หลีกเลี่ยงพฤติกรรมขับรถที่เปลี่ยนเลนซ้ายบ้างขวาบ้างหรือคร่อมเลน ผู้ใช้ถนน คนอื่นที่ขับตามหลังมาก็สับสน ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน อาจทำให้เกิดอันตรายตามมา โดยไม่ คาดคิดก็เป็นได้
6. ห้ามขับรถจี้หลังคันหน้า การขับรถให้ปลอดภัยต้องเว้นระยะให้ห่างเพียงพอ เพราะรถไม่สามารถเริ่มเบรกได้พร้อมคันหน้า ทันทีที่คันหน้าเบรกความเร็วก็จะลดลงกะทันหันแต่รถยัง เคลื่อนที่ด้วย ความเร็วคงที่ก็จะเกิดการพุ่งชนเข้าใส่ท้ายรถคันหน้าเป็นอุบัติเหตุที่พบเห็นได้บ่อย
7. ห้ามเปลี่ยนเลนโดยไม่ให้สัญญาณ ทุกครั้งเมื่อจะต้องออกจากที่จอด, กลับรถ หรือการเลี้ยวซ้าย,เลี้ยวขวา ส่วนใหญ่ มักละเลยการให้สัญญาณให้รถคันอื่นมองเห็นโดยไม่ค านึงถึงผู้ที่ขับตามมา กรณีรถคัน หลังที่ขับตามมาด้วยความเร็วอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้
8. ห้ามจอดในที่ห้ามจอด การจอดรถในที่ห้ามจอดหากผู้ขับขี่จอดรถตามลักษณะต้องห้าม 15 ลักษณะจะมีความผิด ซึ่งตาม พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 57 ก าหนดว่าห้ามผู้ขับขี่จอด รถในที่ห้ามจอดมีดังต่อไปนี้
1) บนสะพานหรืออุโมงค์
2) ในทางร่วมทางแยก หรือในระยะ 10 เมตร จากทางร่วมทางแยก
3) ห้ามจอดในทางข้ามหรือในระยะ 3 เมตรจากทางข้าม
4) ห้ามจอดรถในเขตที่มีเครื่องหมายจราจรห้ามจอดรถ
5) ห้ามจอดรถ ในระยะ 3 เมตร จากท่อน ้าดับเพลิง
6) ห้ามจอดรถในระยะ 10 เมตร จากที่ดินตั้งสัญญาณจราจร
7) ห้ามจอดในระยะ 15 เมตรจากทางรถไฟผ่าน
8) ห้ามจอดซ้อนกันกับรถอื่นที่จอดอยู่ก่อนแล้ว
9) ห้ามจอดรถตรงปากทางเข้าออกของอาคารหรือทางเดินรถหรือในระยะ 5 เมตร จากปากทางเดินรถ
10) ห้ามจอดรถในระหว่างเขตปลอดภัยกับขอบทางหรือในระยะ 10 เมตร นับจากปลายสุดของเขต ปลอดภัยทั้งสองข้าง
11) ห้ามจอดรถในที่คับขัน
12) ห้ามจอดรถในระยะ 15 เมตร ก่อนถึงเครื่องหมายหยุดรถประจ าทางและให้จอด เลยเครื่องหมายไป อีก 3 เมตร
13) ห้ามจอดรถในระยะ 3 เมตรจากตู้ไปรษณีย์
14) ห้ามจอดรถในลักษณะกีดขวางการจราจรทั้งนี้หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามทั้ง 13 ข้อ ตามมาตรา 57 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท สามารถแจ้งไปที่สถานีตำรวจท้องที่ให้ดำเนินการ
คุณสมบัติของพนักงานขับรถ : Driver Qualification
พนักงานขับรถมีบทบาทสำคัญที่ต้องทำหน้าที่ของตนเองและถือปฏิบัติตาม ขั้นตอนการทำงานด้วย ความพร้อมความปลอดภัยสอดคล้องกับเงื่อนไขการส่งมอบสินค้า ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านขนส่ง
ตามกฎระเบียบข้อบังคับของกฎหมาย ดังนั้น คุณสมบัติของพนักงานขับรถมีดังนี้
1. พนักงานขับรถต้องมีอายุ 25-60 ปี และมีประสบการณ์ขับรถอย่างน้อย 2-3 ปีขึ้นไป
2. พนักงานขับรถจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ ตรงตามประเภทรถ ระบุวันเดือนปีที่อนุญาต วันหมดอายุ และ ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก 3. พนักงานขับรถจะต้องผ่านการอบรมจาก กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ตามกฎหมาย กระทรวงแรงงาน (จากสถาบันที่ผ่านการอบรมจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน)
4. พนักงานขับรถจะต้องผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมจาก กรมต ารวจเพื่อเป็นการยืนยันประวัติส่วนบุคคลก่อนเข้าปฏิบัติงาน
5. พนักงานขับรถจะต้องผ่านการตรวจสุขภาพประจำปี ตามกำหนดระยะเวลาและ ตรวจโรคที่เป็นอุปสรรค ต่อการทำงานและการขับขี่มีการบันทึกและเก็บรักษาผล การตรวจอย่างเป็นระบบ
6. พนักงานขับรถจะต้องมีเอกสารการเข้าทำงาน, บัตรประชาชน, สำเนาทะเบียน บ้าน, ใบขับขี่, รูปถ่ายและ มีบุคคลรับรองการเข้าทำงาน
7. พนักงานขับรถที่อยู่ในช่วงทดลองงานจะต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหัวหน้า งานและผ่านการ ทดสอบประเมินผลงานก่อนปฏิบัติหน้าที่
8. พนักงานขับรถจะต้องปฏิบัติงานร่วมกับหัวหน้าอย่างน้อย 7 วัน โดยหัวหน้า จะประเมินผลการปฏิบัติงานอีกครั้งก่อนการบรรจุงานเป็นพนักงานขับรถ
9. เมื่อพนักงานที่ผ่านการประเมินแล้วจะได้ลงปฏิบัติงานจริงและจะต้องถูก ประเมินจากลูกค้า โดยทางหน่วยงานจะต้องส่งใบประเมินให้กับลูกค้าผ่านทาง พนักงานขับรถ
10.พนักงานขับรถซึ่งผ่านการทดลองงานจะต้องท าการขึ้นทะเบียนเป็นพนักงาน ขับรถ โดยหน่วยงานทะเบียนขนส่งจะท าหน้าที่ในการขึ้นทะเบียนตาม แบบฟอร์มที่กำหนดพร้อมทั้งออกบัตรประจำตัวพนักงาน
การคัดกรองบุคคลเพื่อบรรจุเป็นพนักงานขับรถ Screening person to be appointed as truck driver
เกณฑ์การคัดเลือกพนักงานขับรถนั้นคัดเลือกจาก “มาตรฐานของความสามารถ ที่จำเป็นต่องาน” ซึ่ง
กระบวนการนี้ ผลการทดสอบจะนำมาใช้ในการวิเคราะห์เพื่อการ พัฒนาซึ่ง “มาตรฐานและคุณสมบัติที่จำเป็น ของพนักงานขับรถ” เป็นขั้นตอนส่วนหนึ่ง ในมาตรฐานการบริหารพนักงานขับรถ โดยปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการประเมิน ความสามารถที่จำเป็นต่องานของผู้ขับรถประกอบด้วย
1.ตัวบุคคล
1) คุณสมบัติที่จำเป็น ต่อตำแหน่งงานของพนักงานขับรถ
2) ทักษะในการขับขี่
3) ความพร้อมด้านสมรรถนะในการขับขี่
4) ทัศนคติด้านคุณภาพในการปฏิบัติงานขนส่ง
5) ประสบการณ์การปฏิบัติงานด้านขนส่ง
2. ความน่าเชื่อถืออ้างอิงหรือตรวจสอบได้
1) เอกสารประจำตัวพนักงานขับรถ บัตรประจำตัวประชาชน, ทะเบียนบ้าน, ใบขับขี่รถยนต์ ถูกต้องครบถ้วน
2) ที่อยู่ปัจจุบันและตามภูมิลำเนา สามารถติดต่อได้
3) มีบุคคลอ้างอิงสามารถติดต่อได้กรณีฉุกเฉิน
4) ตรวจเช็คประวัติอาชญากรรม
3. กำรทดสอบพนักงำนก่อนบรรจุเป็นพนักงำนขับรถ
1) ทดสอบร่างกาย
2) ทดสอบสภาพจิตใจและการแก้ปัญหา
3) ทดสอบทักษะการขับขี่
4) ทดสอบความชำนาญเส้นทาง
5) ทดสอบการตรวจเช็คยานพาหนะก่อนปฏิบัติหน้าที่
การอบรมพนักงานขับรถก่อนปฏิบัติงานจริงTraining driver before operating
บริษัทxxx จำกัด ได้ให้ความสำคัญในเรื่องขอความ ปลอดภัยและประสิทธิภาพของ พนักงานขับรถรวมถึงมูลค่าของสินค้าของลูกค้าในระหว่างที่มีการขนส่ง จึงมีการจัดอบรมให้กับพนักงานขับรถอยู่เสมอ เพื่อเตรียมความพร้อมของพนักงานขับรถ เพราะให้ความสำคัญต่อสินค้าของลูกค้า จึงใส่ใจการขับเคลื่อนสินค้าตั้งแต่ต้นทางไปยังจุดหมายปลายทาง พนักงานขับรถมีบทบาทส าคัญที่ต้องทำหน้าที่ของตนเองและถือปฏิบัติตาม ขั้นตอนการท างาน ด้วยความพร้อม ความปลอดภัยสอดคล้องกับเงื่อนไขการส่งมอบ สินค้าตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านขนส่งมีหลักสูตรที่ต้องอบรมดังนี้
1.การอบรมหลักสูตรพื้นฐานที่ต้องรู้(Basic & Reskill) ประกอบด้วย
1) คู่มือปฏิบัติการมาตรฐานความปลอดภัยขนส่ง 10s Safety Standard Transport Manual
S1: ข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยของพนักงานขับรถและบุคคลที่3
S2: ข้อปฏิบัติของพนักงานขับรถภายใต้การเกิดอุบัติเหตุ
S3: การตรวจสอบสภาพรถบรรทุกเพื่อความปลอดภัย
S4: การตรวจสภาพตู้คอนเทนเนอร์เพื่อความปลอดภัย
S5: ข้อควรระวังความปลอดภัยการขนส่งสินค้าประเภทต่างๆ
S6: การปฏิบัติการขนส่งสินค้าอันตราย (DANGEROUS GOOD)
S7: การป้องกันสินค้าเสียหายและสินค้าไม่ครบ
S8: การป้องกันโจรภัยและขโมยสินค้า
S9: การปฏิบัติการขนส่งเพื่อสิ่งแวดล้อม
S10: CALL CENTER ศูนย์ควบคุมขนส่งอิเล็กทรอนิกส์เพื่อความปลอดภัย
2) ข้อปฏิบัติมาตรฐานและตัวบ่งชี้วัดความปลอดภัย
2.1)ความปลอดภัยพนักงานขับรถ
2.2)ความปลอดภัยยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่ง
2.3)ความปลอดภัยต่อสินค้าระหว่างการขนส่ง
3.) ข้อปฏิบัติ มาตรฐานและตัวบ่งชี้ด้านสุขอนามัย
3.1)การคัดกรองสุขอนามัยของบุคคล
3.2)สุขอนามัยและความสะอาดของยานพาหนะ
3.3)มาตรการลดมลพิษเพื่อสุขอนามัย
4.) เส้นทางการขนส่งสินค้าให้วิ่งตามเส้นทางที่กำหนด หากไม่จำเป็นไม่ควรออกนอกเส้นทางและห้ามนำ รถที่บรรทุกสินค้าไปจอด
ค้างคืน ณ สถานที่ซึ่งไม่ได้กำหนดไว้ในใบส่งของ
5.) ข้อปฏิบัติและข้อกำหนดในเขตโรงงานลูกค้า การใช้ความเร็วในเขตโรงงาน, กฎระเบียบปฏิบัติและข้อห้ามของแต่ละโรงงาน ลูกค้า , จุดพักพนักงานขับ
รถ การติดต่อเพื่อยื่นเอกสาร
6.) อบรมเทคโนโลยีที่ใช้ในงานขนส่ง การแจ้งสถานะรถขนส่ง,การรายงานความพร้อมพนักงานขับรถ , การรายงาน สภาพการจราจร ด้วยระบบ
ไลน
การเตรียมความพร้อมของพนักงานขับรถ Driver Readiness Preparation
1.ความพร้อมด้านบุคคล (ตัวพนักงานขับรถ)
1.1) การแต่งกายด้วยเครื่องแบบตามที่บริษัทกำหนด สวมชุดสุภาพ ห้ามใส่กางเกง ขาสั้นหรือกางเกงขาด โดยเด็ดขาด
1.2) การสวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้ครบชุด เช่น หมวกเซฟตี้และสายรัดคาง, แว่นตา เซฟตี้, รองเท้าเซฟตี้หัวเหล็ก, หน้ากากกรองฝุ่น, หมอนรองล้อ ด้านหน้าด้านหลัง, เสื้อสะท้อนแสง
1.3) การให้ความร่วมมือการตรวจวัดไข้, การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์, การสุ่ม ตรวจวัดสารเสพติด
2. ความพร้อมของยานพาหนะ อุปกรณ์เครื่องมือ
2.1) พนักงานควบคุมรถจะต้องเช็คสภาพรถ (ตามใบเช็คลิส)
2.2) พนักงานควบคุมรถจะต้องเช็คอุปกรณ์ หางพ่วง (ตามใบเช็คลิส)
2.3) พนักงานควบคุมรถจะต้องเช็คอุปกรณ์ซฟตี้ เช่น สายรัด, ฉากกั้น,กรวย สะท้อนแสง, ที่หนุนล้อ, เสื้อสะท้อนแสง, แว่นตา, ผ้าปิดจมูก
2.4) พนักงานควบคุมรถจะต้องมีอุปกรณ์ให้ลูกค้าที่บังคับใช้อุปกรณ์ เช่นโรงงาน เคมี จะต้องมีปล่องคลุมท่อไอเสียรถ, เสื้อแขนยาว, แว่นตากันสารเคมี, ถังดับเพลิง, ไม่ใช้เครื่องมือสื่อสารในโรงงาน
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน Work Procedure for import –export Transport
การตรวจสอบก่อนปฏิบัติงานประเภทใช้รถ 4 ล้อ, 6 ล้อ, 10 ล้อ (ตู้ทึบ)
1) พนักงานขับรถจะต้องมีความพร้อมด้านยานพาหนะและอุปกรณ์เซฟตี้
2) พนักงานขับรถจะต้องปฏิบัติตามคำสั่ง ใบสั่งงานด้วยความละเอียดในคำสั่ง เป็นข้อความสำคัญจะต้อง ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
3) พนักงานขับรถจะต้องตรวจสภาพสินค้า กล่องสินค้า สินค้าบนพาเลท การพัน ฟิล์ม ถ้าพบการฉีกขาด กล่องยุบ บุบ แตกรั่วซึมของสินค้าให้ดำเนินการแจ้ง เจ้าหน้าที่ตรวจปล่อยก่อนรับสินค้า
4) พนักงานขับรถจะต้องทำการรัดสินค้าบนรถให้อยู่สภาพสมบูรณ์ไม่โยก ไม่เอียง วางให้ติดกันเพื่อการเดินทางและความปลอดภัยของสินค้า ถ่ายรูปการรัด สินค้า 3 ด้านส่งในกลุ่มไลน์ก่อนน ารถออกจากท่า
5) พนักงานขับรถจะต้องล็อคซีลประตูรถ ตามขั้นตอนการล็อคซีลและการเซ็นรับ การล็อคซีลประตูตู้เพื่อ การป้องกันสินค้าสูญหาย
6) พนักงานขับรถจะต้องเช็คสภาพซีลกับลูกค้าและเช็คสภาพสินค้ากับลูกค้าและ เซ็นรับสินค้าในใบส่งสินค้าทุกครั้งและถ่ายรูปส่งข้อมูลเข้ากลุ่มไลน
ข้อปฏิบัติในการส่งมอบสินค้า
Cargoes delivery practice
1. พนักงานขับรถบรรทุกต้องตรวจสินค้าสภาพภายนอกที่สามารถมองเห็น ด้วยสายตาปกติ ได้แก่ กล่อง พาเลท แพ็คเก็จสินค้าว่ามีความสมบูรณ์ปลอดภัยในการขนส่งหรือไม่
2. หากพบสินค้าโยกเอียงหรือไม่พาเลทช ารุดต้องแจ้งหัวหน้าขนส่งเพื่อแจ้งผู้เกี่ยวข้องไปถึงสภาพหีบห่อ ด้านนอก เช่น กล่อง ถุง ให้อยู่ในสภาพดี สะอาด อย่างสมบูรณ์และไม่มีรอยเปิดหรือฉีกขาด (กรณีมีเอกสาร Check list ให้ทำ การตรวจสอบความถูกต้องตามที่กำหนดไว้)
3. กรณีสินค้าเป็นกล่อง หรือ ถุง ขณะจัดเรียงสินค้าบนรถพนักงานขับรถจะต้องดูการขึ้นสินค้าด้วยทุกครั้ง ห้ามจอดรถทิ้งไว้โดยเด็ดขาดเมื่อพบปัญหาจะ ดำเนินการแจ้งผู้ที่เกี่ยวข้องทันที
4. พนักงานขับรถบรรทุกต้องตรวจสอบน ้าหนักสินค้าร่วมกับลูกค้าให้ตรงตาม กฎหมายมาตรฐานความปลอดภัยของกรมการขนส่งทางบก เช่น รถ 6 ล้อรับ บรรทุกสินค้าไม่เกิน 5 ตัน, รถ 4 ล้อ รับบรรทุกสินค้าไม่เกิน 1 ตัน
5. พนักงานขับรถบรรทุกต้องปฏิบัติงานร่วมกับลูกค้าในการจัดเรียงสินค้าบนรถบรรทุก จะต้องจัดเรียงให้ชิดติดกัน เพื่อความปลอดภัยและป้องกันสินค้าลื่นชิดติดกัน เพื่อความปลอดภัยและป้องกันสินค้าลื่น
6. พนักงานขับรถบรรทุกต้องตรวจเช็คใบส่งสินค้าว่าถูกต้องหรือไม่ เช่น สถานที่ ส่งสินค้า, จำนวนสินค้า และตามเงื่อนไขที่กำหนด
7. พนักงานขับรถบรรทุกต้องปิดประตูพร้อมล็อกกุญแจหรือซีล ครบทุกประตูให้เรียบร้อยก่อนเคลื่อนรถออก จากพื้นที 8.หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุระหว่างการขนส่งพนักงานขับรถบรรทุก จะต้องรายงานปัญหาให้ทาง บริษัทรับทราบทันที โดยรายงานมาที่หัวหน้าขนส่งเพี่อรายงานปัญหาให้ผู้เกี่ยวข้องและลูกค้าทราบต่อไป
9.การติดตามสถานการณ์จัดส่งเพื่อการส่งมอบสินค้าได้ถูกต้องและทันเวลาที่ลูกค้าก าหนด บริษัทฯ มีระบบ GPSและกลุ่มไลน์ในการติดตามสถานการณ์จัดส่งสินค้า