WI-GR-021 การติดบาร์โค้ดสินค้า
1. วัตถุประสงค์
เพื่อกำหนดมาตรฐานการติดบาร์โค้ดบนสินค้าให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน สามารถสแกนได้ง่าย ถูกต้อง และลดความผิดพลาดในการทำงาน
2. ขอบเขต
ใช้สำหรับการติดบาร์โค้ดบนสินค้าทุกประเภทที่รับเข้ามาในบริษัทฯ ทั้งสินค้าเดี่ยวและบรรจุภัณฑ์
3. ข้อกำหนดการติดบาร์โค้ด:
-
ตำแหน่งและขนาด
: ควรติดบาร์โค้ดในตำแหน่งที่มองเห็นได้ง่าย และมีขนาดที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถสแกนได้ง่าย ความคมชัด: บาร์โค้ดต้องมีความคมชัดและไม่เสียหาย เพื่อให้เครื่องอ่านบาร์โค้ดสามารถอ่านได้อย่างถูกต้องการแยกประเภท: ควรใช้บาร์โค้ดที่เหมาะสมกับประเภทของสินค้าการติดบาร์โค้ดตามหลักวิธีที่ถูกต้อง1. เลือกบาร์โค้ดที่เหมาะสมประเภทบาร์โค้ด: เลือกประเภทบาร์โค้ดที่เหมาะกับประเภทของสินค้าของคุณ เช่น EAN-13 สำหรับสินค้าปลีก, ITF-14 สำหรับบรรจุภัณฑ์กล่องใหญ่, หรือ QR Code สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมการออกแบบ: ใช้ความยาวบาร์โค้ดที่เหมาะสมและการออกแบบที่ช่วยให้สแกนได้ง่าย2. ตำแหน่งการติดบาร์โค้ดมุมมองที่ชัดเจน: ติดบาร์โค้ดในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัดเจน และมีขนาดที่เหมาะสมสำหรับการสแกน-
ความคมชัด: ต้องพิมพ์หรือพิมพ์ลงบนสติ๊กเกอร์ที่มีคุณภาพ ไม่เลือนจาง ไม่เสียหาย
-
การแยกประเภท: เลือกประเภทบาร์โค้ดให้เหมาะสมกับลักษณะสินค้า
4. วิธีการติดบาร์โค้ดที่ถูกต้อง
4.1 การเลือกบาร์โค้ด
-
ประเภทบาร์โค้ด
-
EAN-13 → ใช้กับสินค้าปลีกทั่วไป
-
ITF-14 → ใช้กับบรรจุภัณฑ์/กล่องใหญ่
-
QR Code → ใช้กับข้อมูลเสริม เช่น คู่มือการใช้งาน เว็บไซต์ หรือโปรโมชั่น
-
-
การออกแบบ: กำหนดความยาวและขนาดที่เหมาะสมเพื่อให้สแกนได้ง่าย
4.2 ตำและหน่งการติด
-
ติดในตำแหน่งที่ มองเห็นง่าย ไม่ถูกปิดบัง เช่น
บริเวณที่ด้านข้างหรือด้านล่างของสินค้าไม -
หลีกเลี่ยงการติดในตำแหน่งที่อาจ
ทำให้บาร์โค้ขูดขีด เสียหาย:หลีกเลี่ยงการติดบาร์โค้ดในตำแหน่งที่ือาจสัมผัสกับการขีดข่วนหรือการใช้งานหนัก3.
4.3 ขนาดและความคมชัด
ขนาดที่เหมาะสม:
-
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าขนาด
ของบาร์โค้ด เหมาะสมและมีความละเอียดเพียงพอสำหรกับการสแกพื้นความคมชที่ติดตัดขอ้งการพิมพ์: -
บาร์โค้ดต้องมี ความคมชัด
และสูง ไม่เลือนหายไม่แตก เพื่อให้เครื่องอ่านบการ์โค้ดสามารถอแกนที่านได้อย่างแม่นยำ
4.4 วิธีการติดตั้ง
แถบกาวหรือ
-
ใช้ สติ๊กเกอร์
: ใช้แถบกาวหรือสติ๊กเกอร์ที่มีาวคุณภาพดีและที่ติดแน่นเพื่อป้องกัทนกทารหลุดลอกไม่ให้เกิดรอยยับ:น -
ติ
ดบาร์โค้ดให้ เรียบตรง ไม่ยับ ไม่บิดงอ และไม่ให้เปราศจากิดรอยยับหรือฟองอากาศใต้แถบ
4.5 กาว
5. รตรวจสอบและทดสอบ
การ
-
ตรวจสอบ
: ตรวจสอบว่าบาร์โค้ดทุกชิ้นว่าติดตั้งอย่างถูกต้อำแหน่งและไม่เสียหายการ -
ทดสอบการสแกน
: ทดก่อนนำสอินค้าเข้าสู่กระบวนการสแกนบาร์โค้ถัดเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถอ่านได้ง่ายและแม่นยำ6.ป
4.6 การบำรุงรักษา
-
ตรวจสอบ
ควสภามเสียหาย: ตรวจสอบพบาร์โค้ดเป็นระยะๆเหากพื่อให้แน่ใจว่ายังอยู่ในสภาพดีทำบความเสะียหายต้อาด:งเปลี่ยนใหม่ -
หาก
บาร์โค้ดมีคราบหรือสกปรกควรให้ทำความสะอาดเบาๆ โดยไม่ทำให้บาร์โค้ดเสียหาย
ชำรุด
5. ตัวอย่างวิธีการติดบาร์โค้ดที่ผิดวิธี
-
ติดบนพื้นผิวที่ ไม่เรียบหรือขรุขระ เช่น ข้อต่อเกลียว ทำให้สติ๊กเกอร์หลุดง่าย
-
ติดบาร์โค้ด ซ้อนทับรอยพับหรือมุม จนไม่สามารถสแกนได้
-
ติดในตำแหน่งที่ เสี่ยงต่อการขีดข่วน หรือสัมผัสของเหลว
6. ความรับผิดชอบ
-
พนักงานตรวจรับสินค้า: ตรวจสอบการติดบาร์โค้ดว่าถูกต้องตามข้อกำหนด
-
ผู้ขาย/ผู้ส่งมอบ (Vendor): ต้องส่งมอบสินค้าพร้อมบาร์โค้ดที่ได้มาตรฐาน
-
หัวหน้างาน/ผู้ควบคุม: กำกับดูแลและตรวจสอบกระบวนการติดบาร์โค้ดให้เป็นไปตามคู่มือนี้
ข้อต่อเกลียวใน
เมื่อติดสินค้าบนพื้นผิวที่ไม่เรียบทำให้สติ๊กเกอร์บาร์โค้ดหลุดลุ่ยออกมาร่วงปะในกับสินค้าไซด์อื่นๆ ได้
ตัวอย่างวิธีการติดบาร์โค้ดที่ถูกต้อง
หาพื้นที่ไม่ขรุขระและมีผิวเรียบเพื่อให้การติดสติ๊กเกอร์หนาแน่นและไม่หลุดลุ่ย
ข้อควรปฏิบัติเมื่อ Vender ส่งสินค้ามาแล้วบาร์โค้ดไม่มีหรือบาร์โค้ดยิงไม่ขึ้น
1. วัตถุประสงค์
เพื่อกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติในการตรวจรับและจัดการสินค้าที่บาร์โค้ดยิงไม่ได้ ให้เป็นไปอย่างมีระบบ ป้องกันความผิดพลาดในการรับเข้าสินค้า และสามารถติดตามความรับผิดชอบของ Vendor ได้อย่างโปร่งใส
2. ขอบเขต
ใช้สำหรับพนักงานตรวจรับสินค้า ฝ่ายบริหารสินค้า ฝ่ายจัดซื้อ และ Vendor ทุกคู่ค้า
3. คำจำกัดความ
-
บาร์โค้ดยิงไม่ได้: บริษัทฯ ต้นทางไม่ได้ติดบาร์โค้ดสินค้ามาให้ หรือ มีบาร์โค้ดแต่ บาร์โค้ดที่ไม่สามารถอ่านด้วยเครื่องสแกนเนอร์ได้ หรือไม่มีข้อมูลตรงกับระบบ
-
Vendor: ผู้จำหน่ายหรือผู้ส่งมอบสินค้าให้กับบริษัทฯ
4. บทบาทและความรับผิดชอบ
-
ฝ่ายตรวจรับสินค้า
-
ตรวจสอบบาร์โค้ดทุกครั้งในการรับสินค้า
-
แยกสินค้าและติดป้าย “สินค้าบาร์โค้ดมีปัญหา”
-
รายงานและส่งต่อให้ฝ่ายบริหารสินค้า/จัดซื้อ
-
-
ฝ่ายบริหารสินค้า/จัดซื้อ
-
ประสานงานกับ Vendor เพื่อหาทางแก้ไข
-
กำหนดวิธีการติดบาร์โค้ดใหม่ (โดย Vendor หรือติดแทนและเรียกเก็บค่าใช้จ่าย)
-
ติดตามผลและอนุมัติการรับเข้าสินค้าเมื่อแก้ไขแล้ว
-
-
Vendor
-
ตรวจสอบบาร์โค้ดก่อนการส่งมอบทุกครั้ง
-
แก้ไขหรือชดใช้ค่าใช้จ่ายในการติดบาร์โค้ดใหม่ตามที่บริษัทฯ กำหนด
-
5. ขั้นตอนการปฏิบัติ (Procedure)
-
ตรวจสอบสินค้า
-
เมื่อรับสินค้า ให้พนักงานตรวจรับทำการยิงบาร์โค้ดทุกล็อต
-
หากบาร์โค้ดยิงไม่ได้ ให้แยกสินค้าออกทันที
-
-
แยกสินค้าและบันทึกปัญหา
-
ติดป้าย “สินค้ามีปัญหาบาร์โค้ด”
-
กรอก “แบบฟอร์มรายงานสินค้าบาร์โค้ดยิงไม่ได้” พร้อมรายละเอียด (ชื่อสินค้า, รหัสสินค้า, จำนวน, วันที่, ชื่อผู้ตรวจรับ)
-
-
แจ้งฝ่ายบริหารสินค้า/จัดซื้อ
-
ส่งฟอร์มรายงานและสินค้าที่แยกไว้
-
ฝ่ายบริหารสินค้าประสาน Vendor ภายใน 24 ชั่งโมง ทำการ
-
-
การแก้ไขปัญหา
-
Vendor แก้ไข: ส่งบาร์โค้ดใหม่มาให้ติด หรือมาทำการติดเอง
-
บริษัทติดแทน: หาก Vendor ยินยอม บริษัทฯ ติดบาร์โค้ดใหม่และเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจาก Vendor (3 บาท/ดวง)
-
-
การรับเข้าสินค้า
-
เมื่อบาร์โค้ดถูกแก้ไขเรียบร้อยแล้ว พนักงานตรวจรับทำการยิงทดสอบอีกครั้ง
-
หากถูกต้อง ให้ดำเนินการรับเข้าสินค้าตามระบบปกติ
-
-
การบันทึกข้อมูลและปิดงาน
-
ฝ่ายตรวจรับบันทึกเหตุการณ์ลงในระบบหรือแฟ้มงาน
-
ฝ่ายบริหารสินค้าติดตาม Vendor ว่าได้ชำระค่าใช้จ่ายครบถ้วน (ถ้ามี)
-
6. เอกสาร/แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง
-
แบบฟอร์มรายงานสินค้าบาร์โค้ดยิงไม่ได้
-
ใบแจ้งหนี้เรียกเก็บค่าใช้จ่ายจาก Vendor (ถ้ามี)
8. การประเมินและปรับปรุง
-
แจ้งรายงานการปัญหาาบาร์โค้ดประจำวัน
-
ใช้ข้อมูลนี้ประกอบการประเมิน Vendor ประจำปี