Skip to main content

คู่มือ Website

การอัพเดทราคาสินค้า และ สต็อคสินค้า

1. ไปที่แถบเมนูด้านข้าง กดที่เมนู Product >> All Product จะมีหน้ารายการสินค้าขึ้นมาตามภาพนี้

image.png

2. หลังจากนั้นกดช่องสี่เหลี่ยม ตามภาพ หลังจากนั้นจะมีเครื่องหมายเช็กถูกตามภาพนี้ (เลือกสินค้าไม่ควรเกิน 250รายการ) 

image.png

3. หลังจากเลือกรายการสินค้าครบแล้ว กดที่ Edit Product with Excel จะขึ้นหน้าต่างดังภาพ และกด Download Product List จะได้ไฟล์ออกมา

image.png

4. ส่งไฟล์ให้ it แจ้งรายละเอียดดังนี้

ปรับราคาและ สต๊อก -1 เอาคลัง S1-A+ S1-B
ใช้ราคา1
ยกเว้นสินค้าที่อยู่ในหัวโปรให้เป็นราคาก่อนโปร "ใส่ชื่อโปร และ ระยะเวลาโปร"
ราคาใส่ในช่อง normal price ช่อง sale priceใส่ 0

5. วิธีอัพโหลดไฟล์ หลังจาก it ปรับให้

  • เปิดไฟล์ตรวจสอบว่าตรงกับที่เราแจ้งหรือไม่
  • หากตรง ให้กดที่ Edit Product with Excel  ละกด Choose File ตามภาพด้านล่าง และกด Upload Fileimage.png

การลงบทความ

1. ไปที่แถบเมนูด้านข้าง กดที่เมนู Blog จะขึ้นหน้าตามภาพข้างล่าง

image.png

2. กดปุ่ม Add New Post จะเข้ามาในหน้าสร้าง Post ตามภาพ

image.png

3. ขนาดรูปภาพ Post ที่ web แนะนำคือ

  • Square:500x500px หรือ Horizontal: 730x410px 
  • ขนาดไฟล์ภาพ ไม่ควรเกิน 300 kb
  • กด Add Cover image จะขึ้นหน้าต่างตามภาพ

image.png

4. กดที่ Browse เพื่อเพิ่มไฟล์รูปภาพ

  1. หลังจากเพิ่มให้กดที่รูปภาพจะมีเครื่องหมายเช็คถูกตามภาพข้างบน (แนะนำ ให้ตั้ง Alt ทุกครั้ง ตั้งให้สื่อว่าภาพเกี่ยวกับอะไร)
  2. กดเช็คเช็กถูกที่ Use this Alt for image title
  3. กด Add image

5. เลือกหมวดหมู่ให้เป็นบนความ กดเช็กถูกที่บทความตามภาพ

image.png

6.การตั้งค่าบทความ

image.png

  1. Post name: ให้ตั้งให้น่าสนใจ น่ากดเข้ามาอ่าน ความยาวที่ (แนะนำความยาวควรอยู่ที่ 40-60 ตัวอักษร)
  2. Post introduction: ให้เขียนอธิบายเกี่ยวกับบทความคร่าวๆ ให้เกิดแรงจูงใจกดเข้ามาอ่านแบบเต็ม (แนะนำความยาวควรอยู่ที่ 120-150 ตัวอักษร)

6. การตั้งค่า Tags Setting

image.png

  1. Tags: จะขึ้นอยู่ในส่วนท้ายของบทความ เป็น tags กำกับ
  2. Keyword: ให้ใส่คีย์เวิร์ดที่เราต้องการให้คนหาเจอ และ ใส่คำที่ใกล้เคียง หรือ สื่อความหมายเดียวกัน (เทรน google ปัจจุบัน มีการใส่คีย์เวิร์ดแบบยาวด้วย เพื่อให้เนื้อหาตรงตามที่ผู้ค้นหาต้องการมากขึ้น)
  3. Custom URL: ตั้งค่า URL ให้สื่อความหมายถึงบทความ (แนะนำให้ใส่คีย์เวิร์ดลงไปด้วย และเป็นภาษาอังกฤษ) ถ้าตั้ง URL เป็นภาษาอังกฤษ เวลาแสดงผลใน link จะเข้าใจแบบนี้ https://www.nopadol.com/blog/11460/materials-building ถ้าเป็นภาษาไทยจะเป็น link ที่ยาวและเราดูไม่ออก 

7. การโพส แบ่งเป็น 3วิธี

  1. บันทึกร่างไว้ก่อน: ให้กดที่ Save draft
  2. โพสตอนนี้เลย: ให้กดที่ Publish ->> Publish Now
  3. ตั้งเวลาลง: ให้กดที่ Publish ->> Schedule for later และเลือกวันเวลาที่ต้องการโพส

image.png

***ทริคเพิ่มเติมในเนื้อหาบทความ***

  1. เนื้อหาบทความควรมี คีย์เวิร์ดหลักของเรากระจายอยู่ในบทความ (ไม่ควรเยอะเกินไป)
  2. นอกจากคีย์เวิร์ดหลักสามารถใส่คำอื่นๆที่ใกล้เคียงหรือเกี่ยวข้องได้
  3. เนื้อหาบทความไม่ควรซ้ำกับของคนอื่น
  4. จัดโครงสร้างของบทความให้ดี เช่น
    หัวข้อหลักใช้: H1
    หัวข้อย่อยๆ ใช้: H2 หรือ H3
    เนื้อหาใช้: Paragraph
    หัวข้อย่อยที่เป็นขั้นตอนใช้: bullet list หรือ numbered list
  5. ขนาดตัวหนังสือการจัดวางต่างๆให้ดูง่าย แนะนำ Preview แบบ โทรศัพท์ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์
ลงโปรโมชั่น

1. โปรโมชั่นตอนนี้ทำแบบ Flip-book 

2. การแก้ไปปรับเปลี่ยน กดที่ Edit

image.png

3. จะขึ้นมาหน้าตาแบบนี้ สามารถคลิกไปที่รูปและกดลบได้เลย

image.png

4. กดที่เมนู images แถบซ้ายมือ หลังจากนั้น กด upload image 

5. หากตั้งการเพิ่มหน้ากระดาษ ให้กด ปุ่มแรกตรงขวามือ ตามภาพด้านล่าง

image.png

Google Shopping Tab
  1. เข้า MakeWebEasy
  2. ไปที่แถบด้านข้างซ้ายมือ เมนู SEO&การตลาด >>>>  แสดงสินค้าบน Google Shopping Tab ดังภาพ
    Screenshot 2025-03-21 at 4.04.23 PM.png
  3. จะเข้าสู่หน้าดังภาพ กดเลือกสินค้า
    Screenshot 2025-03-21 at 4.06.25 PM.png
  4. จะแสดงหน้าต่าง ตามภาพ สามารถเลือกสินค้าที่ต้องการและกดเลือกสินค้าได้เลย ก็จะเรียบร้อย
    Screenshot 2025-03-21 at 4.07.50 PM.png
Google Search Console

สำหรับดูอันดับของหน้าเว็บไซต์ และหน้าเว็บที่มีการคลิกและการแสดงผลสูง เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการทำบทความ หรือ โปรโมชั่น

1.เข้า google search console หรือ ลิงก์นี้ >>> https://search.google.com

2. กดเมนูผลการปฎิบัติงาน จะแสดงดังภาพข้างล่าง สามารถเลือกช่วงเวลาได้

image.png

3.เลื่อนลงจะเจอคำค้นหานิยม สามารถนำไปพัฒนาเป็นบทความใหม่ได้

image.png

 

Google Analytics

สามารถใช้ดูกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาดูหน้าเว็บ ว่าเป็นกลุ่มไหน สามารถนำไปต่อยอดทำโปรโมชั่นเป็นช่วงเวลาได้
เวลาที่ลูกค้าใช้งานหน้าเว็บ เช่น หากเป็นบทความแต่ลูกค้าเข้ามาดูโดยใช้เวลาแค่แปปเดียว แสดงว่าบทความไม่น่าสนใจ

  1. ลิงก์สำหรับเข้าดู >>>> google analytics

    image.png

    image.png


Google Keyword Planner

สามารถใช้ดูว่าคีย์เวิร์ดที่เราจะนำมาใช้ในบทความ มีการค้นหาที่มากน้อยแค่ไหน หรือควรเปลี่ยนคีย์เวิร์ด

ลิงก์ >>> google keyword planner 

1.หลังจากเข้ากดที่ ค้นพบคีย์เวิร์ดใหม่ๆ

image.png

2.กรอกคีย์เวิร์ดที่เราสนใจ และกดดูผลลัพธ์

 

image.png

3.เลือกคีย์เวิร์ดที่มีการค้นหาสูง การแข่งขันต่ำ

image.png